
จุฬาฯพร้อมเจรจากรมพละ
เหตุยกเลิกการเช่าพื้นที่ของกรมพละนั้น ฝั่งจุฬาฯพร้อมเจรจาเพื่อหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ทุกฝ่าย
วันที่ 25 ม.ค. 2556 จุฬาฯ เดินหน้าขอพื้นที่คืนจากกรมพลศึกษาบางส่วน เพราะเห็นว่าใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ และยืนยันการเพิ่มค่าเช่า 153 ล้านบาท เป็นไปตามหลักเกณฑ์ แต่พร้อมเจรจาเพื่อหาข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่อาคารจามจุรี 4 (ตึกอธิการบดี) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ธนิต ธงทอง รองอธิการบดี กำกับดูแลกิจการนิสิต จุฬาฯ และรศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี จุฬาฯ กำกับดูแลสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ร่วมชี้แจงการปรับขึ้นค่าเช่ากรมพลศึกษา และการขอคืนพื้นที่บางส่วนภายในสนามกีฬาแห่งชาติ
รศ.ดร.ธนิต กล่าวว่า จุฬาฯ ให้ความสำคัญที่จะพัฒนากีฬาต่อเนื่อง โดยมีการปรับปรุงสนามกีฬา และสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับนิสิต ที่มีความสนใจเล่นกีฬามากขึ้นภายใต้พื้นที่กีฬาที่มีอยู่ แม้จะใช้การบริหารจัดการมาช่วย แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองต่อการขยายตัวความต้องการการเล่นกีฬาของนิสิต บุคลากร และประชาชนที่มาใช้บริการได้
ดังนั้น จุฬาฯ จึงมีความต้องการขอพื้นที่คืนประมาณ 11 ไร่ จากกรมพลศึกษา เพื่อรองรับแผนพัฒนากีฬา ได้แก่ สนามจินดารักษ์ อาคารจันทนยิ่งยง อาคารนันทนาการ ลานอเนกประสงค์ และโรงยิมเนเซียม ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ที่ตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2540 ซึ่งจุฬาฯ มีสิทธิ์เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินที่กรมพลศึกษาใช้อยู่ได้ จึงขอคืนพื้นที่บางส่วน เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการศึกษา และกีฬา
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ที่ขอคืน ที่ผ่านมากรมพลศึกษา ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางด้านการกีฬา ซึ่งจุฬาฯ มีความยินดีหากกรมพลศึกษา ต้องการใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยสามารถทำแผนงาน และหนังสือแจ้งระยะเวลาการขอใช้พื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆ มายังจุฬาฯ เพื่อจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนการขึ้นค่าเช่า หากกรมพลศึกษา มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ จุฬาฯ พร้อมเจรจาเพื่อหาข้อสรุปที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การขอคืนพื้นที่บางส่วน จากเดิม 87 ไร่ เหลือ 76 ไร่ ได้แก่ สนามศุภชลาศัย สนามเทพหัสดิน อาคารนิมิบุตร และสระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ และเพิ่มค่าเช่าเป็น 153 ล้านบาทต่อปีนั้น เพื่อต้องการให้กรมพลศึกษาค่อยๆ ทยอยออกจากพื้นที่ ใช่หรือไม่ รศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ กล่าวว่า จุฬาฯมองเห็นว่า กรมพลศึกษายังใช้พื้นที่ได้ไม่เต็มที่ และการเพิ่มค่าเช่าก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐาน แต่ทั้งนี้ จุฬาฯ พร้อมที่จะเจรจากับกรมพลศึกษา ในเรื่องงบประมาณค่าเช่า ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี ให้กรมพลศึกษา หารือกับจุฬาฯ เพื่อให้จ่ายค่าเช่าในอัตราเดิม 3 ล้านบาทต่อปี ไม่ใช่อัตราใหม่ 153 ล้านบาทต่อปี ยังไม่มีการคุยกันแต่อย่างใด ซึ่งไม่ว่า กรมพลศึกษา จะมองหาพื้นที่ใหม่ หรือจะอยู่ที่เดิมต่อไป เป็นเรื่องที่จะต้องหารือ และวางแผนร่วมกัน
...............................................................................
(หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มข่าว)