ข่าว

ไขคดี!จัดฉากสังหาร13ลูกเรือจีน(4)

ไขคดี!จัดฉากสังหาร13ลูกเรือจีน(4)

03 มี.ค. 2556

คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : ไขคดี 'สลัดแม่น้ำโขง' จัดฉากสังหาร 13 ลูกเรือจีน (ตอน 4) : โดย...ทีมข่าวรายงานพิเศษ

                         หลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลของทางการจีนนานร่วมปีในที่สุด "นายหน่อคำ" ราชายาเสพติด และหัวหน้ากลุ่มโจร "สลัดแม่น้ำโขง" ก็ถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมๆ กับลูกสมุนอีก 3 คน คือ นายซานคำ นายอีไหล และ นายจาซีข่า

                         ทั้ง 4 คน ถูกศาลเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน พิพากษาให้ประหารชีวิต โดยเห็นว่ามีความผิดจริงตามข้อหากล่าวหาในคดีร่วมกันปล้นฆ่าลูกเรือขนส่งสินค้าชาวจีน จำนวน 13 ศพ เหตุเกิดเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ขณะเรือสินค้าจีนจำนวน 2 ลำคือเรือ Yu Xing 8 Hao และเรือ Hua Ping Hao กำลังแล่นอยู่ในแม่น้ำโขงในน่านน้ำประเทศไทย เขต อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

                         การตายของนายหน่อคำ และพวก ยังไม่ถือเป็นการสิ้นสุดของคดีสังหาร 13 ลูกเรือจีน คดีซึ่งสะเทือนต่อความสัมพันธ์อันดีของ 4 ประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย ไทย จีน พม่า และลาว เนื่องจากระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล นายหน่อคำ และพวก ให้การซัดทอดถึงกลุ่มทหารไทยบางรายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อคดีดังกล่าว โดยอ้างว่าทหารไทยเข้าไปเกี่ยวข้องในการจัดฉากให้เป็นคดีวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ซึ่งก่อนหน้านี้ทหารกองกำลังผาเมืองจำนวน 9 นาย ได้เข้ามอบตัวต่อสู้คดีไปแล้ว

                         ตามคำให้การของนายหน่อคำและพวกอ้างว่า ได้มอบหมายให้ นายจำรัส หรือลุงหนวด หรือโน่หลัว สมพงษ์พรรณ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับแกนนำของกลุ่ม "สลัดแม่น้ำโขง" ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทหารไทยประสานงานในปฏิบัติการครั้งนี้ โดยมีการนัดหมายวางแผนกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนเกิดเหตุลูกเรือจีนถูกสังหาร 2 วัน

                         ซึ่งในคำให้การนั้นยังระบุถึงรายละเอียดแผนปฏิบัติการครั้งดังกล่าวด้วยว่า กลุ่มกองโจรติดอาวุธภายใต้การนำของนายหน่อคำทำหน้าที่ในการเข้ายึดเรือสินค้าจีน จับลูกเรือมัด นำยาบ้ากว่า 9 แสนเม็ดซุกไว้บนเรือ นำเรือสินค้าเข้าสู่น่านน้ำประเทศไทย จากนั้นเป็นหน้าที่ของทหารไทยซึ่งมีการนัดหมายกันไว้รับช่วงปฏิบัติการต่อ

                         คำให้การซัดทอดถึงทหารไทยของนายหน่อคำและพวก สอดคล้องกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บได้จากบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะวิถีกระสุนที่พบบริเวณกราบซ้าย (ด้านที่หันเข้าริมตลิ่ง) ของเรือทั้ง 2 ลำ ที่พบว่ากระสุนถูกยิงจากภายนอกลำเรือทำมุมประมาณ 85 องศา ร่องรอยของกระสุนดังกล่าว จากการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นรอยกระสุนปืนขนาด 7.62 นาโต ซึ่งถูกยิงออกจากปืนขนาดเอ็ม 60 ซึ่งร่องรอยวิถีกระสุนดังกล่าวสอดคล้องกับปลอกกระสุนปืน และขลิบกระสุนปืน ขนาดเดียวกันกับที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บได้จากบนฝั่งไม่ห่างจากจุดจอดเรือทั้ง 2 ลำ

                         นอกจากร่องรอยวิถีกระสุนและปลอกกระสุนปืนที่พบแล้ว ยังมีหลักฐานสำคัญคือคลิบวีดีโอ ที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้พบเห็นเหตุการณ์รายนี้ได้ส่งมอบให้แก่ตำรวจภายหลังจากเกิดเหตุสังหารโหดลูกเรือจีน 13 ศพไม่นาน

                         คลิบวิดีโอดังกล่าว ปรากฏภาพเหตุการณ์ภายหลังเรือสินค้าจีนทั้ง 2 ลำ จอดเข้าเทียบตลิ่งจุดเกิดเหตุได้ไม่นาน ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารถืออาวุธปืนยาวเดินเรียงแถวมายังริมถนนขอบตลิ่งแม่น้ำโขงใกล้กับจุดที่จอดเรือแล้วมีการยิงปืนขึ้นฟ้า ซึ่งจุดดังกล่าวพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง

                         ภาพในคลิบวิดีโอดังกล่าว ยังปรากฏภาพชายฉกรรจ์ซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหาร นอนในลักษณะคว่ำหน้าเล็งอาวุธปืนยาวเอ็ม 60 ชนิดมีขาทรายสามขา ระดมยิงไปยังเรือสินค้าจีนนานต่อเนื่องกันประมาณ 6 นาที ปรากฏเป็นรอยกระสุนอยู่ที่เรือ Hua Ping Hao ที่ห้องควบคุมเรือ 8 รอย ห้องเครื่อง 1 รอย ห้องนอนด้านขวาติดริมตลิ่ง 1 รอย ผนังห้องครัว 14 รอย และห้องนั่งเล่นชั้นบน 2 รอย

                         ในคลิบวิดีโอ ยังปรากฏภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารพร้อมอาวุธครบมือวิ่งลงไปในเรือสินค้าทั้ง 2 ลำ ซึ่งระหว่างนี้มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ สอดคล้องกับคำให้การของทหารเรือที่นำเรือลาดตระเวนและเรือจู่โจมตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ยืนยันว่า ระหว่างนำเรือเข้าใกล้กับเรือทั้ง 2 ลำได้ยินเสียงปืนดังเป็นระยะ

                         พยานรายนี้ยืนยันด้วยว่า เมื่อเรือของทหารเรือจอดเทียบเรือสินค้าจีนทั้ง 2 ลำ ได้เห็นชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารจำนวน 2 คน จับศพลูกเรือจีนเพศชายที่เสียชีวิตบริเวณชั้นสองของเรือ Hua Ping Hao หย่อนลงไปในแม่น้ำโขงทางด้านกราบขวาของเรือ และศพได้จมหายไปทางด้านท้ายของเรือ ซึ่งต่อมาผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอ ของตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้นำคราบเลือดที่บริเวณซึ่งพยานรายนี้เห็นเหตุการณ์ไปตรวจสกัดดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับศพผู้เสียชีวิตที่พบอยู่ในแม่น้ำโขงปรากฏว่าตรงกับศพของ นายหวงหยง  1 ใน 13 ศพ

                         นายหวงหยง เป็นกัปตันเรือ Hua Ping Hao โดยศพของผู้ตายรายนี้พบว่าถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ากุญแจมือดังกล่าวไม่มีใช้ในประเทศจีน แต่มีใช้ในประเทศไทย

                         เจ้าหน้าที่ได้ผ่าพิสูจน์ศพพบว่า เสียชีวิตเพราะถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 โดยจุดที่ถูกสังหารคือบริเวณห้องนอนด้านขวาชั้นสองของเรือ Hua Ping Hao ก่อนที่จะถูกยกศพออกทางหน้าต่าง แล้วถูกลากต่อไปทางกราบเรือด้านท้ายก่อนถูกทิ้งลงแม่น้ำโขง โดยมีหลักฐานเป็นคราบเลือดที่พบบนเรือยืนยัน

                         หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบในที่เกิดเหตุ คลิปวิดีโอที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ คำให้การซัดทอดของนายหน่อคำและพวก รวมถึงคำให้การของพยานแวดล้อมอื่นๆ มีความแน่นหนา จนพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวมั่นใจว่าเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้

                         ก่อนหน้านี้ทหารกองกำลังผาเมืองจำนวน 9 นาย เข้ามอบตัวต่อสู้คดี โดยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดฉากสังหาร 13 ลูกเรือจีน เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ในการสกัดกั้นยาเสพติดเท่านั้น

                         บทลงเอยของคดีนี้จะเป็นอย่างไร?

 

 

---------------------

(คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : ไขคดี 'สลัดแม่น้ำโขง' จัดฉากสังหาร 13 ลูกเรือจีน (ตอน 4) : โดย...ทีมข่าวรายงานพิเศษ)