ข่าว

'สมศักดิ์'ยันจะยึดประโยชน์ปท.-ปชช.

'สมศักดิ์'ยันจะยึดประโยชน์ปท.-ปชช.

31 ธ.ค. 2555

'สมศักดิ์' ให้คำมั่นจะทำหน้าที่ซื่อสัตย์ ยึดประโยชน์ประเทศประชาชน ประธานศาลฎีกาประกาศยึดถูกต้อง เป็นธรรม เป็นกลาง 'พงศ์เทพ'ระบุรัฐแก้รธน.ต้องใช้เวลาเกิน 1 ปี

              31ธ.ค2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้ออกคำปราศรัยเนื่องในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2556 ในฐานะเป็นตัวแทนของสมาชิกรัฐสภาว่า "เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2556 ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย ตั้งจิตอธิษฐาน อารธนาคุณพระศรีพระรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลประทานพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาล ทรงสถิตเป็นร่มโพธิ์ทองของพสกนิกรชาวไทย"

              นายสมศักดิ์ ออกคำปราศรัยอีกว่า "ในปี 2555 ที่จะผ่านไป ตนขอชมประชาชน ในระดับท้องถิ่นและระดับชาติที่ให้ความสำคัญต่อกิจการบ้านเมือง อาทิ ร่วมตรวจสอบ ควบคุม และสนับสนุนการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ในการออกกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และการแต่งตั้ง ถอดถอนบุคคลที่ดำรงตำแหน่งระดับสูง ซึ่งการมีส่วนร่วมการเมืองดังกล่าวถือเป็นส่วนที่จะส่งให้การบริหารปกครองประเทศเป็นไปด้วยความโปร่งใส สุจริต"

              “ผมขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องว่ารัฐสภาจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ละเอียดรอบคอบ โดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชน รวมถึงจะน้องนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ในเรื่องความเมตตา ปรารถนาดีต่อกันมาปฏิบัติ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศต่อไป” นายสมศักดิ์ ระบุ


ปธ.ศาลฎีกามุ่งมั่นยึดถูกต้องเป็นกลาง

              ขณะที่นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ได้ออกคำปราศรัยเช่นกันความว่า "พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่านเนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลดิถีขึ้นปีใหม่ กระผมในนามของข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอส่งความปรารถนาดีมายังประชาชนชาวไทยทุกท่าน และขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย และพร้อมใจกันถวายพระพรชัยมงคล ด้วยการตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล ได้โปรดอภิบาลประทานชัยมงคลให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาลทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบจิรัฐิติกาล

              ในช่วงปีพุทธศักราช 2555  ที่ผ่านมา มีคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมทั่วประเทศกว่าหนึ่งล้านสองแสนคดี ศาลยุติธรรมพิจารณาคดีแล้วเสร็จคิดเป็นร้อยละ 83  ของปริมาณคดีทั้งหมด สำหรับในปีพุทธศักราช 2556  ที่กำลังจะมาถึงนี้ศาลยุติธรรมมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยยึดถือความถูกต้อง เป็นธรรม เป็นกลาง และด้วยความเสียสละ พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีว่าจะได้รับการพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของคู่ความทุกฝ่าย

              กระผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมทุกคน ขอตั้งปณิธานอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรมและหลักการแห่งความยุติธรรม เพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสร้างความสงบสุขในสังคมอย่างแท้จริง

              เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556  นี้ กระผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขออำนวยพรมายังพี่น้องชาวไทยทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ อีกทั้งพระบุญญาบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้โปรดประทานพรให้พี่น้องชาวไทยประสบความสุข ความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำ ลังสติปัญญาที่เข้มแข็ง สามารถฟันฝ่าวิกฤติต่างๆ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความก้าวหน้าของประเทศชาติสืบไป
สวัสดีครับ"
 

"พงศ์เทพ"ระบุรัฐแก้รธน.ต้องใช้เวลาเกิน1ปี

              นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่าภายในปี 2556 จะยังไม่มีโอกาสได้เห็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า หากพิจารณาจากกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญเมื่อรวมเวลาน่าจะใช้เวลาเกินกว่า 1 ปี โดยเฉพาะกรอบเวลาในการทำประชามติ อย่างไรก็ดีหากเลือกใช้วิธีการทำประชามติก่อนที่จะเริ่มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจใช้เวลาเฉพาะการทำประชามติเพียงอย่างเดียวเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ดังนั้นสิ่งที่นายกฯพูดจึงถูกต้องแล้ว ส่วนการแก้ไขข้อจำกัดในทางกฎหมายในการทำประชามติ มีความเห็นที่หลากหลายโดยส่วนหนึ่งเห็นว่าต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน และเห็นว่าไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายแต่สามารถดำเนินการไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติที่มีอยู่ ทั้งนี้คณะทำงานพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติยังไม่เคยพิจารณาในประเด็นว่าควรแก้ไขกฎหมายใดบ้างหรือไม่

              นายพงศ์เทพ กล่าวอีกว่า ในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยระหว่างวันที่ 6-7 ม.ค.2556 น่าจะมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางเพราะมีผู้เสนอความเห็นในหลายประเด็น โดยพรรคต้องการรับฟังคามเห็นของทุกฝ่ายเนื่องจากที่ผ่านมายังมีความเห็นแตกต่างกันในส่วนของข้อกฎหมาย 

              ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า รัฐบาลใส่ใจปัญหาของประชาชนอยู่แล้ว  ตนขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์หันมาใส่ใจในเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยด้วย

 

....................

 

(หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มข่าว)