ข่าว

'ร้านธงฟ้า-ร้านถูกใจ'ควรเลิก!?

'ร้านธงฟ้า-ร้านถูกใจ'ควรเลิก!?

14 ม.ค. 2556

ชาวบ้านร้านตลาด : ร้านธงฟ้า-ร้านถูกใจ ควรเลิกไม่ใช่ทำถาวร : ภาณุมาศ ทักษณา

                           ผมไม่ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือประชาชน หรือชาวบ้านร้านตลาดผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล เพราะนั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการให้การช่วยเหลืออย่างพร่ำเพรื่อ เหมือนขาดหลักปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะสมจนทำให้รัฐบาลขาดรายได้ อย่างการจัดรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี หรือแม้แต่โครงการธงฟ้า-ร้านถูกใจ เพื่อนำสินค้าอุปโภคบริโภคไปจำหน่ายในชุมชนต่างๆ ในราคาถูก หากเป็นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจผมเห็นด้วยครับ แต่เมื่อผ่านไปแล้วก็ควร ยกเลิกโครงการต่างๆ แล้วปล่อยให้เอกชนดำเนินธุรกิจการค้าแต่ละประเภทไปตามระบบการค้าเสรีต่อไปตามเดิมครับ

                           ผมจำได้ว่าตอนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประกาศให้มีร้านถูกใจขึ้นมาใหม่ๆ นั้น ผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะรัฐบาลมีโครงการธงฟ้าอยู่แล้ว ทำซ้ำซ้อนกันทำไม แต่ที่นิ่งเฉย เพราะช่วงนั้นชาวบ้านกำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วม ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกมีปัญหาด้านการขนส่งทำให้สินค้ามีราคาแพง รัฐบาลจึงต้องเปิดร้านตรึงราคาไว้ คิดว่า เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ รัฐบาลคงประกาศยกเลิก แต่ที่ไหนได้...ร้านถูกใจทำท่าจะยาวเสียแล้ว หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มกราคม นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์กลับไปพิจารณาโครงการร้านถูกใจว่าควรทำอย่างไรต่อไป หรือจะทำเป็นโครงการถาวรเลยได้ไหม

                           ผมว่ามันทะแม่ง ๆ อยู่นะครับ ประการแรก ต้องอย่าลืมว่ารัฐบาลไม่มีหน้าที่ในการทำธุรกิจแข่งกับภาคเอกชนนะครับ ประการต่อมา การที่กระทรวงพาณิชย์เกณฑ์ข้าราชการไปยืนตากหน้าขายสินค้าตามเต็นท์ต่างๆ ในชื่อร้านธงฟ้านั้น คิดหรือว่าข้าราชการเขาสนุกด้วย แต่ละคนคงขายของไปแกนๆ ขายได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ช่าง อะไรทำนองนั้น ผลที่ตามมาก็คือขาดทุนยับเยิน นอกจากนี้ภาพที่ปรากฏในสายตาชาวบ้านก็คือ รัฐบาลสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ไปเปิดร้านค้า เป็นคู่แข่ง หรือรังแก ร้านค้าเบ็ดเตล็ด หรือร้านค้าของชำ หรือจะเรียกว่าโชห่วย ในแต่ละชุมชนที่มีอยู่แล้วให้ได้รับความลำบากใจอีกด้วย

                           ทุกวันนี้ร้านค้าเบ็ดเตล็ดหรือที่เรียกว่าร้านโชห่วยในแต่ละชุมชนแทบอยู่ไม่ได้ เพราะมีร้านสะดวกซื้อของผู้ค้าส่งรายใหญ่ 2-3 บริษัทไปเปิดขายเกือบทุกปากซอย หากรัฐบาลจะเปิดร้านถูกใจอย่างถาวรตามข้ออ้างของกระทรวงพาณิชย์ที่บอกว่าร้านถูกใจสามารถช่วยค่าครองชีพประชาชนได้ถึงเดือนละ 600 ล้านบาท ก็มีน้ำหนักไม่พอหรอกครับ วันนี้มีร้านถูกใจอยู่เกือบ 1 หมื่นร้าน หากทำอย่างถาวรก็คงจะขยายเต็มบ้านเต็มเมือง ก็คงต้องใช้เงินงบประมาณอย่างมหาศาล ตรงนี้อาจเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตได้อีกช่องทางหนึ่ง เช่นเดียวกับธุรกิจการค้าที่รัฐบาลเคยทำเจ้งมาแล้วหลากหลายโครงการนั่นแหละครับ

                           และเพื่อให้ทุกอย่างเกิดความโปร่งใส ผมขอร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยื่นมือเข้าไปตรวจสอบโครงการนี้ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2555 และสิ้นสุดโครงการไปเมื่อเดือนธันวาคม 2555 ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ใช้เงินงบประมาณเพื่อการนี้ไปเท่าไหร่ จึงเหลือเงินอยู่เพียง 279 ล้านบาท จนกระทรวงพาณิชย์ขอยืดเวลาโครงการนี้ออกไปอีก 3 เดือนคือจากมกราคมไปถึงมีนาคม 2556...หากมองด้วยตาเปล่า นี่คือโครงการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินด้วยข้ออ้างว่า นำสินค้าราคาถูกไปขายชาวบ้านจึงไม่มีกำไรกลับมา แต่ที่มองไม่เห็นก็คือมีการโกงกันตรงไหนหรือเปล่า...จึงต้องให้ สตง.เข้าไปตรวจสอบอย่างไรละครับ

 

 

---------------------

(ชาวบ้านร้านตลาด : ร้านธงฟ้า-ร้านถูกใจ ควรเลิกไม่ใช่ทำถาวร : ภาณุมาศ ทักษณา)