พระเทพฯทรงเปิดงานตรุษจีนเยาวราช
สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ ไปทรงเปิดงานตรุษจีนเยาวราช ทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน
เมื่อเวลา 16.55 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อทรงเป็นประธานพิธีเปิดงานตรุษจีนเยาวราช ปี 2556 โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายใช่ วู รมว.วัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีน นายกวน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชานจีน นายบุญฤทธิ์ พิพัฒนศิริกุล ประธานกรรมการจัดงานตรุษจีนเยาวราช นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภา กทม. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมเหล่าประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง เฝ้าฯ รับเสด็จ กันอย่างเนืองแน่น
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน จำนวน 2 ชุด ได้แก่ การแสดงทางวัฒนธรรมจีนชุด “ปาง กือ เฉย์ ชิง” จากเขตการปกครองตนเองทิเบต การแสดงทางวัฒนธรรมไทยชุด “ฟ้อนภูไทเรณู” จากวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา จากนั้นทรงตีระฆัง 3 ครั้ง เพื่อทรงเปิดงานอย่างเป็นทางการ ก่อนเสด็จฯ ไปยังสถานที่สำคัญบริเวณพื้นที่เยาวราช ได้แก่ ศาลเจ้าฮกเลี่ยนเก๋ง (ปึงเถ้าม่า) เพื่อถวายราชสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด ต่อด้วยวัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
จากนั้นทรงฉายรูปพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างพระเกษมสำราญ ก่อนจะเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรศิลปกรรมภายในโบสถ์อย่างสนพระราชหฤทัย แล้วจึงเสด็จฯ ไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาตลาดน้อย พร้อมทอดพระเนตรการแสดงเชิดสิงโตบริเวณหน้าอาคาร และถวายราชสักการะพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย และทอดพระเนตรต้นไกรที่ปลูกไว้ภายในธนาคาร ก่อนจะทรงพักเสวยพระกระยาหารค่ำ ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์จัดถวาย โดยเมนูเสวยล้วนแล้วแต่เป็นอาหารมงคลทั้งสิ้น ได้แก่ หอยเป่าฮื้อ ก้ามปูยักษ์ ปูน้ำจืดจากภาคใต้ บะหมี่ผัดสุดล้ำลึก หมายถึงอายุยืนยาว และหูฉลาม ซึ่งอาหารทั้งหมดทำจากร้านที่อร่อยที่สุดในเยาวราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเสวยพระกระยาหารค่ำแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ซึ่งทูลเกล้าฯ ถวายงูทองคำ สัญลักษณ์ของปีมะเส็ง ความยาว 12 เซนติเมตร สูง 9 เซนติเมตร ซึ่งผลิตจากร้านจิว ไต้ ฮก น้ำหนักรวม 8 บาท แล้วทอดพระเนตรการออกร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิชัยพัฒนา ร้านมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาฯ และร้านการบินไทย เสด็จฯ ผ่านบริษัทสยามรังนกทะเลใต้ ธนาคารยูโอบี สาขาเยาวราช ร้านทองฮั่วเซงเฮง ร้านยาจีน เซี้ยง เฮง ฮั้ว กี่ และเสด็จฯ ไปยังร้านทองเลี่ยงเซ่งเฮง โดยมี นางกิติยา พิสุทธิกุล เจ้าของร้านทูลเกล้าฯ ถวายมิกกี้เมาส์และมินนี่เมาส์ทองคำยืนกอดไหล่กัน น้ำหนัก 7.19 บาท ในกรอบรูปสูง 12 เซนติเมตร กว้าง 11 เซนติเมตร พร้อมกับเขียนภาษาจีนกำกับว่า "โหงก ฮง ลิ้ม มิ้ง" แปลว่า บุญ วาสนา บารมี ก่อนเสด็จฯ กลับ ได้ถวายราชสักการะเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
นางนินนาท ในฐานะแกนนำในการจัดงาน กล่าวว่า ประเพณีตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ถือเป็นประเพณีสืบทอดมาช้านาน ตั้งแต่โบราณกาลจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ ร่วมมือร่วมใจกันจัดงาน ตรุษจีนเยาวราช ประกอบด้วย กทม. ททท. กลุ่มประชาชนเขตสัมพันธวงศ์ นักธุรกิจ ประชาชนในท้องถิ่น และสมาคมห้างร้านต่างๆ ในพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้เป็นการสืบทอดประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามสู่อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป
"การจัดงานในปีนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้จัดคณะผู้แทนรัฐบาล นำโดย รมว.วัฒธรรมของจีน พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดินทางมาร่วมงาน ในส่วนของ กทม.ได้จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยจีน การแข่งขันการเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย การแสดงเชิดมังกรแอลอีดีที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และการแสดงคอนเสิร์ต การออกร้านของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะอาหารเลิศรสที่มีชื่อเสียงของเยาวราชเข้าร่วมกิจกรรมด้วย" นางนินนาท กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวแต่บรรยากาศบริเวณถนนเยาวราชยังคงคึกคักไปด้วยชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยวที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีแดงเดินทางเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมตั้งแต่ในช่วงบ่าย เช่น การลงนามถวายพระพร บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) การลงทะเบียนเพื่อร่วมลุ้นรางวัลทองคำ 2 สลึง การออกร้านอาหาร และการออกร้านจำหน่ายสินค้ามงคล เป็นต้น
ทั้งนี้ การแสดงต่างๆ บนเวทีเริ่มต้นในเวลา 20.00 น. โดยเป็นการแสดงทางวัฒนธรรมจีน จากเขตปกครองตนเองทิเบต การแสดงทางวัฒนธรรมไทยในชุด “เสน่ห์อีสาน” จากวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ การแสดงระบำสี่ภาค จากโรงเรียนวัดสัมพันธวงศ์ การแสดงเชิดธงจากโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยา การแสดงจินตลีลาประกอบเพลงจีนจากโรงเรียนวัดจักรวรรดิ การแสดงระบำจีน-ไทยสามัคคี จากโรงเรียนวัดปทุมคงคา การแสดงมินิคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปินชื่อดัง และปิดท้ายกับการจับสลากคูปองชิงโชคและแจกรางวัลทองคำแก่ผู้โชคดี