'หมวดเจี๊ยบ'จี้'เสธ.อ้าย'รับผิดชอบ | คมชัดลึก

                        1 ธ.ค.55 ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่ผ่านมาภายใต้การนำของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่ระบุว่าควรมีการติดอาวุธให้กับผู้ชุมนุมนั้น พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงเพราะล่าสุดมีกรณีความรุนแรงเกิดขึ้นกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยแอร์โฮสเตสที่ตกเป็นข่าวก็ได้กล่าวยอมรับผ่านทางเฟซบุ๊กของตัวเองแล้วว่า ที่ต้องการสาดกาแฟใส่หน้า น.ส.แพทองธาร เพราะรับไม่ได้ที่พล.อ.บุญเลิศยุติการชุมนุม และมีความเกลียดตระกูลชินวัตรซึ่งเป็นทัศนคติที่รุนแรง

                        ทั้งนี้อยากถาม พล.อ.บุญเลิศว่าจะรับผิดชอบอย่างไรเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยยอมรับความเห็นที่แตกต่างและสิทธิการชุมนุม รวมทั้งการดูแความปลอดภัย แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงคือการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ดังนั้นขอให้พล.อ.บุญเลิศทบทวนท่าทีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีก และขอให้กรณีของน.ส.แพทองธาร เป็นกรณีสุดท้ายที่มาจากทัศนคติที่เป็นอันตราย

                        นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนก็เคยเจอเหตุการณ์และได้รับการปฏฺิบัติที่ไม่ดีนักจากแอร์โฮสเตสสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคด้วย เช่น การชักสีหน้าไม่พอใจ หรือขอกาแฟก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนกรณีที่เป็นข่าวนั้นไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ต้องแยกแยะระหว่างความชอบ อารมณ์ส่วนตัว และการปฏิบัติหน้าที่ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนมีการศึกษาทำกัน ตนขอประณามพฤติกรรมของแอร์โฮสเตสคนดังกล่าวอย่างรุนแรง เราเป็นผู้โดยสารจะมั่นใจได้อย่างไรว่าถ้ามีความคิดเช่นนี้จะไม่มีการแอบใส่สิ่งสกปรกหรือของแปลกปลอมลงไปให้ผู้โดยสารที่ไม่ชอบหน้ากิน ต่อไปถ้าแอร์โฮสเตสหรือสจ๊วตนำเรื่องความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงมาแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ก็จะเกิดปัญหายุ่งยากไปใหญ่ ดังนั้นขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

"ประชา"จี้ผู้บริหารสายการบินไล่ออกแอร์โฮสเตสคิดสาดกาแฟใส่"อุ๊งอิ๊ง"

                นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่แอร์โฮสเตสสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า อยากจะเอากาแฟสาดหน้า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงว่า พฤติกรรมของพนักงานสายการบินคนดังกล่าวสะท้อนเจตนาคุกคาม อาฆาตมาดร้าย และจ้องจะทำร้าย ละเมิดสิทธิผู้โดยสารด้วยการนำข้อมูลการบินมาเปิดเผย อีกทั้งยังตั้งใจจะเอากาแฟมาสาดหน้า ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายอาญา มีการตระเตรียมไว้ก่อน เพียงแต่กระทำการไม่สำเร็จเนื่องจากจังหวะไม่เอื้ออำนวย หรือมีอุปสรรคมาขัดขวาง ทั้งนี้ ผู้บริหารสายการบินต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด แค่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้นคงไม่เพียงพอ จะต้องสั่งพักงาน พร้อมดำเนินคดีอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างด้วย

                 “ผู้บริหารจำเป็นต้องเอาคนที่มีความคิดอันตรายแบบนี้ออกไป ความคิดเป็นภัยแบบนี้วันหน้าอาจก่อเหตุไม่คาดฝันได้ หากมีญาติหรือคนที่ฝักใฝ่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเครื่องมาอาจจะถูกลอบทำร้ายหรือลอบวางยาพิษก็เป็นได้ น่าเสียดายที่ น.ส.แพทองธาร เป็นคนจิตใจใสสะอาด ไม่เอาความ เพราะความจริงต้องดำเนินคดีและฟ้องร้องสายการบินนี้ด้วย”นายประชา กล่าว

                  นายประชา กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบกรณีการประกาศการบังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกระทำขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่า การบังคับใช้กฎหมายตลอดจนขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ล้วนเป็นไปตามหลักสากล การไปร้องเรียนของ พล.อ.บุญเลิศ นั้น อยากถามว่า ได้ไปสำรวจพฤติกรรมตัวเองและผู้มาชุมนุมหรือไม่ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้นำอาวุธเข้ามาร่วมการชุมนุม อีกทั้งยังใช้แก๊สน้ำตาขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ความเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยามตั้งแต่ประกาศแช่แข็งระบอบประชาธิปไตยนั้น เท่ากับเป็นการล้มล้างอำนาจอธิปไตยของปวงชน และการชุมนุมของม็อบก็เป็นไปโดยไม่สงบ ซึ่งทราบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินคดีกับแกนนำคนสำคัญหลายคน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.บุญเลิศ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และอีกหลายคนในข้อหาก่อการกบฏด้วย ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี ส่วนที่ พล.อ.บุญเลิศ กลับคำบอกว่าจะมาชุมนุมอีกครั้งนั้น อยากให้ชั่งใจให้ดี เพราะอาจไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้