ข่าว

จ่อหมายจับโจ๋รุมตื้บ'รปภ.ม.รามฯ'

จ่อหมายจับโจ๋รุมตื้บ'รปภ.ม.รามฯ'

20 มี.ค. 2556

จ่อหมายจับโจ๋โหด!ทำร้าย'รปภ.ม.รามฯ' อีกที่ตำรวจอุดรฯจับโจ๋ ม.3 ดุไล่ยิงรุ่นน้อง ม.2 เจ็บอ้างนึกว่าอริ

               20 มี.ค.56 จากกรณีที่มีการแพร่ภาพ รปภ.ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถูกชายประมาณ 7 คนซึ่งคาดว่าจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ เข้ารุมทำร้ายร่างกาย โดยใช้ไม้และแท่งเหล็กเข้าทุบตี รปภ.นายดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่กลุ่มชายที่ก่อเหตุจะหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันี่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีคนบันทึกภาพขณะก่อเหตุร้ายได้และนำมาแพร่ภาพทางเฟซบุ๊ก

                ล่าสุด พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย สว.สส.สน.หัวหมาก เปิดเผยความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจรู้ชื่อหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุแล้ว ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยชื่อและอยู่ในระหว่างขอหมายจับ ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวนกำลังตามประกบอยู่ และคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ ก่อนขยายผลไปยังผู้ร่วมก่อเหตุต่อไป นอกจากนี้ ทราบว่าคนร้ายเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งทะเลาะกับรปภ.คู่กรณีเรื่องที่จอดรถ ซึ่งรถยนต์ของนักศึกษาที่ก่อเหตุมาจอดในที่ห้ามจอด และเมื่อรปภ.ไปไล่เกิดมีการโต้เถียงกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปแต่นักศึกษาคนดังกล่าวกลับพาพวกมารุมทำร้าย

 

"ม.ราม"เล็งลงโทษวินัย อาญา นศ.รุมทำร้าย รปภ.

               ผศ.ลีนา ลิ่มอภิชาติ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) เปิดเผยภายหลังการเยี่ยม นายทวิชาติ สร้อยมาศ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งจ้างมาจากองค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ถูกนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ทำร้ายเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า มหาวิทยาลัยได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ซึ่งทางบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ช่วยกันพานายทวิชาติส่งโรงพยาบาล และแจ้งความดำเนินคดีกับนักศึกษากลุ่มดังกล่าวที่ สน.หัวหมาก พร้อมทั้งได้จดทะเบียนรถที่คาดว่า จะเป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งนี้ วันนี้ ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญผล อธิการบดีม.ร. ได้มอบหมายให้ตน รองอธิการบดีฝ่ายอาคารและสถานที่ และคณบดีคณะบริหารธุรกิจ ไปเยี่ยมดูอาการ ให้กำลังใจนายทวิชาติ และครอบครัว พร้อมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งที่โรงพยาบาลราชวิถี

               "เท่าที่ได้พูดคุยกับนายทวิชาติ พบว่า นักศึกษากลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นนักศึกษาที่เรียนภาคพิเศษของคณะบริหารธุรกิจ และไม่แน่ใจว่าจะเป็นนักศึกษา ม.ร.ทั้งหมด เนื่องจากนักศึกษาไม่ได้แต่งชุดนักศึกษา แต่ถ้าเป็นนักศึกษา ม.ร.จริง อธิการบดีก็ได้แจ้งแล้วว่า จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัย ไม่ปล่อยให้นักศึกษากระทำผิดอย่างแน่นอน ส่วนการลงโทษทางวินัยนั้น ต้องดูตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยว่าจะพักการเรียน หรือว่าอย่างไร แต่มหาวิทยาลัยจะไม่นิ่งดูดายและจะช่วยเหลือนายทวิชาติอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย" ผศ.ลีน่า กล่าว

               อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีรถเก๋งขับเข้าไปจอดหน้าธนาคารออมสินของ ม.ร. แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปห้ามไม่ให้จอดเนื่องจากเป็นบริเวณห้ามจอด จนเกิดการโต้เถียงกัน ต่อมามีนักศึกษาชาย 2 คน รุมชกต่อย จนกระทั่งมีผู้เข้ามาห้ามและแยกย้ายกันไป โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ถ่ายรูปรถ และหมายเลขทะเบียนเอาไว้ ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวได้เข้าไปบริเวณใต้อาคารใหม่คณะบริหารธุรกิจมีผู้ชาย ประมาณ 4 คน เข้ามารุมทำร้าย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือไม่ เนื่องจากได้พกอาวุธไม้เข้ามาตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

               
 

จับโจ๋ ม.3 ดุไล่ยิงรุ่นน้อง ม.2 เจ็บอ้างนึกว่าอริ

               เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 20 มีนาคม พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมือง อุดรธานี พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ชลธิชา อักษร สว.สส.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวน “พิรุณ” แถลงข่าวจับกุม นายไชยยันต์ หรือตั๋น ไชยจันทา อายุ 19 ปี นายเอ นายบี นายซี  (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ด.ช.ดี และ ด.ช.อี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎร ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก จักรยานยนต์ 7 คัน โดยกล่าวหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น”

                ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเวลา 00.15 น. วันที่ 19 มีนาคม พ.ต.ท.ศุภภาษ จิตตรัตน์ พงส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ศูนย์อุดรธานี  จึงออกไปสอบสวน พบ ด.ช.ดำ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไม่ทราบขนาด กระสุนลูกปรายเข้าที่แขนขวา 1 นัด และ ด.ช.แดง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี  ถูกยิงอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าบริเวณต้นคอ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ โดยให้การว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเที่ยวงานบุญแจกข้าวที่บ้านหนองตอ แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่ยิง เหตุเกิดบริเวณถนนท้ายหมู่บ้านแวง หมู่ 2 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี

                จากการสอบสวน นายเอ ให้การว่า กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี  นั่งจับกลุ่มอยู่ที่สะพานบ้านหนองตอ หลังจากถูกกลุ่มคู่อริบ้านเชียงพิณตามไล่ยิงเป็นจังหวะเดียวกันกับผู้บาดเจ็บได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 คนผ่านมาพอดี พวกตนนึกว่า เป็นคู่อริบ้านเชียงพิณ จึงขี่รถติดตามไปไล่ยิง ถึงท้ายหมู่บ้านแวง ต.หมูม่น โดยไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียนรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน  หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนฝาก นายเอฟ (นามสมมติ) ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกันไปซุกซ่อนไว้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน กระทั่งมาถูกตำรวจจับ