ฝากขัง'กำนันเป๊าะ'อาการอ่อนเพลีย

              30ม.ค.2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ “กำนันเป๊าะ” บิดานายสนธยา คุณปลื้ม  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อดีตเจ้าพ่อภาคตะวันออกผู้โด่งดัง ผู้ต้องหาซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีคดีหลังจากศาลฎีกาพิพากษาจำคุกในคดีจ้างวานฆ่านายประยูร สิทธิโชค หรือ "กำนันยูร" 25 ปี และพิพากษาจำคุกในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินเพื่อทำที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว 5 ปี 4 เดือน รวม 30 ปี ขณะเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์นั้น

              ต่อมาเวลา  15.30 น. ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวนายสมชายไปฝากขังต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร  โดยใช้รถตำรวจกองปราบนำหน้ามา 1 คัน และรถตู้อีก 1 คัน  โดยมีรถญาติของนายสมชายตามมารอเช่นเดียวกัน เมื่อขบวนรถมาถึงทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้เปิดประตูให้รถทั้ง 2 คันขับเข้าไปข้างในเรือนจำ  โดยห้ามสื่อมวลชนที่มาทำรอทำข่าวตามเข้าไปอย่างเด็ดขาด

              กระทั่งเวลา  16.00 น.พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตไชย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลังเข้าดูแลความเรียบร้อยในการรับตัวนายสมชายเข้ามาเป็นผู้ต้องขังของทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า เจ้าหน้าที่ก็จะปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจำ โดยจะให้อยู่ในแดนแรกรับก่อน เพื่อรอหมายขังของศาลว่า ผู้ต้องขัง ได้รับอัตราโทษ เป็นเวลากี่ปี จึงจะพิจารณา ส่งไปยังเรือนจำที่เหมาะสมของอัตราโทษนั้น

              ทั้งนี้กำนันเป๊าะยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ แต่ก็ห่วงเรื่องสุขภาพเพราะกำนันเป๊าะ อายุมากถึง75 ปี ประกอบกับมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค จึงได้ประสานให้แพทย์ของทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ เข้ามาตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดแล้ว ในส่วนของญาติ ที่อาจจะร้องขอให้ย้ายกำนันเป๊าะ ไปคุมขังที่เรือนจำ จ.ชลบุรี นั้น หากมีการร้องขอเข้ามาจริง ก็จะพิจารณา ถึงความเหมาะสมอีกครั้ง

              นพ.ธาตรี สุนพงศรี ผู้ช่วยผอ.ทัณฑสถานรพ.ราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้นำแพทย์ประจำสถานพยาบาลเข้าไปตรวจร่างกายกำนันเป๊าะ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า นายวสันต์ สิงคเสลิต ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เดินทางมาติดตามสถานการณ์ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้วย  หลังมีแนวโน้มว่ากำนันเป๊าะอาจต้องถูกส่งตัวไปคุมขังในเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากเมื่อนับโทษจำคุก 2 คดีรวมกันแล้ว มีโทษจำคุก 30 ปี ทำให้ไม่สามารถคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้  

              นพ.ธาตรี กล่าวว่า หลังกำนันเป๊าะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพบว่า มีอาการอ่อนเพลีย และมีโรคประจำตัวหลายโรค ได้แก่ โรคความดันโลหิต หลอดเลือดสมองตีบ แต่ยังมีอาการทรงตัว เนื่องจากเพิ่งได้รับการรักษาก่อนถูกตำรวจจับกุมตัว ทั้งนี้ญาติแจ้งให้เจ้าหน้าที่เรือนจำทราบว่า กำนันเป๊าะเคยมีอาการหยุดหายใจขณะนอนหลับ จึงขอให้เรือนจำจัดเตรียมเครื่องช่วยหายใจไว้ประจำในแดนคุมขังด้วย อย่างไรก็ตามจากการพูดคุยกับกำนันเป๊าะพบว่ามีอาการเครียดเล็กน้อย
 

ตร.เผยตามแกะรอยกว่า1ปี

              พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. กล่าวถึงการจับกุมกำนันเป๊าะในครั้งนี้ว่า หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่า กำนันเป๊าะมีการเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลแห่งนี้บ่อยครั้งแค่ไหน และเดินทางมาช่วงใดบ้าง รวมทั้งประสานตรวจสอบประวัติคนไข้ที่ชื่อนายกิม แซ่ตั้ง ซึ่งคาดว่า เป็นอีกชื่อหนึ่งที่กำนันเป๊าะใช้ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล 

              ส่วนนายวินัย ที่นั่งมาในรถกับกำนันเป๊าะ สารภาพว่า รถที่ใช้รับส่งกำนันเป๊าะเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดี

              พ.ต.อ.อธิป กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีประชาชนให้ข้อมูลเบาะแสต่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ว่า กำนันเป๊าะไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ยังอยู่ที่บ้านพัก จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ส่งกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยใช้เวลาสืบสวนประมาณ 1 ปี กระทั่งมีการจับกุมในครั้งนี้ ส่วนรายละเอียดเป็นข้อมูลทางการสืบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนที่ถามว่าการจับกุมครั้งนี้อาจมีแรงกดดันในการปฏิบัติหน้าที่จากฝ่ายการเมืองนั้น ยืนยันว่า ไม่มี และไม่มีใครโทรศัพท์มาหาด้วย

ชี้ได้เบาะแสวันเปิดบ้านอวยพร
              แหล่งข่าวชุดสืบสวนที่ติดตามจับกุมกำนันเป๊าะ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนได้เบาะแสกำนันเป๊าะในช่วงที่บ้านแสนสุข เลขที่ 3 ซอย 4 ถนนบางแสนล่าง อ.เมือง จ.ชลบุรี เปิดบ้านให้คนเข้ามาอวยพรวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 74 ปี ของกำนันเป๊าะเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2555 โดยช่วงนั้นมีกระแสข่าวเกี่ยวกับกำนันเป๊าะว่าอยู่ในบ้าน เมื่อได้เบาะแสดังกล่าวผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้จัดชุดสืบสวนเฉพาะกิจลงพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยใช้การสืบสวนสมัยใหม่ เช่น การสะกดรอย วิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ สืบหาเบาะแส

              แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวว่า ช่วงหนึ่งของการสืบสวนนั้นชุดสืบสวนได้เก็บข้อมูลยานพาหนะที่เข้าออกบ้านแสนสุข พบรถยนต์ต้องสงสัยมากถึง 30-40 คัน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นรถยนต์ที่หมุนเวียนเข้ามาให้กำนันเป๊าะสลับสับเปลี่ยนใช้ในการเดินทางไปที่ต่างๆ แต่รถยนต์เหล่านี้เป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้สาวไปถึงตัวกำนันเป๊าะ โดยรถยนต์คันที่ยึดมาได้นั้นเพิ่งนำเข้ามาในบ้านได้เพียง 3 วันก่อนมาถูกจับกุม ทั้งนี้ในการเดินทางออกนอกบ้านของกำนันเป๊าะนั้นก็มีบางครั้งที่มีผู้ติดตามและรถติดตามไปบ้าง แต่ครั้งนี้ไม่มีรถติดตามแต่อย่างใด และเมื่อมีการสะกดรอยจากบ้านพักเรื่อยมาจนถึงโรงพยาบาลจึงเป็นที่แน่ชัดว่ากำนันเป๊าะโดยสารมาในรถ จึงปฏิบัติการจู่โจมจับกุมดังกล่าว

สมิติเวชยันไม่มีผู้ป่วยชื่อกำนันเป๊าะ

              ขณะที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โดย น.ส.อภิญญา โชติศรี ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลสมิติเวช เปิดเแถลงข่าวถึงการเข้ารับรักษาตัวของกำนันเป๊าะว่า จากการตรวจสอบรายชื่อนายสมชาย หรือ "กำนันเป๊าะ" ในระบบผู้ป่วยของโรงพยาบาลสมิติเวชไม่พบมีข้อมูลในแผนกเวชระเบียน รวมทั้งชื่อนายกิม แซ่ตั้ง ก็ไม่พบรายชื่อแต่อย่างไร

              "ตามปกติแล้วขั้นตอนของโรงพยาบาลผู้ป่วยที่เข้ามารักษาจะต้องมีเอกสารบัตรประชาชนที่แท้จริงว่าเป็นใครที่อยู่ตามบัตรมายื่นกับฝ่ายเวชระเบียน เพื่อที่จะให้เป็นข้อมูลของทางโรงพยาบาล ส่วนที่ว่าจะมีการใช้ชื่อปลอมในการเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นไม่น่าจะมี เพราะปกติแล้วคนที่เข้ารับการรักษาจะต้องแจ้งชื่อจริงและยื่นบัตรประชาชนเป็นหลักฐาน