
'คนไทย'เสี่ยง!ใส่หมวกกันน็อค52%
'มูลนิธิไทยโรดส์' เผยอัตราการสวมหมวกกันน็อคทั่วประเทศ เพียง 52% ชี้เด็กไทยน่าห่วง ใช้น้อยสุดเพียง 7% เสนอ 6 ข้อ จี้รัฐดำเนินการอย่างจริงจัง
15 มี.ค. 56 มูลนิธิไทยโรดส์ เครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน ศูนย์วิชาการเพื่แความปลอดภัยทางถนน (ศวปก.) มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด จัดแถลงสถานการณ์เฝ้าระวังความปลอดภัยทางถนน ภาพรวมผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่สวมหมวกนิรภัยทั่วทั้งประเทศ
นายศิลปชัย จารุเกษมรัต ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 1 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 30 คน โดยร้อยละ 70-80 ของการเสียชีวิตนั้น เกิดจากผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย จึงสะท้อนว่าที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะได้มีทำการรณรงค์การขับขี่ปลอดภัย โดยเฉพาะประเด็นการสวมหมวกนิรภัยมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การสวมหมวกนิรภัยก็เป็นกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกมาตั้งแต่ปี 2539 แต่สาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตทางถนนจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ก็ยังคงเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงมีโอกาสบาดเจ็บบริเวณศรีษะอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
นายดนัย เรืองสอน ประธานมูลนิธิไทยโรดส์ กล่าวว่า จากการสำรวจของเครือข่ายเฝ้าระวังทางถนน เกี่ยวกับการใช้หมวกนิรภัยของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ ทั้งในเขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง และเทศบาลตำบล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,200 แห่ง พบว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้รถจักยานยนต์มากถึง 1.5 ล้านคัน ซึ่งภาพรวมของการสวมหมวกนิรภัย ในปี 2555 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ขับขี่ที่สวมหมวกนิรภัยระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ มีเพียง ร้อยละ 52 ส่วนผู้โดยสารที่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 20 เท่านั้น
นายดนัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า กลุ่มเด็กมีการสวมหมวกนิรภัยน้อยที่สุด เพียง ร้อยละ 7 สาเหตุสำคัญเกิดจากตัวผู้ปกครองเอง ที่บางครั้งไม่ได้จัดหาหมวกนิรภัยสำหรับเด็กให้เก็บบุตรหลาน ซึ่งในระยะยาวจะต้องมีการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น ก็สวมหมวกนิรภัยค่อนข้างน้อยเช่นเดียวกัน อยู่ที่เพียง ร้อยละ 28 ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่มีการสวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 49 แม้จะมากที่สุดในปี 2555 แต่หากเทียบสถิติในปีที่ผ่านมา กลับพบว่าประชาชนทุกกลุ่ม มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัย 100% ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554
"อัตราการสวมหมวกนิรภัยแบ่งตามกลุ่มช่วงอายุ มีแนวโน้มลดลงเป็นอย่างมาก โดยในปี 2553 กลุ่มผู้ใหญ่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 52 ปี 2554 ร้อยละ 53 แต่พอปี 2555 กลับเหลือเพียง ร้อยละ 49 ส่วนกลุ่มวัยรุ่น ปี 2553 สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 32 ปี 2554 ร้อยละ 34 แต่ปี 2555 ลดลงเป็น ร้อยละ 28 ในกลุ่มเด็ก ปี 2553 ร้อยละ 8 ปี 2554 ร้อยละ 9 และปี 2555 เหลือร้อยละ 7 จุดที่น่าสังเกตคือ ในปี 2554 ถาครัฐมีการรณรงค์ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ตัวเลขผู้สวมหมวกนิรภัยจึงมากขึ้นเล็กน้อย แต่พอปี 2555 อัตราการใช้กลับลดต่ำกว่าใน ปี 2553 ในทุกกลุ่มอายุ" นายดนัย กล่าว
นายดนัย กล่าวอีกว่า สำหรับ 5 อันดับแรก ของจังหวัดในประเทศไทยที่มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยน้อยที่สุด ในปี 2555 ได้แก่ บึงกาฬ ร้อยละ 16 ลำพูน ชัยภูมิ นราธิวาส ร้อยละ 19 และนครพนม ร้อยละ 20 ส่วน 5 อันดับแรก ของจังหวัดที่มีอัตราการสวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 80 ภูเก็ต นนทบุรี ร้อยละ 67 สมุทรปราการ ร้อยละ 61 และ ปทุมธานี ร้อยละ 56 ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมการใส่หมวกนิรภัยแต่ละจังหวัด พบว่าในพื้นที่ชุมชนเมืองประชาชนจะสวมหมวกนิรภัยสูงถึง ร้อยละ 74 ในขณะที่พื้นที่บริเวณเทศบาลตำบลหรือชุมชนเล็ก สวมหมวกนิรภัยเพียง ร้อยละ 28 เท่านั้น
ด้าน นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกด้านการป้องกันอุบัติเหตุ กล่าวว่า จากสถิติพบว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั่วโลก ร้อยละ 23 เกิดจากรถจักรยานยนต์ และระดับอายุของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่าง 15-44 ปี สำหรับประเทศไทย อยู่ที่อันดับ 6 ของโลกที่มีความปลอดภัยทางถนนน้อยที่สุด และเมื่อดูที่คะแนนด้านการสวมหมวกนิรภัยได้คะแนน 6 เต็ม 10 คะแนนเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า ประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม ได้ 9 คะแนน อินโดนีเซีย ลาว ได้ 8 คะแนน ส่วน มาเลเซีย กัมพูชา พม่า ใกล้เคียงกับประเทศไทย ได้ 5-6 คะแนน ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทุกหน่วยงานที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนของไทยต้องหามาตรการป้องกัน และรณรงค์เพื่อปรับพฤติกรรมของคนไทยเพื่อให้หันมาสนใจความปลอดภัยมากขึ้น
"สถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนนของไทยจัดว่าอยู่ในขั้นรุนแรง สอดคล้องกับความกังวลขององค์การอนามัยโลกที่มีต่อปัญหานี้ เนื่องจากคนในประเทศกำลังพัฒนาใช้รถจักรยานยนต์เป็นรถครอบครัว และนำมาใช้เป็นรถขนของมากที่สุด โดยมาตรฐานของพาหนะแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน จึงเป็นเหตุแต่ละปียังมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจำนวนมาก" นายแพทย์วิทยา กล่าว
นายแพทย์วิทยา กล่าวด้วยว่า ได้ทำข้อเสนอ 6 ข้อ เพื่อยกระดับสถานการ์สวมหมวกนิรภัย คือ 1. ให้รัฐบาลประกาศใช้นโยบายหมวกกันน็อก 100% อย่างจริงจัง 2. มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด 3. มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง 4. ส่งเสริมให้มีการเปิดขายหมวกกันน็อกทุกขนาด 5. ส่งเสริมเรื่องการทำข้อมูลการใช้หมวกกันน็อกอย่างเข้มข้นให้เหมือนกับการปราบปรามยาเสพติด และ 6. ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล