ข่าว

'แม้ว'ห่วงน้องสาวส่งรปภ.คุ้มกัน

'แม้ว'ห่วงน้องสาวส่งรปภ.คุ้มกัน

27 มี.ค. 2556

'นายกฯ'ปัดตอบหลัง'ทักษิณ'ส่ง'รปภ.คู่ใจ'มาช่วยคุ้มกัน ปิดปากไม่ให้สัมภาษณ์สื่ออ้างเอาไว้พรุ่งนี้ ขณะที่ สส.พท.ฮือฮา 'ปู'ร่วมประชุมสภา

                27 มี.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ครั้งที่ 3/2556 ที่ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยก่อนเข้าประชุมผู้สื่อข่าวพยายามจะสัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆ แต่นายกฯ กล่าวว่า “เอาไว้พรุ่งนี้ทีเดียวเลยนะคะ”

                เมื่อถามถึงกรณีที่ทีมรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีมีความเปลี่ยนแปลง เพราะมี ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ อดีตรปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีและช่วงที่ใช้ชีวิตในต่างแดนหลังถูกปฏิวัติซึ่งได้ลาออกจากราชการแล้วมาร่วมอยู่ในทีม รปภ.ด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ห่วงความปลอดภัยของน้องสาวหรืออย่างไรจึงได้ส่งคุณธวัชชัยมาเพิ่ม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ตอบคำถามและเดินขึ้นตึกบัญชาการ1 ทันที

                ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า พบว่า วันแรกที่มี ร.ท.ธวัชชัย มาร่วมในทีม รปภ.ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ วันที่ 26 มี.ค.ผ่านมา ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า สาเหตุที่ ร.ท.ธวัชชัย เข้ามาร่วม รปภ.ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เป็นเพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้มาช่วยดูแลน้องสาวในการรักษาความปลอดภัยภาพรวมเท่านั้น แต่ทั้งนี้หัวหน้าทีม รปภ.ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงเป็น พ.ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย หรือ "สารวัตรหนุ่ย" ผู้ช่วยนายเวร (สบ.3) ที่ทำหน้าที่นายตำรวจติดตามเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้พ.ต.ท.วทัญญและร.ท.ธวัชชัย มีความสนิทสนมและทำงานเข้าขากันอย่างมาก เนื่องจากทั้งคู่เคยเป็นทีม รปภ.ของ พ.ต.ท.ทักษิณ  จนได้ฉายาว่า เป็นคู่บอร์ดี้การ์ด Black and white เนื่องจาก ร.ท.ธวัชชัย มีสีผิวค่อนข้างคล้ำ ส่วน พ.ต.ท.วทัญญู มีผิวขาว

 

 

ร่วมงานเลี้ยงหอการค้าไทย-เยอรมัน เชิญนักลงทุนร่วมโครงการกู้2ล้านล้าน

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และจากนั้นเวลา 12.45น. นายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันและกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "European Investments in Thailand and the Kingdom's Future Strategies towards AEC 2015” ของหอการค้าไทย-เยอรมัน ในโอกาสประชุมใหญ่สามัญประจำปี “GTCC Annual Ordinary General Meeting” โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณหอการค้าไทย-เยอรมันที่มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และร่วมยืนหยัดผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเคียงคู่ประเทศไทยมาตลอด ทั้งนี้ความสำเร็จของการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากปัญหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของนักธุรกิจและสินค้าที่มีคุณภาพจากเยอรมนี

                นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเยอรมนี ว่า มีความแนบแน่นและมีพื้นฐานความสัมพันธ์การค้า การลงทุนระหว่างกันมายาวนาน นับตั้งแต่การทำสนธิสัญญาทางไมตรี การค้า และการเดินเรือระหว่างกันเมื่อ 150 กว่าปีที่แล้ว นับจากนั้นธุรกิจเยอรมนีได้นำเทคโนโลยีและการลงทุนมาสู่ประเทศไทยในหลายสาขา อาทิ การธนาคาร โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงธุรกิจที่เยอรมนีมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งตนได้พบนายกรัฐมนตรีเยอรมัน ซึ่งต่างเห็นพ้องถึงความสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะต้องส่งเสริมผลประโยชน์และผลักดันกระบวนการทางด้านประชาธิปไตยร่วมกัน ด้วยความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเยอรมนีดำเนินไปด้วยความราบรื่นและมั่นคง เยอรมนีจึงเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป การลงทุนจากเยอรมนีเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ทั้งสองประเทศจึงควรร่วมมือและผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจให้มั่นคงต่อไป

               นายกรัฐมนตรี กล่าวให้ความมั่นใจว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางเศรษฐกิจและฐานะการคลังที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะมีเสถียรภาพทางการเมือง และมีนโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งปัจจัยด้านการส่งเสริมการลงทุนของไทยที่ผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตกว่าที่คาดไว้ในปีก่อนที่ร้อยละ 6.4 โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5​​-5.5 นอกจากนี้รัฐบาลยังลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 ให้เหลือร้อยละ 20 ทั้งนี้ Fitch ยังได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาลจากระดับ BBB เป็น BBB+ซึ่งไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเมือง แต่ยังรวมถึงฐานะทางการเงินที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้การจัดเก็บรายได้ภาษีของไทยยังได้เกินเป้าหมาย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ประมาณร้อยละ44 ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

               นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า และเพื่อให้ประเทศมีการเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคงและทั่วถึง รวมทั้งยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ไทยมีแผนการลงทุนของประเทศในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากใน 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยยังขาดการลงทุนในโครงการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ไม่เพียงพอ จึงทำให้ในธุรกิจต่างๆมีค่าใช้จ่ายสูง มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันน้อย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ รัฐบาลจึงได้ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะสร้างโอกาสและรายได้ใหม่ๆจากการค้าชายแดนที่เพิ่มขึ้น อันจะเป็นการยืนยันถึงความเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และเป็นประตูสู่อาเซียนของไทย โดยจะมีการออกร่างพระราชบัญญัติ และนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณา

                "โดยรัฐบาลขอเชิญชวนให้นักลงทุนชาวเยอรมันเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของไทย นอกจากนี้รัฐบาลได้ลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำจำนวน 9 พันล้านยูโร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และแก่นักลงทุนจากปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้ รัฐบาลจะสามารถดำเนินโครงการได้ก่อนสิ้นปี โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการทบทวนข้อเสนอ ผ่านขั้นตอนการประมูลระหว่างประเทศอย่างละเอียดและโปร่งใส"นายกฯ กล่าว

                นายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รัฐบาลส่งเสริมการค้าเสรีเพื่อสนับสนุนและขยายตลาด ด้วยความเป็นผู้นำของไทยในด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาค ส่งผลให้การลงทุนต่างๆมีมูลค่ามากขึ้นและมีตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะถูกเน้นย้ำผ่านการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ทั้งนี้ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รัฐบาลกำลังดำเนินการเจรจาเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและ 6 ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ทั้งนี้ ไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เริ่มการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปแล้ว และยังได้บทสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนร่วมมือระหว่างกันในทุกด้านของไทย-สหภาพยุโรป (Thai EU Partnership Cooperation Agreement - PCA)ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าความตกลงเหล่านี้จะช่วยผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างสองฝ่ายได้อย่างมาก

               
 

 

ฮือฮา"ยิ่งลักษณ์"ร่วมประชุมสภาพร้อมยกมือหนุนตั้งกมธ.พิจารณาร่างกม.ประกันชีวิต

                ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม พบว่าเกิดบรรยากาศที่สร้างความฮือฮาให้กับ สส.พรรคเพื่อไทย เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินเข้าไปนั่งร่วมอยู่กับ สส.พรรคเพื่อไทย บริเวณที่เก้าอี้ของ สส.พรรคเพื่อไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นั่งอยู่ตรงกลางระหว่าง นพ.เหวง โตจิราการ และ น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

                โดยระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งอยู่ ได้พูดคุยกับ นพ.เหวง และน.ส.สุนีย์ อย่างอารมณ์ดี นอกจากนั้นแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้ร่วมยกมือสนับสนุนรายชื่อของส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่จะร่วมเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันชีวิต (ฉบับที่....) พ.ศ.... หลังจากที่ที่สภาฯ ลงมติรับหลักการวาระที่หนึ่งด้วย ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้อยู่ร่วมประชุมเป็นเวลา 10 นาทีก่อนที่จะเดินออกจากห้องประชุมเพื่อปฏิบัติภาระกิจอื่นๆ ต่อไป

                ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมฯ ได้ให้นายอิสรา สุนทรวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการเลื่อนลำดับให้มาปฏิบัติหน้าที่แทน พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเสียชีวิต กล่าวปฏิญาณตนก่อนการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ สภาฯ ชุดที่ 24 มี สส.ปฏิบัติหน้าที่รวม 498 คน