ข่าว

บึ้ม!เซเว่นฯระแงะ2ลูกซ้อนเจ็บ3

บึ้ม!เซเว่นฯระแงะ2ลูกซ้อนเจ็บ3

23 ก.พ. 2556

คนร้ายวางระเบิดในถังขยะหน้าร้านเซเว่นฯ บึ้มล่อจนท. ก่อนกดระเบิดที่รถจยย.หน้าร้านซ้ำ อาสาสมัครทหารพราน เจ็บ 2 ราย เด็กชาย อายุ 3 ขวบ ตกเป็นเหยื่อด้วย

               สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ยังเกิดต่อเนื่อง เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556 ร.ต.ท.มาโนช ปลอดขันเงิน ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณถังขยะหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ตรงข้ามกองบังคับการกรมทหารพรานที่ 45 เขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส จึงนำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
    
               ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังและกันชาวบ้านออกห่าง เพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ระหว่างนั้นในเวลา 16.39 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีก 1 ครั้ง โดยระเบิดถูกซุกอยู่ในรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิกสีแดง ที่มาจอดไว้บริเวณประตูทางเข้าร้านเซเว่นฯ แรงระเบิดทำให้กระจกและสินค้าภายในร้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งรถกระบะสีเทาดำ หมายเลขทะเบียน บห-4126 สงขลา และรถจักรยานยนต์อีก 4 คัน ที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย
    
               จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนที่ว่าการ อำเภอระแงะ คือ อส.มูหามัดซอบรี มะรง อายุ 34 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาขวา อาสาสมัครทหารพรานธนุทาน มาเร๊ะ อายุ 27 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณคิ้วขวา และ ด.ช.อัฟฮาล เจ๊ะแน อายุ 3 ปี ถูกแรงอัดของระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอกและหู
    
               ต่อมา พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยภายในถังขยะเจ้าหน้าที่พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล
    
               ส่วนรถจักรยานยนต์พบว่าคนร้ายได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือที่นำไปใส่ไว้ในช่องลับใต้เบาะนั่ง ซึ่งระเบิดลูกดังกล่าวคนร้ายได้จุดชนวนเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่รัศมีการทำลายล้างถูกบดบังด้วยรถจักรยานยนต์ที่จอดซ้อนคันกันอยู่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย ถูกลูกหลงที่สะเก็ดระเบิดได้แพร่รัศมีไป
    
               จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ ที่บริเวณจุดตรวจหน้ากองบังคับการกรมทหารพรานที่ 45 พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ที่ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ โดยคนขับใส่เสื้อสีขาวสวมกางเกงขายาวสีดำ ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายใส่เสื้อแขนยาว จึงได้ประสานไปยังจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เพื่อสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย  
    
               พ.อ.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากฝีมือของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ตอบโต้เจ้าหน้าที่ทางการที่เข้าไปดึงมวลชน จนกลุ่มคนร้ายเกิดความระส่ำระสายอย่างหนัก จนไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายขึ้นได้อย่างสะดวก
    
               ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก ภ.จว.ยะลา ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าที่ทำการไปรษณีย์ ถนนสาย 410 ยะลา-บันนังสตา หมู่ 2 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากมีผู้ก่อเหตุเมื่อเวลาประมาณ 00.10 น. กลางดึกที่ผ่านมา
     
               จากการเข้าตรวจสอบพบว่า แรงระเบิดทำให้กระจกตู้โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย ฝากระเด็นไปตกห่างจากตัวตู้ประมาณ 100 เมตร นอกจากนี้ยังพบเศษกระจกบริเวณหน้าตู้ เศษรองเท้าฟองน้ำ เศษดิน ส่วนหลักฐานอื่นไม่พบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ สภ.บันนังสตา ได้นำกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้
    
               พ.ต.อ.เจริญกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 กก. มาวางไว้ในตู้โทรศัพท์ และจุดชนวน โดยแรงระเบิดทำให้ตู้โทรศัพท์เสียหายเพียงอย่างเดียว เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายไม่ได้หวังผลในการทำร้ายประชาชน เพียงแต่จะสร้างสถานการณ์ในพื้นที่เท่านั้น จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบบุคคล และยานพาหนะต้องสงสัยที่จะเข้ามาในพื้นที่ อ.บันนังสตา เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
    
               ส่วนที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 16.50 น. พ.ต.อ.ทองสุข จรัลพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานีรับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสาย 42 ปัตตานี -หาดใหญ่ ม.1 บ้านดอนรัก ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำตัวทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาลปัตตานี ทราบชื่อคือ นายหาญ ราชเจริญ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/6 ถนนอาเนาะ ต.อาเนาะรู เขตเทศบาลเมืองปัตตานี และนางสุพรรณี วาดแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี  
    
               ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของผู้บาดเจ็บจอดอยู่กลางถนน โดยมีสินค้าที่นำไปขายตกหล่นเกลื่อนกลาด ห่างกันเล็กน้อย พบรองเท้าแตะของคนร้าย 1 ข้าง และป้ายทะเบียน กมบ 305 ปัตตานี พร้อมชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของคนร้ายตกหล่นอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจหาลายนิ้วมือแฝง ส่วนป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ตกอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ซีซี สีดำเทา มีนางชุติมา หาดทรายแก้ว เป็นเจ้าของและได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2554
    
               จากการสอบสวนทราบว่า นายหาญ มีอาชีพรับจ้างขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างส่งแม่ค้าตามบ้าน ก่อนเกิดเหตุได้รับนางสุพรรณี แม่ค้าในตลาดนัดเมืองปัตตานี เพื่อนำไปส่งที่บ้านใน อ.หนองจิก และได้บรรทุกสินค้ามาเต็มคัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัด กระสุนถูกทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นเองรถจักรยานยนต์ของคนร้ายได้มาเกี่ยวกับรถของผู้บาดเจ็บ ทำให้รถจักรยานยนต์ของคนร้ายเสียหลักล้มลง แต่คนร้ายรีบลุกขึ้นขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยทิ้งหลักฐานเป็นรองเท้าแตะ 1 ข้าง และแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่


ป่วนเมืองปัตตานีวางระเบิดเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์
    
               เมื่อเวลา 19.40 น. คนร้ายได้เปิดฉากก่อกวนสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยคนร้ายจำนวน 2 คน ได้ขับขี่รถ จยย. ไม่ทราบชนิด ได้นำระเบิดแสวงเครื่อง ขนาดเล็ก ใส่ในถุง และนำมาใส่ไว้ในถังขยะ ปากซอยถนนนาเกลือ ซอย 2 ต.อาเนาะรู เขตเทศบาลเมืองปัตตานี หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที เกิดระเบิดขึ้นทำให้ถังขยะได้รับความเสียหาย แต่แรงระเบิดไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นขนาดเล็ก ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
    
               สอบสวนทราบว่า คนร้าย 2 คน พยายามจะเข้าก่อเหตุวางระเบิดภายในงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แต่มีการตั้งจุดตรวจของตำรวจ 2 ชั้น ก่อนเข้างาน ทำให้คนร้ายไม่กล้าเข้า พอใกล้เถึงจุดตรวจประมาณ 10 เมตร คนร้ายได้เลี้ยวเข้าถนนนาเกลือซอย 2 และโยนระเบิดทิ้งในถังขยะ เพราะกลัว จนท.เห็น จากนั้นจึงเกิดระเบิดดังกล่าว
    
               ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ต่อมาได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ก่อกวนเผายางรถยนต์ในพื้นที่ อ.สายบุรี 2 จุด ,อ.หนองจิก 4 จุด อ.มายอ 2 จุด และเขตอำเภอเมือง 4จุด นอกจากนั้นเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ และเผารถจักรยานยนต์ โดยนำไปตั้งกลางถนนสายหลักของแต่ละอำเภอ ทำให้สร้างความปั่นป่วนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จงปัตตานี สั่งการให้ตั้งจุดตรวจเข้มทุกจุด และมี เฮลิคอบเตอร์ บินวนเวียนบนท้องฟ้าเพื่อดุแลคตวามปลอดภัยอีกด้วย
    
               ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สัญญาณโทรศัพท์ทั้งจังหวัดปัตตานี ได้ถูกตัดสัญญาณ ทำให้โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ไม่มีสัญญาณ และไม่สามารถติดต่อกันได้

 

เผายางรถยนต์ป่วนปัตตานี5จุด

               จากนั้นเวลา 21.30 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณจุดกลับรถ หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 7 คน คือ นายเอกสิทธิ์ ส่องเมือง ปลัดอำเภอเมืองปัตตานี อส.เฉลิมพล ประยูรพันธ์ อส.อานุภาพ แซ่ควร  อส.วีรยุทธ แวดือราแม อส.ปาริ มามะ อส.อับดุลรอฟิก ดือเระ และ อส.วันซอฟฟา อุสมัน บาฮา
โดยก่อนเกิดเหตุได้มีเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดบนเส้นทางดังกล่าว ระหว่างนั้น นายเอกสิทธิ์ ปลัดอำเภอเมืองปัตตานี กำลังพาเจ้าหน้าที่ อส. ลาดตระเวนหลังจากมีเหตุการณ์เผายางรถยนต์หลายจุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิด ทำให้นายเอกสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ อส.ที่อยู่ในรถได้รับบาดเจ็บ
    
               ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะรายงานข่าว มีรายงานคนร้ายลอบเผายางรถยนต์อีกหลายจุดประมาณ 5 จุดในเมืองปัตตานี