คนไทยในไต้หวันทำบัตรปชช.ได้แล้ว! | คมชัดลึก

                           ในปัจจุบันมีคนไทยเดินทางไปทำงานในไต้หวันมากกว่า 70,000 คน ซึ่งถือเป็นชุมชนไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลกรองจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา คนไทยส่วนใหญ่ที่ไต้หวันเป็นผู้ใช้แรงงาน  ทำงานเกือบทุกประเภท เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ก่อสร้างตึกอาคาร ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เนื่องจากไต้หวันเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก มีการว่าจ้างแรงงานต่างชาติจำนวนมาก นอกจากคนไทยแล้วยังมีคนงานจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามด้วย

                           ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2555

                           นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะเดินทางไปเยือนเมืองไทเปเพื่อพบปะกับชุมชนและแรงงานไทยในไต้หวัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขทุกข์ของพี่น้องประชาชนไม่ว่าในประเทศหรือพำนักอยู่ที่ใดในโลก

                           นโยบายเร่งด่วนของกรมการกงสุลคือการให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการนำร่องใน 6 ประเทศ โดยไต้หวันเป็นลำดับที่ 2 ที่คนไทยสามารถไปติดต่อขอทำบัตรประชาชนได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของไทย ตรงนี้ต้องย้ำว่าเป็นกรณีขอต่ออายุบัตรประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่ทำบัตรครั้งแรกซึ่งต้องออกบัตรที่เมืองไทยให้เรียบร้อยก่อน

                           อธิบดีธงชัย ชาสวัสดิ์ กล่าวกับผู้แทนชุมชนไทยว่า “ปัจจุบันหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐคือการให้บริการแก่ประชาชนทุกภาคส่วน ไม่เป็นลักษณะสั่งการหรือชี้นำเช่นในอดีต ดังนั้นการให้บริการเรื่องบัตรประชาชนและออกไปดูแลคุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทยในต่างแดนจึงเป็นมิติใหม่ของกรมการกงสุลที่สนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล...”

                           ในโอกาสเยือนไต้หวันครั้งนี้ คณะของกรมการกงสุล ร่วมกับคุณรติวัณณ สุนทรา ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานไทเป ยังได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยที่ทำงานกับบริษัท Compeq Manufacturing Company ในเขตเถาหยวน 

                           บริษัทนี้มีคนงานไทยประมาณ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีโรงงานผลิตขนาดใหญ่และทันสมัย ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกไปขายทั่วโลก เท่าที่เห็นจากภายนอกเชื่อว่า  แรงงานไทยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่มากนัก เพราะที่โรงงานจัดห้องพักไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีอาหารการกินครบทุกมื้อ และมีสวัสดิการต่างๆ ที่จำเป็นครบถ้วน ถ้าทำงานได้ครบตามสัญญาจ้างก็เชื่อว่าจะมีรายได้และเงินออมกลับเมืองไทยพอสมควร

                           แต่อย่างไรก็ดีกรมการกงสุลได้แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องแรงงานในไต้หวันว่า การไปทำงานในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องสุขสบายเหมือนอยู่เมืองไทย ต้องขยัน อดทน มีวินัยต่อการใช้ชีวิตและต้องวางแผนเก็บเงินอย่างมีประสิทธิภาพจึงจะประสบความสำเร็จได้ ที่สำคัญต้องไม่ข้องแวะกับยาเสพติดและอบายมุขทุกชนิด มีเรื่องน่าตกใจไม่น้อยที่ปัจจุบันเริ่มมีขบวนการลักลอบนำยาบ้าไปขายให้คนงานไทยในไต้หวัน ทำให้ทุกวันนี้มีคนไทยหลายสิบรายถูกตำรวจจับกุม ติดคุกติดตะรางจากความเห็นแก่ได้หวังรวยทางลัดของกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในหมู่แรงงานไทย คนเลวพวกนี้ทำบาปต่อคนไทยด้วยกันเองและกำลังทำลายภาพลักษณ์ของแรงงานไทยทั้งประเทศ นี่เป็นปัญหาที่สังคมต้องช่วยกันสอดส่องดูแล จะเพิกเฉยไม่ได้เลย