ผงะ!พบซากลูกแมวยัดไส้กรอกอีสาน | คมชัดลึก

               18 มี.ค.56 หลังได้รับแจ้งว่ามีซากแมวยัดไส้ในไส้กรอก ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 1 บ้านกระสังต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ของนายสาวิดย์ ยอดจงรัมย์ อายุ 36 ปีเจ้าของบ้าน และพบว่า มีชาวบ้านจำนวนมาจุดธูปเทียนกราบไหว้ซากแมว

               จากการสอบถามทราบว่า น.ส.กรด จงยอดรัมย์ อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 1 บ้านกระสัง ต.กระสัง อ.สตึก  ซึ่งเป็นพี่สาวได้ซื้อไส้กรอกอีสานจากนางตำ พูนทับถม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33หมู่ 1 บ้านกระสัง ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แม่ค้าขายไส้กรอกในหมู่บ้าน ซึ่งบอกว่าเป็นไส้กรอกที่ซื้อมาจากแม่ค้าขายส่งไส้กรอก ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึก เมื่อวันที่ 13 มี.ค.56               

               "โดยไส้กรอกไม่มีลักษณะภายนอกผิดปกติเหมือนไส้กรอกหมูอีสานทั่วไปมีลักษณะเป็นก้อนยาวเกือบคืบ จำนวน 3 ชิ้น พอมาถึงบ้าน นางสาวกรด ได้นำไส้กรอกออกมาทอดทั้ง 3 ชิ้น  จากนั้นนำไปตั้งวงกินข้าวในเย็นวันที่ 15 มีนาคม โดยมีนางสำเริง จานรัมย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 1บ้านกระสัง ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อนบ้าน และลูกๆร่วมนั่งกินด้วย  หลังจากที่กินไส้กรอกหมดไปแล้ว 2 ชิ้น ได้เริ่มลงมือกินชิ้นที่ 3 พบว่า ไม่สามารถฉีกไส้กรอกได้ตามปกติ จึงได้สังเกตเห็นว่าเนื้อมีรูปร่างแปลก จึงได้พากันหยิบดูถึงกับขนหัวลุกแทบจะอาเจียนกัน เพราะในไส้กรอกมีซากลูกแมวยัดไส้เข้ามาด้วย สภาพยังมีตาจมูก และปากอย่างชัดเจน ต่างตกใจปนสยองขนหัวลุกไม่กล้ากินข้าวกันต่อ" น.ส.กรด กล่าว

               ทั้งนี้ ชาวบ้านเลยนำไส้กรอกซากแมวเก็บไว้บูชาภายหลัง ชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันมากราบไหว้ขอโชคลาภ คอหวยหลายคนนำเลขที่บ้าน ไปแทงหวย ปรากฏว่า หวยงวดวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มีคนถูกเลขท้าย 2 ตัว 52 ตรงกับเลขที่บ้าน และถูกกันทั้งหมู่บ้านมีได้เงินรวมกว่า  7 แสนบาท               

               อีกทั้ง กลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวจำนวนมากแห่มาดูไม่ขาดสาย บางคนจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอโชคลาภตามความเชื่อของชาวบ้าน โดยชาวบ้านไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสตึกนำไส้กรอกซากแมวไปตรวจพิสูจน์ ขอทำบุญอุทิศส่วนกุศลในวันที่ 21 มี.ค.นี้ก่อน แต่หากจะนำไปตรวจพิสูจน์ชาวบ้านร้องขอไม่ให้มีการผ่าซากแมวแต่ขอให้ตัดเพียงเนื้อเยื่อบางส่วนไปเท่านั้น            
  
               นางสำเริง จานรัมย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17มี.ค.ที่ผ่านมาได้นำคนทรงมาทำพิธี ร่างทรงบอกว่า มีเทพ 9 องค์มาสิงสถิตย์ในซากแมว เพื่อจะมาช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์โศกให้กับชาวบ้านเพื่อจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกรงว่าหากมีการนำซากแมวออกไปจากหมู่บ้านแล้วอาจจะเกิดสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นในหมู่บ้าน จึงขอให้มีการทำบุญก่อน

               ด้านนายเลิศ ยอดสะเทิ้น สาธารณสุขอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบว่าแม่ค้าที่นำไส้กรอกมาขาย เป็นแม่ค้าที่มาจาก อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ได้เช่าแผงขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึก เพื่อขายไส้กรอกที่ทำขึ้นเองมานานกว่า 2 ปี ทั้งขายปลีกและขายส่งซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบสิ่งผิดปกติ จนกระทั่งมีชาวบ้านจาก บ.กระสัง  ต.กระสัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มาซื้อไปขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านและพบว่าเป็นไส้กรอกซากแมวปะปนมาด้วย จึงได้ประสานยังสาธารณสุขอำเภอชุมพวงให้เข้าไปตรวจสอบยังบ้านของนายพงษ์พัฒน์ ไชยกิตติ อายุ 50 ปีอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 2 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ที่นำไส้กรอกมาวางขาย ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึกถึงขั้นตอนการผลิตไส้กรอกอีสานมาวางขายดังกล่าว พร้อมประสาน อสม.ทำความเข้าใจชาวบ้านถึงกระแสข่าวเกิดขึ้น อย่าได้วิตกกังวลเพราะเกิดขึ้นเพียงรายเดียวเท่านั้น               

               ขณะที่ นางละไม คำสวาท อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 449 หมู่ 16 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แม่ค้าทำไส้กรอกขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลสตึก รายหนึ่ง กล่าวว่า หวั่นเกรงกระแสข่าวไส้กรอกซากแมว กระทบกับยอดขายไส้กรอกอยู่บ้างแต่ตนทำไส้กรอกมาขายในแต่ละวันจำนวนไม่มาก และขายหมดทุกวันเพราะทำเองขายสดใหม่ทุกวัน อีกทั้งมีลูกค้าขาประจำอยู่แล้ว           
             

                ชาวลำปางแห่ดูต้นตะเคียนยักษ์200ปี

              อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อเวลา 15.00 น. ชาวบ้านในหมู่บ้าน วังพร้าวพัฒนา ม.7 ต.วังพร้าว อ.เมือง จ.ลำปาง และชาวบ้านใน ต.วังพร้าวกว่า 500 คน ได้พากันมา รวมตัวที่ลำน้ำแม่จาง เพื่อมารอดูการขุดและยกต้นตะเคียนยักษ์ หลังนายสมคิด พินโย ผู้ใหญ่บ้านวังพร้าวพัฒนา ได้นำรถแบ็คโฮ 2 คัน รถไถ 1 คัน และรถยกขนาดใหญ่อีก 1 คัน รวม 4 คัน จะลงไปในลำน้ำแม่จาง เพื่อนำต้นตะเคียนยักษ์ขนาดใหญ่กว่า7 คน โอบ และยาวกว่า 50 เมตร ขึ้นจากลำน้ำแม่จาง หลังชาวบ้านเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ที่ต้นตะเคียน

              จากนั้นเครื่องจักรกลทั้งหมด ได้พยายามที่จะยกต้นตะเคียนยักษ์แต่ก็ใช้เวลานายสมควร เนื่องจากต้นใหญ่ และน้ำหนักมาก ค่อย ๆ ขยับ แต่สามารถ นำขึ้นมาได้ โดยชาวบ้านเชื่อว่า ต้นตะเคียนยักษ์ น่าจะมีอายุมากกว่า 200 ปี หลังจากที่นำขึ้นฝั่งได้แล้ว ทางหมู่บ้านวังพร้าวพัฒนา ก็จะประกอบพิธีทางศาสนาอีกครั้ง แล้วจะเปิดให้ประชาชนได้กราบไหว้