สตรีดีเด่นกับหน้าจอมปลอมสหรัฐ(3) | คมชัดลึก

                         การกลืนน้ำลายตัวเองของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่จู่ๆ ประกาศยกเลิกการมอบรางวัล "สตรีผู้กล้าหาญ" ประจำปีนี้ให้แก่ ซามิรา อิบรอฮิม นักเคลื่อนไหวสาวจากแดนสฟิงซ์ชาวอียิปต์ เพราะชื่นชมในความกล้าหาญที่เธอกล้ายื่นเรื่องฟ้องศาลกล่าวหาตำรวจว่าได้คุกคามทางเพศผู้ประท้วงหญิงที่ถูกจับตัวไปสอบปากคำด้วยการจับตรวจพรหมจรรย์ อ้างว่าเพื่อป้องกันการถูกแบล็กเมล์ว่าถูกตำรวจข่มขืน โดยเธอก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกตำรวจล่วงละเมิดทางเพศ มีขึ้นหลังจากที่ทางการเพิ่งสืบสาวประวัติในอดีตของเธอแล้วพบว่าเธอกล้าหาญเกินตัว เพราะกล้าโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์โจมตีอินทรีผยองอเมริกา อีกทั้งยังแสดงความชื่นชมที่มีการก่อวินาศกรรมอาคารระฟ้าเวิลด์เทรดเมื่อวันที่ 11 กันยายน รวมทั้งการสังหารชาวยิว พันธมิตรแนบแน่นของสหรัฐ

                         ปัญหาทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้นหากนิตยสารสแตนดาร์ด ซึ่งมีจุดยืนอนุนักษนิยมเต็มตัวจะไม่ไปสืบค้นประวัติของ "10 สตรีผู้กล้าหาญ"  ก่อนจะพบว่าซามิรา อิบรอฮิม เคยโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์เมื่อเดือนสิงหาคมว่า "เกิดระเบิดขึ้นบนรถโดยสารคันหนึ่งที่สนามบินบูร์กาสในบัลแกเรียแถบทะเลดำ ที่มีผู้โดยสารเป็นชาวอิสราเอล วันนี้ช่างเป็นวันสุดแสนหอมหวานเต็มไปด้วยข่าวดีที่หอมหวานจริงๆ"

                         นอกจากนี้เธอยังได้โพสต์ความเห็นเมื่อวันที่ 11 กันยายนว่า "วันนี้เป็นวันรำลึกเหตุการณ์ 9/11 ขอให้ทุกๆ ปีเกิดเหตุการณ์เผาอเมริกาด้วย"

                         พอข่าวนี้แพร่กระจายออกไป สื่อมะกันก็วิจารณ์อย่างไม่มีชิ้นดีว่าอาการหน้าแตกอย่างชนิดเย็บไม่ติดของนักการทูตอเมริกันครั้งนี้มาจากความสะเพร่าและการทำงานอย่างลวกๆ แค่เปิดหนังสือพิมพ์หาชื่อผู้หญิงสักคนหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวใหญ่แล้วส่งมาให้กระทรวงต่างประเทศพิจารณา ซึ่งก็ทำงานแบบสุกเอาเผากินเช่นกัน

                         สุดท้ายกรรมก็ตกอยู่กับซามิรา อิบรอฮิม ซึ่งกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ในชั่วพริบตาโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่นับตั้งแต่ถูกเลือกและถูกยกเลิกรางวัล โดยความผิดของเธอไม่ได้อยู่ที่เธอกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเฉกเดียวกับเซอริง เหว่ยเส้อ ชาวทิเบต หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลสตรีผู้กล้าหาญประจำปีนี้เช่นกัน แต่ผิดตรงที่ความคิดเห็นของเธอนั้น กลับขัดผลประโยชน์ของวอชิงตัน ซึ่งรู้ๆกันอยู่ว่าใจแคบไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือการกระทำใดๆ ที่จะขัดแย้งกับตัวเอง

                         สิ่งที่เกิดขึ้นเท่ากับตอกย้ำว่าแดนอินทรีได้สร้างกรอบความหมายของ "ผู้หญิงที่กล้าหาญ" ที่ตัวเองต้องการเท่านั้น  ไม่ใช่ต้องการจะเชิดชูผู้หญิงกล้าหาญจริงๆ ที่กล้าต่อกรกับสังคมอยุติธรรมไม่

--------------------

(นอกบ้านผ่านเมือง : รางวัลสตรีดีเด่นกับหน้ากากจอมปลอมสหรัฐ (3) : โดย...บุญรัตน์  อภิชาติไตรสรณ์)