'มาร์ค'เตือน'บิ๊กโอ๋'หารือ'เตียบันห์'

                      26 ก.พ.56 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงย่านบางเขน ตลาดยิ่งเจริญ พร้อมด้วยนายวิทเยน ตร์ มุตตามระ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้พูดผ่านวิทยุประชาสัมพันธ์ของตลาด มารอมอบดอกไม้และพวงมาลัย จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เดินทางต่อมายังสนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

                      นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC เดินทางไปยังพื้นที่ปราสาทพระวิหาร เพื่อหารือและรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชาในวันนี้ว่า การพูดคุยเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ต้องพิจารณารูปแบบ สถานที่ และเนื้อหาของสาระการพูดคุย โดยจะต้องมีความเป็นเอกภาพและแสดงจุดยืนของฝ่ายไทยที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ประเทศไว้อย่างชัดเจน จึงขอให้รัฐบาลระมัดระวังการดำเนินการใดๆที่ฝ่ายกัมพูชาอาจหยิบยกเพื่อดำเนินการในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรูปคดีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลกได้

                      นอกจากนี้กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางได้ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 28 ก.พ. ก็ขอให้ระมัดระวังท่าทีในการเจรจาเช่นกัน อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์จะได้ติดตามผลการ หารืออย่างใกล้ชิด รวมถึงขอให้ประชาชนร่วมตรวจสอบและติดตามเรื่องด้วย

                      นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ในหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ยังมีบางพื้นที่ที่ยังต้องเน้นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ในเรื่องของนโยบาย ส่วนการลงพื้นที่ที่ผ่านมาแล้วพบว่ามี กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาให้การสนับสนุนพรรคก็ต้องขอบคุณที่แสดงอัธยาศัยที่ดีและยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ความรุนแรงจะลดลง เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุ ว่าหากแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้จะยุติบทบาททางการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นความในใจซึ่งส่วนตัว ตนไม่ทราบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พูดในลักษณะไหน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับคะแนนเสียง ส่วนหลังจากนี้ การหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะเข้ามารับใช้คน กทม.อีกครั้ง

 

'ปชป.' ร่อนจม.เปิดผนึก 'อภิสิทธิ์-สุขุมพันธุ์' หวังดึงคะแนนคนกรุง

 

                     วันเดียวกันนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่า กทม. แถลงว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มแจกจดหมายเปิดผนึกจากใจถึงใจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัฒน์ ผู้สมัครผู้ว่า กทม.ส่งถึงคนกทม.โดยเนื้อหาในจดหมายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเน้นไปที่การขอโอกาสกลับมาทำงานอีกครั้งและจะสานต่อนโยบายที่เคยทำไว้แล้ว เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ส่วนจดหมายของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหามีการพูดถึงการอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขของพรรคประชาธิปัตย์กับคนในกรุงเทพมหานครตลอดระยะเวลา 67 ปี นับตั้งแต่ ก่อตั้งพรรค จนถึงปัจจุบัน แม้เกิดเหตุ วิกฤตทางการเมือง แต่พรรคประชาธิปัตยื และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ดังนั้นจึงขอโอกาสให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้รับโอกาส กลับมาเป็นผู้ว่า กทม.อีกครั้ง

                     นายองอาจ กล่าวว่า  นับจากนี้ อีก 4 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มที่ ทั้งการเข้าถึงประชาชน โดยการเคาะประตูบ้าน การขึ้นรถแห่เสียง ประชาสัมพันธ์ และปราศรัย  โดยในวัน 27 ก.พ.นื้ เวลา 14.00 น.จะมีการเปิดตัว ทีมผู้ทรงคุณวุฒิ  ที่โรงแรมริเวอร์ ซิตี้ ซ.เจริญกรุง 39 ส่วนในวัน 28 ก.พ. นี้พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการจัดเวทีปราศรัย 2 จุด คือ จุดแรก ที่ บ้านสวนบางเขน เขตบางเขน และชุมชนเคหะบางเขน เขต สายไหม ส่วนเวทีปราศรัยโค้งสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ สวนเบญจศิริ ในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคมนี้

                     สำหรับจดหมายของนายอภิสิทธิ์ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งว่า 3 มี.ค. คนกรุงเทพฯ จะมีโอกาสเลือกอนาคตของกรุงเทพอีกครั้ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ขออาสารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯต่อไปด้วยความซื่อสัตย์สุจริต สานต่องานสำคัญและริเริ่มงานใหม่ เชื่อว่า ประสบการณ์และความสามารถของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในการประสานงานกับทุกฝ่าย ทำให้มั่นใจว่า มีความเหมาะสมที่จะทำงานให้คนกรุงเทพฯ ต่อไป ตนขอความกรุณาจากชาวกรุงเทพอีกครั้งในการสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ “อำนาจในมือพี่น้องยิ่งใหญ่กว่าอำนาจรัฐและอำนาจเงิน ผมมั่นใจและเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องเสมอครับ”

                     ขณะที่เนื้อหาจดหมายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ เนื้อหาส่วนหนึ่ง ว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสตนทำงานรับใช้ชาวกทม.มาแล้ว 4 ปี ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาตนทำงานอย่างทุ่มเท ซื่อตรงและมั่นคงที่สุด ที่จะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงที่ดีน่าอยู่  วันนี้ ตนขอโอกาสสานงานต่อ เพื่อให้กรุงเทพฯเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความสุขและน่าอยู่ เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก การเลือกตั้ง 3มี.ค.นี้ จะเป็นการชี้ชะตาอนาคตของคนกรุงเทพฯและประเทศไทย ตนเชื่อว่า คนกรุงเทพไม่ต้องการให้ใครมาชี้นำความคิด ทุกคนมีอิสระภาพเท่าเทียมกัน  เมื่อท่านเข้าคูหา ท่าน คือ เจ้านายของตัวเอง หากแต่ว่า ถ้าท่านได้เลือกให้ตนได้ทำงานสานต่ออีกครั้ง นอกจากท่านจะได้ชื่อว่า เป็นนายตัวเองแล้ว ท่านยังมีคนรับใช้ที่พร้อมจะดูแลและร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านอีกคน “รักกรุงเทพ ฯ มาร่วมพากรุงเทพฯ เดินหน้าต่อด้วยกันนะครับ”

 

'ชวนนท์' โวย 'พท.' บิดเบือนกล่าวหา 'ปชป.' หาเสียงไม่สร้างสรรค์

 

                     นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าพรรคประชาธิปัตย์ หาเสียงไม่สร้างสรรค์และมุ่งทำลายระหว่างการหาเสียงโค้งสุดท้ายว่า จากพฤติกรรมดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยเอง ที่มักบิดเบือนข้อเท็จจริงให้กับประชาชน ส่วนตัวได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทย ทั้งเรื่องการดิสเครดิตแบบไร้หลักฐานเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เรื่องกล้องCCTV ที่มีการกล่าวหาว่า กทม. ติดตั้งกล้องดัมมี่ อุโมงค์ระบายน้ำที่ไม่สามารถทำได้จริง  เรื่องถุงทรายที่วางใ นท่อเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของน้ำ รวมถึงเรื่องการสร้างสถานีตำรวจทดแทน ที่พยายาม ดิสเครดิส นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรค แต่ขณะนี้เรื่องโยงไปถึง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องกลับเงียบหาย

                     นายชวนนท์ กล่าวว่า นโยบายของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศเจริญ ผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคเพื่อไทย ที่หาเสียงนั้นไม่สามารถปฎิบัติได้จริงและไม่ได้คำนึงถึงงบประมาณของ กทม. ทั้งเรื่องเรือฟรี รถเมล์ฟรี รวมถึงนโยบายแก้หนี้นอกระบบ ที่เป็นเรื่องของรัฐบาล  ซึ่งพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร  กำลังพยายามเปลี่ยนบทบาทของตนเอง จากสีแดง เป็นสีขาว เพื่อหลีกเลี่ยงกระตุ้นความทรงจำของ คน กทม.จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 ซึ่งเห็นได้จาก ป้ายหาเสียง ที่ไม่มีสีแดงเป็นสีหลัก และการเดินรณรงค์ หาเสียง ที่ไม่มีผู้สนับสนุนคนเสื้อแดงมาร่วมด้วย

 

'จุรินทร์' ปูดรัฐติดหนี้ 'ธกส.' กว่า 3.3 แสนล้านบาท

 

                     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงถึงการตรวจสอบโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาล ว่า ขณะนี้พบว่ารัฐบาลติดหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นับแสนล้านบาทจากโครงการรับจำนำข้าว, มันสำปะหลังและยางพารา จนทำให้ฝ่ายค้านกังวลว่า ธ.ก.ส. จะขาดสภาพคล่องและกระทบต่อเกษตรกรได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าโครงการรับจำนำข้าวนาปีและนาปรัง ฤดูกาลผลิต 54/55 และข้าวนาปี ฤดูกาลผลิต 55/56 รัฐบาลบังคับใช้เงินของ ธ.ก.ส.ในโครงการดังกล่าวไปแล้ว 3.3 แสนล้านบาท แต่ยอดการใช้หนี้ ณ วันที่ 22 ก.พ.พบว่ามีการใช้หนี้ไปเพียง 5.2 หมื่นล้าน คงเหลือยอดหนี้ 2.8 แสนล้านบาท, โครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ฤดูกาล 54/55 และ 55/56 รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. 3.5 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้ชำระหนี้ไปแล้ว 4.2 พันล้านบาท คงเหลือหนี้ประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท, โครงการรับจำนำยางพารา รัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. จำนวน 2.2 หมื่นล้านบาทซึ่งยังไม่พบการชำระหนี้คืน รวมแล้วรัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส. อยู่ประมาณ 3.3แสนล้านบาท

                     ทั้งนี้ในปีนี้ ธ.ก.ส.มีเงินที่ต้องใช้รักษาสภาพคล่อง จำนวน 4.2 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้นำเงินส่วนดังกล่าวออกมาใช้ในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ทำให้ล่าสุด ธ.ก.ส. เหลือเงินที่ใช้รักษาสภาพคล่องเพียง 2.2 แสนล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นกังวลว่าหากรัฐบาลไม่ยอมอนุมัติขยายกรอบเงินกู้ให้ ธ.ก.ส.หรือ ชำระหนี้อาจทำให้โครงการรับจำนำข้าว รอบที่จะถึงนี้ไม่มีเงินไปใช้ในโครงการและทำให้ชาวนาเดือดร้อนได้

                     ด้าน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะวิปฝ่ายค้าน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. ได้มอบตัวเลขรายได้ของรัฐบาลจากการค้าข้าวของโครงการรับจำนำว่า จากการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มีมูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท, จากการขายให้กับหน่วยงานราชการ มีมูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท และจากการขายให้ผู้ประกอบการค้าข้าว จำนวน 9.8 พันล้านบาท ทั้งนี้รายได้ดังกล่าวขณะนี้รัฐบาลได้ทยอยส่งให้ ธ.ก.ส. ทั้งนี้จากตัวเลขรายได้ดังกล่าวตนขอตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ เนื่องจากตัวเลขการขายข้าวให้หน่วยงานราชการสูงกว่าภาคผู้ประกอบการ อาจส่อในลักษณะที่มีการทุจริตได้ เนื่องจากการขายข้าวให้หน่วยงานราชการนั้นตรวจสอบยาก และที่ผ่านมาเคยพบว่ามีการนำข้าวจากหน่วยราชการไปบรรจุถุงเพื่อแจกหรือขายให้ประชาชนราคาถูก และมีการนำข้าวถุงนั้นไปเวียนเทียนขาย

 

'ปธ.วิปฝ่ายค้าน' เล็งตั้งกระทู้สด 'นายกฯ' ปมส่ง 'สุกำพล' คุย 'เตีย บันห์'

 

                     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงว่าในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ พรรคฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อประเด็นที่ส่งพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ไปหารือกับพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประเทศกัมพูชา แม้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลความปลอดภัยและพัฒนาพื้นที่เขตชายแดนเขาพระวิหาร แต่ประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลต่อคดีที่เข้าสู่ศาลโลก ประเด็นข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหาร ทั้งนี้การเดินทางไปดังกล่าวไม่ได้รับฟังเสียงคัดค้านของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, กรมกิจการชายแดน กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ หัวหน้าคณะทนายประเทศไทยที่ต่อสู้ในคดีดังกล่าว ทั้งนี้จะถามถึงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในอนาคตด้วย

 

แนะ'นายกฯ'รอบคอบ-ยึดประโยชน์เจรจาแก้ปัญหาใต้

 

                     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เรียกร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เตรียมเดินทางไปประเทศมาเลเซีย วันที่ 28 ก.พ. ถึงกระบวนความร่วมมือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ว่า ขอให้ใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจที่จะดำเนินงานใดๆ เพื่อแก้ปัญหา เบื้องต้นขอให้ยึดประโยชน์ประเทศ, ความสงบ และตัดสินใจบนฐานข้อมูลที่แม่นยำ รวมถึงกรอบแนวคิดที่จะมีการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ด้วย เพราเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ทั้งนี้ของให้ยึดว่าเป็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้น