
'บ้านทองหยอด'ขอแยกแข่งอิสระ
สมาคมลูกขนไก่ห่วง 'บ้านทองหยอด' ขอแยกแข่งอิสระรอเจรจา 'เอสซีจี'
วันที่ 21 ม.ค. 2556 สมาคมลูกขนไก่ ร่วมยินดี 'บ้านทองหยอด' ได้สปอนเซอร์หนุนแข่งต่างประเทศ แต่ห่วงกระเทือน 'เอสซีจี' ที่หนุนวงการแบดไทยมายาวนาน 'เจริญ วรรธนะสิน' ชี้ทางออก ต้องเจรจาตกลงกันก่อน หากทางเอสซีจีเปิดไฟเขียว ทุกอย่างไร้ปัญหาแน่
ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตัน เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากสโมสรโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่าขอขอบคุณสมาคมที่ให้การสนับสนุนการส่งนักกีฬาในสังกัด อาทิ 'น้องเมย์' รัชนก อินทนนท์, สุดเขต ประภากมล, ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ, พิสิษฐ์ พูดฉลาด, ณริฎษาพัชร แลม ฯลฯ ไปแข่งขันรายการยังต่างประเทศมาตลอด อย่างไรก็ตามขณะนี้บ้านทองหยอดได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนรายอื่น จึงขอแจ้งความจำนงในการขอเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการส่งนักกีฬา, ผู้ฝึกสอน, ทีมงานนักวิทยาศาสตร์การกีฬา และเจ้าหน้าที่ ไปแข่งขันเอง เพื่อเป็นการลดภาระของสมาคมและของชาติ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักกีฬารายอื่นๆ ที่รอการสนับสนุนในงบประมาณส่วนนี้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้มีการพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่ๆ ให้ได้รับโอกาสในการเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นนั้น
เรื่องดังกล่าว สมาคมรับทราบด้วยความยินดีที่ทางบ้านทองหยอดได้พัฒนาขึ้นมาถึงจุดนี้ ที่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับวงการแบดมินตันไทย พร้อมขอขอบคุณที่บ้านทองหยอดได้สนับสนุนกีฬาแบดมินตันโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม สมาคมในฐานะองค์กรแบดมินตันแห่งชาติ ตามพ.ร.บ.กีฬา พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นองค์กรแบดมินตันแห่งชาติที่เป็นสมาชิกสมบูรณ์ของสหพันธ์แบดมินตันโลก และสมาพันธ์แบดมินตันแห่งเอเชีย มีหน้าที่ในการควบคุมและรักษากฎ กติกา ธรรมนูญ ขององค์กรระหว่างชาติ รวมถึงจริยธรรม คุณธรรม ความเป็นธรรม และความรับผิดชอบต่อการดำเนินการกีฬาแบดมินตันของสังกัดสโมสรในเครือสมาชิก รวมถึงผู้สนับสนุนสมาคมให้อยู่ในกรอบของความถูกต้อง ดังนั้นสมาคมจึงจำเป็นต้องพิจารณาสถานภาพใหม่นี้ให้รอบคอบ ก่อนจะมีการตัดสินใจว่า จะให้การสนับสนุนนักกีฬาในสังกัดของบ้านทองหยอดไปแข่งขันต่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลงของบ้านทองหยอดร่วมกับผู้สนับสนุนรายใหม่อย่างรอบคอบต่อไป
นายกสมาคมลูกขนไก่ กล่าวต่อว่า จากเหตุผลดังกล่าว สมาคมต้องมีความรับผิดชอบต่อทางเอสซีจี ซึ่งให้การสนับสนุนวงการแบดมินตันไทยอย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 33 ปี ซึ่งภายใต้การบริหารของสมาคมที่ผ่านมา เอสซีจีเองได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาไทย รวมถึงนักกีฬาในสังกัดของบ้านทองหยอดเป็นเวลายาวนาน ดังนั้นการที่บ้านทองหยอดขอสละสิทธิ์รับการสนับสนุนจากสมาคม ที่ได้รับมาจากเอสซีจีในการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันรายการต่างประเทศในนามประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่กระทบต่อข้อตกลงและข้อสัญญาของสมาคมที่มีต่อเอสซีจีโดยตรง
'เรื่องนี้สมาคมจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเอสซีจี ด้วยการขอร้องให้นักกีฬาในสังกัดของบ้านทองหยอดที่จะเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ใช้โลโก้ของเอสซีจี ในการแข่งขันไปก่อน จนกว่าสมาคม เอสซีจี และผู้สนับสนุนรายใหม่ของบ้านทองหยอดจะมีการเจรจาหาข้อยุติกันก่อน ว่าเอสซีจีสามารถรับในเงื่อนไขใหม่ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ หากเอสซีจีตกลง ไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่บ้านทองหยอดต้องการ แต่ถ้าเอสซีจีไม่ยินยอม ก็คงต้องมีการหาทางออกที่ดีที่สุดกันต่อไป'
ศ.เจริญ กล่าวอีกว่า การที่สโมสรในสังกัดของสมาคมได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สมาคมเองก็ต้องรักษาระเบียบ กฎเกณฑ์ และข้อบังคับต่างๆ ไว้ เรื่องดังกล่าวสมาคมได้มีหนังสือแจ้งกลับไปที่บ้านทองหยอดแล้ว ซึ่งหากบ้านทองหยอดไม่สามารถปฏิบัติได้ สมาคมอาจจำเป็นต้องสงวนสิทธิ์ในการส่งนักกีฬาของบ้านทองหยอดออกแข่งขันตามเงื่อนไขสากล จนกว่าเรื่องต่างๆ จะมีการเจรจาตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากตามพ.ร.บ.กีฬา พ.ศ. 2528 และระเบียบของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย นักกีฬา ผู้ฝึกสอน นักวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ประจำทีมที่จะเดินทางในฐานะผู้แทนประเทศไทย จะต้องผ่านการอนุมัติรับรองจากสมาคมกีฬาองค์กรแห่งชาติ และ กกท. ก่อนทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับเรื่องนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อนักกีฬากลุ่มหนึ่งได้ปฏิเสธที่จะเซ็น 'ทีมคอนเแทรค' กับสมาคม ก่อนจะแยกออกไปเป็นนักกีฬาอิสระ ทำการบริหารจัดการในการเดินทางไปแข่งขันรายการต่างๆ เอง โดยสมาคมเป็นผู้อนุมัติ ซึ่งกับกรณีของบ้านทองหยอด หากสามารถเจรจากันได้ คือ เอสซีจียินยอมที่จะให้มีผู้สนับสนุนรายใหม่เพิ่มเติม ทุกอย่างก็จะยังคงเป็นไปเหมือนเดิม แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า บ้านทองหยอดจะต้องแยกตัวออกไปเป็นสโมสรอิสระ บริหารจัดการการเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศด้วยตัวเอง
.........................................................................................
(หมายเหตุ : ภาพจาก http://www.banthongyord.com/ )