
'เขม่น'ในผับ..จ่อยิงหัวดับ
'เขม่น'ในผับ..จ่อยิงหัวดับ : ตะลุยข่าว โดยอัจฉรา วิเศษศรี
ยุคสมัยนี้ ใครที่มีลูกหลานไม่ว่าหญิงหรือชาย โดยเฉพาะเวลาต้องออกจากบ้านยามค่ำคืน หากเป็นลูกสาวก็เสี่ยงเสียตัว แต่ถ้าเป็นลูกชายก็เสี่ยงเสียชีวิต อย่างหนุ่มนักศึกษาปี 3 เดินทางข้ามถิ่นมาท่องเที่ยวถึงเมืองระยอง ดินแดนศิวิไลซ์ในภาคตะวันออก พอตกค่ำเพื่อนพาเที่ยวผับดังใจกลางเมือง แต่ต้องมาดวงดับ เพราะกระทบกระทั่งกันในผับ สุดท้ายใช้ศาลเตี้ยสังหารโหด จ่อยิงกะโหลก 3 นัดซ้อน เสียชีวิตคาลานจอดรถ ราวตี 3 ของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ร.ต.ท.วิญญู ธรรมยศ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถหน้าผับบ้านตะวัน ริมถนนสายราษฎร์บำรุง (สายล่าง) ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.สภ.เมืองระยอง และพล.ต.ต.ชาติชาย เสขะนันทน์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติ ศิริคช ผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน (สบ 4) พ.ต.ท.คมสรร คำตุ่นแก้ว สวป. แพทย์เวร รพ.ระยอง และมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง
ที่เกิดเหตุพบ นายมะยาซี ตาเล๊ะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 ต.สาบัน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ชั้นปีที่ 3 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะรวม 3 นัด นอนจมกองเลือด
จากการสอบถาม นายวชิรนนท์ อภิรมย์กานนท์ อายุ 27 ปี ทำงานโรงงานอยู่ใน จ.ระยอง บอกว่า พาเพื่อนรุ่นน้องที่เดินทางมาจาก จ.ปัตตานี มาเที่ยวผับดังกล่าว โดยมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน ขณะนั่งดื่มกินในผับมีหญิงสาวหน้าตาดีที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ใกล้กับกลุ่มผู้ชายจำนวนมาก โดยหญิงสาวเข้ามาทักทายพูดคุยตีสนิทกับผู้ตาย จากนั้นกลุ่มผู้ชาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนของหญิงสาวเกิดไม่พอใจ เข้ามาพูดคุยกับผู้ตาย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น สักพักหนึ่งก็แยกย้ายกันกลับ ผู้ตายเดินออกจากผับมาที่ลานจอดรถ ขณะนั้นมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูง สวมเสื้อคลุมสีดำใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะผู้ตาย 1 นัด ล้มลงกองกับพื้น แล้วยังตามมายิงซ้ำที่ศีรษะอีก 2 นัด จากนั้นวิ่งขึ้นรถเก๋ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ช่วงที่เข้าไปเที่ยวภายในผับกลุ่มของผู้ตายก็ไม่มีเรื่องกับใคร จะมีก็แต่ผู้หญิงหน้าตาดีที่นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างมาพูดคุยทำความรู้จักกับนายมะยาซี แต่ผู้ตายก็เพียงแค่พูดคุยทักทายกันธรรมดา แต่นายณรงค์ฤทธิ์ กลั่นวารี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เกิดความหึงหวง อาจเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับต่อศาลจังหวัดระยอง ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุควรจำเป็นเร่งด่วน หลังจากนั้นได้สืบสวนจับกุมกดดัน จนกระทั่งตอนเที่ยงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายณรงค์ฤทธิ์ขอเข้ามอบตัวพร้อมทนาย และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิได้เต็มที่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานของผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน
แต่แล้วความจริงก็หนีความจริงไปไม่พ้น เพียงชั่วข้ามคืน นายณรงค์ฤทธิ์ กลับลำยอมรับสารภาพ พร้อมเล่าสาเหตุการยิงว่า มานั่งดื่มกินกับแฟนสาวและเพื่อนหลายคนในผับบ้านตะวัน โดยนั่งโต๊ะที่ 35-37 ต่อเรียงกัน กลุ่มของผู้ตายนั่งอยู่โต๊ะที่ 46 ขณะนั่งดื่ม และลุกขึ้นเต้น เกิดมีการชนโต๊ะกันขึ้น จากนั้นตนได้กอดคอและคุยกัน แต่ผู้ตายให้ของลับ จึงเก็บความแค้นไว้ หลังจากเช็กบิลต่างแยกย้ายกันกลับ แล้วย้อนกลับมาดู เห็นนายมะยาซียังนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม จึงมานั่งรออยู่ที่รถ พอนายมะยาซีมายืนที่ลานจอดรถจึงหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในรถมาพกไว้ที่เอว และเดินตรงเข้าไปลั่นไกเข้าที่ศีรษะแบบประชิด แล้ววิ่งขึ้นรถที่มีเพื่อนสตาร์ทรออยู่
หลังเปิดปากยอมรับสารภาพ พ.ต.อ.สุกิตติ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง นำนายณรงค์ฤทธิ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อโค้ก ขนาด 38 มม. 1 กระบอก รถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 4288 ระยอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ผับบ้านตะวัน ริมถนนราษฎร์บำรุง (สายล่าง) ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใส่เสื้อเกราะป้องกันเหตุ รีบทำแผนและนำตัวกลับอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงญาติผู้เสียชีวิตจะเข้ารุมประชาทัณฑ์
...................
(หมายเหตุ : 'เขม่น'ในผับ..จ่อยิงหัวดับ : ตะลุยข่าว โดยอัจฉรา วิเศษศรี)