ข่าว

รวบ'มือสัก'เมืองจันท์ลวงม.2ข่มขืน

รวบ'มือสัก'เมืองจันท์ลวงม.2ข่มขืน

05 มี.ค. 2556

ตร.ระยองรวบอาจารย์สักยันต์เมืองจันท์ลวงม.2 ข่มขืน เจ้าสำนักรับสารภาพลงมือข่มขืนจริง ตร.ภูเก็ตจับแท็กซี่ป้ายดำหลอกสาวคาราโอเกะข่มขืนแต่ไม่เสร็จกิจ

               เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มีนาคม  พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สมโชค พลชุมแสง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.หญิงสาธณี คงประศาสน์ พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายศาล จ.ระยอง เลขที่ จ.125/2556 เข้าจับกุมนายสุรสิทธิ์ หรืออี๊ด นพกูลวงษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.4 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 66/1 ม.6 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง  เปิดเป็นตำหนักบรมครูปู่ฤาษีเดินดงฉายาอาจารย์ใหญ่ รับสักยันต์และสักลายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมการสักยันต์ หลังก่อคดีลวงนักเรียนสาวชั้น ม.2 ไปข่มขืน

               ทั้งนี้วันที่ 27 ก.พ.ร.ต.อ.(หญิง)สาธณีได้รับแจ้งจากนางน้อย(นามสมมุติ) ชาวบ้านฉาง จ.ระยอง พา ด.ญ.อ้อย(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 บุตรสาวเข้าแจ้งความว่า  บุตรสาวมีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม จึงได้คาดคั้นทราบว่าวันที่  28 ม.ค.  หลังเลิกเรียนบุตรสาวได้กลับบ้านพร้อมกับเพื่อนโดยรถยนต์ เพื่อนชายคนนี้รับปากว่าจะพาไปส่งที่บ้าน ภายในรถคันนี้มีชายที่นั่งอยู่ในรถ ทราบขณะนั้นว่าชื่อ "พี่ใหญ่" กลับพาไปที่สำนักสักยันต์ตำหนักบรมครูปู่ฤาษีเดินดง   จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายเข้าไปคอยในห้องพักด้านหลัง  ต่อมาชายที่เพื่อนเรียก"พี่ใหญ่" เข้ามาหาผู้เสียหายทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยที่ท้องจนสลบ แล้วทำการข่มขืนบุตรสาว 2 ครั้ง และสั่งห้ามบอกกับใคร   ต่อมาวันที่ 30. ม.ค. ชายคนดังกล่าว มารับบุตรสาวที่โรงเรียนเพื่อไปข่มขืนยังที่เกิดเหตุที่เดิมแล้วขู่บังคับห้ามบอกใคร  เมื่อเห็นพฤติกรรมบุตรสาวเปลี่ยนไป จึงคาดคั้นจนทราบเรื่อง  จึงได้นำตัวมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี

               พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบสวนหาพยานหลักฐาน จึงทราบว่าคนที่ลงมือข่มขืน ด.ญ.อ้อยคือนายสุรสิทธิ์ ตั้งตัวเป็นเจ้าสำนักสักยันต์  มีผู้มาใช้บริการมากมายทั้งคนไทยและต่างประเทศ ในราคา 2,500 -15,000 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของลวดลาย โดยเรียนการสักมาจากครูจังหวัดจันทบุรี 3 เดือน  จากนั้นจึงได้เปิดสำนักเป็นเวลา 2 ปี  มีผู้มาใช้บริการพอสมควร  จึงได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดระยองเข้าจับกุม และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือข่มขืนจริง โดยได้ลงมือข่มขืนถึง 2 ครั้ง และทำร้ายร่างกายด.ญ.อ้อย 

               "จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจารโดยบุคคลนั้นไม่ยินยอม ปราศจากเหตุอันควรพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารและทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี" พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวและว่า

               อยากให้ผู้ที่ถูกกระทำการข่มขืนรายอื่นมาชี้ดูตัวแจ้งเพิ่มได้ที่ สภ.เพ  ขณะนี้ทางตำรวจกำลังตรวจสอบว่านายสุรสิทธิ์อยู่ในข่ายแต่งกายเลียนพระสงฆ์เพื่อให้คนหลงเชื่อหรือไม่  รวมทั้งกำลังสอบสวนเพื่อนที่ลวงให้ผู้เสียหายขึ้นรถมากับนายสุรสิทธิ์กระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น หากพบว่ารู้เห็นด้วยก็จะแจ้งความเอาผิดทันที
 

ตร.ภูเก็ตจับแท็กซี่ป้ายดำหลอกสาวคาราโอเกะข่มขืนแต่ไม่เสร็จกิจ

             อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อเวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมห้องสืบสวนชั้น 3 สภ.เมือง ภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ รองสว.สส.และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสุขสันต์ หมอน้ำร้อน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/1 ม.7 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมด้วยของกลางเงินสด 4,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง สร้อยคอเงิน 2 เส้น สร้อยคอทองแดง 1 เส้น นาฬิกา 1 เรือน น้ำมันทาผิว 3 ขวด กระเป๋าสตางค์แบบผู้หญิงสีแดง 1 ใบ ที่ชาร์จโทรศัพท์ 1 อัน บัตรประชาชนของผู้เสียจำนวน 1 ใบ บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ บัตรจำนำ 1 ใบ และเอกสารอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 32/8 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ทุ่งทอง ดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนและกักขังหน่วงเหนี่ยว เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
 
             พ.ต.ท.ประวิทย์กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนางสาวพร (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พนักงานเสิร์ฟร้านคาราโอเกะได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งทอง ว่าถูกนายสุขสันต์ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ป้ายดำหมายเลขทะเบียน กน-9463 ภูเก็ต  ข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นก็ได้ใช้สายไฟมัดมือ ก่อนที่จะลักทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง แล้วหลบหนีไปจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถยนต์ จนกระทั่งทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายสุขสันต์พักอยู่ที่ ต.เกาะแก้ว

             กระทั่ง พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผกก.สภ.ทุ่งทอง ได้ประสานมายัง พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมผู้นายสุขสันต์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายจนเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัวมาได้พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดที่บ้านพักของนายสุขสันต์

             ด้านนายสุขสันต์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาได้ขับแท็กซี่ป้ายดำคันดังกล่าวไปเที่ยวร้านคาราโอเกะและได้รู้จักกับนางสาวพรที่เป็นพนักงานเสิร์ฟจากนั้นก็ได้ชักชวนออกมาเที่ยวก่อนที่จะพากันเข้าไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ตแต่ทำภารกิจแต่ไม่เสร็จ จึงได้บังคับให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปเพื่อนำตัวไปอีกโรงแรมหนึ่งในพื้นที่ทุ่งทอง แต่ในระหว่างนั้นผู้เสียหายได้เข้าทำร้ายร่างกายจึงได้ใช้ปากกัดเข้าที่นิ้วของผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อถึงโรงแรมด้วยความโมโหจึงได้เข้าทำร้ายร่างกายของผู้เสียหาย ก่อนที่จะใช้สายไฟมัดมือทั้งสองข้างและบังคับให้บอกรหัสของบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่จะจับผู้เสียหายให้นอนราบกับเตียงแล้วได้หยิบกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย หลบหนีกลับบ้านพัก จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา