ปรับผังเมืองจังหวัด พัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่ | คมชัดลึก

               กรมโยธาธิการและผังเมือง ปรับผังเมืองจังหวัดทั่วประเทศ รองรับความเติบโตของชุมชน ย้ำชัดพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ขัดขวางนโยบายรัฐบาล คงความเป็นเมืองน่าอยู่ไว้ให้ลูกหลานได้ดูในอนาคต ส่วนการปรับผังเมืองโคราช เพื่อพัฒนาให้เหมาะสมกับความเป็นจริง อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขทุกฝ่าย

                นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เล่าถึงปัญหาการจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะบริเวณเขาใหญ่ว่า จังหวัดนครราชสีมาที่มีปัญหา โดยคณะที่ปรึกษาผังเมืองระดับจังหวัดมีมติให้ออกเป็นกฎกระทรวงก่อน แล้วค่อยนำมาแก้ไข  แต่ภายหลังมีคำร้องจากผู้ประกอบการหลายแห่ง รวมทั้งผู้บริหารท้องถิ่น คัดค้านผังเมืองนครราชสีมา โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเขาใหญ่ที่มีข้อห้ามมากมาย เช่น ห้ามสร้างอาคารสูง ห้ามสร้างสนามกอล์ฟ

               "โดยส่วนตัวผมเห็นว่า บริเวณเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่ดินมีราคาสูง เมื่อซื้อไปแล้ว ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ถือว่าเสียเปล่า ขัดกับสภาพความเป็นจริง แต่ถ้านำพื้นที่ไปสร้างคอนโด หรืออาคารสูง ผมก็ไม่เห็นด้วย ถ้าทำคอนโดเตี้ยๆ ก็พอทำได้ เพื่อให้คนอยู่อาศัยเป็นกลุ่มเป็นก้อน ไม่ไปยึดป่าเพิ่มขึ้น ในส่วนของการสร้างสนามกอล์ฟ ผมก็เห็นด้วย เพราะเป็นพื้นที่สีเขียว มีอ่างเก็บน้ำ ป้องกันการเกิดปัญหาน้ำท่วมได้ จัดสรรก็ทำได้ ให้คนมาพักผ่อนวันหยุด เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว โดยส่วนตัวของผม ผมเห็นด้วยในการปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งระหว่างชาวชุมชน ผู้ประกอบการ และกฎหมายผังเมือง"

               อธิบดีกรมโยธาย้ำว่า จังหวัดนครราชสีมาต้องไปประชุมพิจารณาว่า อยากได้ผังเมืองแบบไหนบ้าง แล้วส่งมาที่กรมโยธา กรมจะออกกฎให้เป็นกลาง จุดประสงค์หลักของกรม คือ พัฒนาได้ แต่ต้องคงความเป็นเมืองน่าอยู่ ไม่ขัดขวางกับการพัฒนาประเทศ ผมเสนอแนวความคิดว่า ปีหน้าประเทศไทยจะมีวิศวกรรมรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรมต้องวางผังเมืองชุมชนเพื่อรองรับ 12 สถานีรถไฟตลอดเส้นทาง และองวางผังเพื่อพัฒนาพื้นที่ โดยรอบในรัศมี 1-2 กิโมเมตรของสถานีรถไฟ มีนัยเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น การจัดโซนนิ่ง การป้องกันน้ำท่วม การเกษตร การอุตสาหกรรม ต้องมีการวางผังใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งเรื่องยุทธศาสตร์ประเทศ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

               ปัจจุบันกรมโยธากำลังปรับปรุงผังเมืองทั้ง 74 จังหวัด ยกเว้น กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างผังเมืองรวม มีการประกาศปรับปรุงไปแล้วประมาณ 8 จังหวัด เหลืออีก 66 จังหวัดอยู่ในกระบวนการพิจารณา การวางผังเมืองจังหวัด กรมโยธาใช้ข้อกำหนดของผังเมืองชุมชน ซึ่งมีรายละอียดมากมาย ทำให้เกิดปัญหาด้านปฏิบัติ ประกอบกับบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก

                "กรมโยธาได้ทำหนังสือถามไปทางจังหวัด เนื่องจากผังเมืองจังหวัด เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2547 ว่าอยากปรับปรุงหรือไม่ ถ้าจังหวัดเห็นว่าควรมีการปรับปรุง ก็ให้ประชุมผังเมืองรวมของจังหวัด และแจ้งมาที่กรมว่า จังหวัดนั้นๆ ขอถอนผังเก่า ไปดำเนินการวางผังใหม่ กรมก็จะนำเรื่องเข้าหารือในคณะกรรมการผังเมืองเพื่อขอความเห็นชอบ หลังจากนั้นก็นำเข้า ครม.ขออนุมัติเพื่อนำไปปรับปรุง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าข้อกำหนดในผังเมืองละเอียดเกินไป เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ซึ่งกรมโยธาเองก็มีการทบทวนข้อกำหนดท้ายกฎกระทรวงนี้ รวมถึงวิธีการวางผังเมืองรูปแบบใหม่ๆ ด้วย

                อธิบดีมณฑล บอกด้วยว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปมากแล้ว ควรมีการปรับปรุงผังเมืองให้ทันกับการพัฒนาของโลกปัจจุบัน เพราะผังเมืองที่ใช้อยู่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ผังเมือง พ.ศ.2518 ที่ผ่านมา 37 ปีแล้ว ข้อกำหนดต่างๆ ต้องไม่ขัดขวางโนบายของรัฐบาลการพัฒนาประเทศ ต้องมีข้อกำหนดบางอย่างควบคุมการพัฒนาให้คงความสวยงามของเมือง ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ต้องประสานกัน พบกันในจุดที่เหมาะสม ทำอย่างไร ผังเมืองกับการพัฒนาจะไปด้วยกันได้โดยคงความเป็นเมืองน่าอยู่ไว้ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข รักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ให้คงสภาพไว้เป็นสมบัติของลูกหลานต่อไป

               "ผังเมืองต้องเป็นผู้ชี้นำ ไม่ขัดขวางการพัฒนา แต่ควบคุมให้เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงความเป็นอยู่ ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม สภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม ให้เป็นเมืองในฝัน" 

               อธิบดีมณฑล ยังแสดงความเห็นส่วนตัว เจตนารมณ์ตามมาตรา 4 ของ พ.ร.บ.ผังเมือง พ.ศ.2518 ผังเมืองเป็นการบังคับโดยทั่วไป ควรจะเป็นการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Zoning) ส่วนรายละเอียดในพื้นที่แต่ละโซน น่าจะใช้กฎหมายตั้งมาเป็นเครื่องมือในการควบคุม เช่น ในพื้นที่อุตสาหกรรมควรมีการก่อสร้างอะไรได้บ้าง ห้ามก่อสร้างอะไรบ้าง ซึ่งไม่น่าจะมารวมอยู่ในผังเมือง เพราะเป็นกฎกระทรวง แก้ไขยากกว่า แต่ถ้าเป็นประกาศกระทรวงจะแก้ไขง่ายกว่า หรือพื้นที่สีแดงที่ห้ามก่อสร้างอาคารสูงเกิน 22 เมตร ควรจะเป็นหน้าที่ของท้องถิ่น ที่จะไปออกข้อบัญญัติป้องกันกำหนดว่า ตรงไหนควรสร้างอาคารได้สูงขนาดไหน ข้อบังคับต่างๆ ควรจะเปิดกว้าง แต่ในรายละเอียด ควรหากฎหมายที่เกี่ยวข้องมาบังคับ

                "ในฐานะที่เติบโตมาในสายวิศวกร ไม่ใช่สายผังเมืองโดยตรง ผมมีความเห็นเช่นนี้ แต่ในรายละเอียดต้องคุยกับคณะกรรมการผังเมืองว่าความเห็นของผมที่นำเสนอไปนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ แนวคิดของผมคือ การปรับปรุงผังเมือง ต้องไม่ขัดขวางนโยบายรัฐบาล ซึ่งหมายถึง 8 ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ ต้องส่งเสริมและรองรับระบบขนส่งที่ทำให้บ้านเมืองเจริญเติบโต จะออกมาในรูปแบบไหน ต้องไปคิดพิจารณากันต่อไป เน้นเรื่องการพัฒนา ส่วนการบังคับใช้ก็จะออกมาแบบกว้างๆ โดยคำนึงถึงเมืองน่าอยู่"

               จังหวัดที่มีปัญหาส่วนใหญ่ คือ จังหวัดที่มีพื้นที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม เนื่องจากในผังเมืองรวมจังหวัด นำพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ (ตามเอกสารสิทธิ หรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาต) มากำหนดเป็นสีม่วงแล้วใส่รายละเอียดในข้อกำหนดลงไป ไม่ได้วางแผนต่อการขายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต จีงทำให้เกิดปัญหาอุตสาหกรรมขยายพื้นที่ไม่ได้ กรมอุตสาหกรรมควรทบทวนในเรื่องนี้ ต้องวางผังเพื่ออนาคต ไม่ให้นำพื้นที่ที่มีอยู่เดิมไปใส่ข้อกำหนด

               อธิบดีกรมโยธา ย้ำว่า กรมโยธาชัดเจนในเรื่องการปรับปรุงผังเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ประเทศ รองรับการขนส่งในอนาคต เตรียมพร้อมกับการเข้าสู่อาเซียน และยึดมั่นการพัฒนาผังเมืองเพื่อให้เป็นคงความเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองในฝัน และรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้ลูกหลานสืบต่อไป

               
........................................

               "ผังเมืองต้องเป็นผู้ชี้นำ ไม่ขัดขวางการพัฒนา แต่ควบคุมให้เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงความเป็นอยู่ ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม สภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม ให้เป็นเมืองในฝัน"

 

........................................

(ปรับผังเมืองจังหวัด พัฒนาเป็นเมืองน่าอยู่ ผังเขาใหญ่ ไม่ใช่ปัญหา เน้นอยู่ร่วมกันอย่างสงบ : คอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษ : นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง )