
คุก13ปี!ครูผช.จุฬาฯยิงพ่อค้าดับ
ศาลฎีกาชี้ไม่มีเหตุลงโทษสถานเบา'อดีตครูผู้ช่วยวิศวะ' จุฬา ฯ ยิงพ่อค้าข้าวแกงดับ เหตุยืนฉี่ริมคลองประปาหน้าบ้าน โทษจำคุกยืนตามศาลอุทธรณ์ 13 ปี 6 วัน
วันที่ 30 ม.ค.56 เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ ด.2070/2548 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสันติลักษณ์ หรือแสตมป์ ธัญญาหาร หรือนายภัทรวรรธน์ ธัญญาหารรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี อดีตครูผู้ช่วยระดับ 3 ภาควิชาไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ 376
โดยโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.48 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 48 เวลาประมาณ 01.30 น. นายสุธัญ อิทธิสุรสิงห์ อายุ 45 ปี อาชีพพ่อค้าข้าวแกง ได้ไปร่วมงานวันเกิดของหลานสาวที่บ้านเช่าหลังอาคารมิสเตอร์แสตมป์ ที่มี นายสันติลักษณ์ จำเลย เป็นเจ้าของ เมื่อกลับจากงานเลี้ยง นายสุธัญ ได้ไปยืนปัสสาวะที่ริมคลองประปา หน้าบ้านของ นายสันติลักษณ์ จำเลยเห็นจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด นายสุธัญ จึงตะโกนถามว่า ยิงปืนทำไม จากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ได้เกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง ขณะนั้นมีพยานซึ่งเป็นเพื่อนของนายสุธัญ เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปห้ามปราม แต่จำเลยไม่ฟังเสียงใช้ปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่ นายสุธัญ เข้าที่หน้าอก จนเสียชีวิต
ทั้งนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีอ้างว่า ผู้ตายกับเพื่อนเดินมาหาเรื่องที่หน้าห้องพัก โดยมีอาวุธมีดมาด้วย ตนจึงเข้าห้องกลับไปเอาปืนมายิงขู่ แต่ถูกเพื่อนผู้ตายแย่งปืน จนปืนลั่นใส่นายสุธัญ ถึงแก่ความตายเอง
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.49 ให้จำคุกจำเลย 18 ปี ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และฐานยิงปืนในที่สาธารณะจำคุก 9 วัน จำเลยให้การรับสารภาพฐานยิงปืนในที่สาธารณะ และคำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 12 ปี 6 วัน โดยให้บวกโทษจำคุก 1 ปี ที่รอลงอาญาไว้ในคดีหมายเลขแดง 566/2545 ที่ทำร้ายร่างกาย นางศรินรัตน์ ธัญญาหาร ภรรยา ได้รับอันตรายสาหัสด้วย รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 13 ปี 6 วัน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 มี.ค.52 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
อีกทั้ง จำเลยยื่นฎีกาว่าผู้ตาย พกพาอาวุธมีดเข้ามาในบริเวณบ้านจำเลย กรณีจึงเป็นเหตุป้องกันตัว ขอให้ศาลฎีกาพิจารณาลงโทษสถานเบา
โดยศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยไม่เป็นสาระ ไม่มีเหตุให้ลงโทษสถานเบา ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ โดยผลให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ลงโทษจำคุกเป็นเวลา13 ปี 6 วัน
ขณะที่ นายสันติลักษณ์ จำเลย กล่าวระหว่างถูกควบคุมตัวออกจากห้องพิจารณาคดีว่า คดีนั้นถึงที่สุดแล้ว ตนจะยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป