ข่าว

รถไฟสายรักหนุ่มอังกฤษ-สาวอำนาจเจริญ

รถไฟสายรักหนุ่มอังกฤษ-สาวอำนาจเจริญ

22 พ.ย. 2555

รถไฟสายรักหนุ่มอังกฤษ-สาวอำนาจเจริญ : คอลัมน์เขยฝรั่ง สะใภ้อินเตอร์ : โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน // สุชาติ สูงเรือง

               ก่อนหน้านี้ชีวิตของ "แพรี เวบ" พนักงานขับรถไฟในสังกัดรัฐบาลอังกฤษ ผ่านไปวันๆ กับการทำหน้าที่ขับรถไฟวิ่งไปมาระหว่างเมืองสำคัญ ไปเมืองรอบนอกตามแนวชายแดน แต่ละเที่ยวใช้เวลาไปกลับหลายชั่วโมง มีรายได้หลักจากเงินเดือนประจำและจากธุรกิจเล็กๆ เคยมีครอบครัว แต่หย่าร้างไปแล้วหลายปี ลูกสองคน โตเป็นหนุ่มช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

               ความฝันความหวังของเขาจึงดูกลางๆ ไม่มีทุกข์ แต่ก็สุขใจไม่เต็มร้อย บางเวลารู้สึกเหงา อ้างว้าง โดดเดี่ยว ได้เพียง "ฟุตบอล" กีฬาที่ชื่นชอบเล่นคลายเหงาไปในแต่ละวัน

               กระทั่งต้นปี 2550 ได้พักผ่อนจากงานประจำช่วงวันหยุดยาวจึงเลือกที่จะท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชีย เนื่องด้วยทิวทัศน์สวยงาม บรรยากาศดี และค่าใช้จ่ายไม่สูง เมื่อหาข้อมูลมากพอสมควรจึงตัดสินใจมาเที่ยวที่ประเทศไทย มุ่งหน้าไปเมืองชายทะเล "พัทยา" สวรรค์ของนักท่องเที่ยว

               แต่การท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นมากกว่าการพักผ่อน เมื่อแพรีได้พบ "จันทร์เพ็ญ เรืองวงศ์" คนที่มาเติมเต็มชีวิตของเขาให้สมบูรณ์

               ขณะนั้น "จันทร์เพ็ญ" สาวชาวบ้านคึมใหญ่ จ.อำนาจเจริญ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับของโรงแรมแห่งหนึ่ง อยู่ในช่วงชีวิตมีความสุขมาก เนื่องเพราะเพิ่งได้ชัยชนะจากการแข่งขันปาลูกดอกระดับประเทศ จึงได้ฉลองกันในหมู่นักกีฬาภายในโรงแรมที่แพรีมาพัก ด้วยความที่เป็นคนร่าเริง เมื่อบังเอิญได้รู้จักกัน แต่กลับพูดคุยกันอย่างถูกคอ และได้ติดต่อกันเรื่อยมา

                กระทั่งก่อนกลับประเทศ แพรีได้บอกความในใจสั้นๆ ว่า "ถ้าคุณคือนักกีฬาและผมก็นักกีฬา เราต่างหลงรักกีฬาด้วยกัน เรามาแต่งงานกันดีไหม"

               วินาทีนั้นความสุขลึกๆ ผุดขึ้นในใจ ไล่ภาพในอดีตของชีวิตหญิงสาวแสนแร้นแค้นที่เคยรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา ผู้เกิดมาในครอบครัวบ้านนอกยากจน ช่วงตกอับ สามีก็ยังมาเสียชีวิตลง ชีวิตที่อยู่อย่างเดียวดาย บางเวลาเหงาแทบขาดใจ มีเพียงงานและกีฬาที่ช่วยคลายเหงาได้ แต่บัดนี้ "แพรี" ฝรั่งผมทองคนนี้กับคำพูดที่จะขออยู่ดูแลกันและกัน เป็นน้ำทิพย์ทำให้ชีวิตของหญิงสาวสดชื่นขึ้นทันที ความตั้งอกตั้งใจจะเป็นแม่บ้านที่ดีได้กลับมาอีกครั้ง

                "ตอนขึ้นเวทีรับโล่รางวัลชนะเลิศด้านกีฬา ในใจอบอุ่นฮึกเหิมมาก พร้อมจะสู้ชีวิตในทุกด้าน แต่หลังจากลงเวทีมา ไม่มีคนรู้ใจและคนใกล้ชิดป้อนคำหวาน ความเหงาความเศร้าก็กลับมาอีก แต่เมื่อแพรี บอกรัก อาการฮึกเหิมได้กลับมาอีกครั้ง"

               เมื่อตกลงรับรัก "จันทร์เพ็ญ" ได้ดูแลคนรักสมกับเป็นกุลสตรีไทย คบหาดูใจกันนานเกือบปี ก็ตัดสินใจแต่งงานกันในปลายปี 2550 ที่บ้านเกิดของเจ้าสาว ปัจจุบันมีพยานรักหนึ่งคนคือ

               "สตีเวน" วัย 4 ขวบกำลังน่ารัก อยู่กับแม่ที่อำนาจเจริญ ส่วนแพรี จะบินกลับประเทศอังกฤษไปทำงานนานสามเดือนหรือหกเดือนจะกลับเมืองไทยครั้งหนึ่ง

               สามีไม่ใช่คนหยุมหยิม กินง่ายมีจิตใจโอบอ้อมอารีกับญาติพี่น้องทุกคน เขาตั้งเป้าในชีวิตว่าจะหาเงินเก็บหอมรอมริบได้เงินทุกเดือนจะส่งมาให้เมียเก็บไว้ พอหลังเกษียณอายุราชการที่ประเทศอังกฤษ เขาจะมาอยู่ประจำที่เมืองไทย เขาประทับใจคนไทย เห็นญาติพี่น้องของเมียในเมืองไทยซึ่งล้วนแต่เป็นคนดียิ้มแย้มแจ่มใสแล้วประทับใจมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าจะฝากผีฝากไข้ให้ญาติทางนี้ดูแลยามแก่เฒ่า และจะชวนเพื่อนๆ คนอังกฤษเข้ามาปักหลักในเมืองไทยให้มากขึ้น ให้มีสังคมคนอังกฤษในเมืองไทย เหมือนอย่างที่คนไทยทำในต่างประเทศ

               แพรีบอกว่า เขารู้ดีว่าคนไทยอยู่ที่ไหนก็จะอยู่กันแบบพี่น้อง ถ้าเขาพาเพื่อนๆ มาอยู่เมืองไทยได้ก็จะเลือกมาอยู่อำนาจเจริญ มาอยู่ที่เมืองอุบลราชธานี หรือมาอยู่ที่อีสาน ที่เขาตัดสินใจมาอยู่กินกับสาวคนไทยก็เพราะความรัก เราพูดภาษาใจเดียวกัน ที่สำคัญเราชอบกีฬาเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกัน

               เมื่อจดทะเบียนสมรสกันแล้ว สิทธิ์ตามกฎหมายทุกอย่างเขาเคารพ พร้อมที่จะมอบทรัพย์ที่เป็นของภรรยาให้ครอบครองไว้ เบื้องต้นจะหาซื้อที่ดินที่มีเนื้อที่แปลงใหญ่กว่า 10 ไร่ขึ้นไปไว้ก่อน ต่อจากนั้นจะสร้างบ้าน ภรรยาชอบอะไรก็จะสนับสนุนทุกอย่าง

               ความรักในประเทศไทยและภาคอีสานของแพรี เป็นที่ถูกใจของบรรดาญาติๆ ประทับใจกับ "บักสีดา" คนนี้มากเป็นพิเศษ

               เนื่องเพราะเขาเป็นคนสมบูรณ์ ใจดี รักครอบครัว อดทน แม้จะต้องเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอังกฤษหลายเดือน แต่เมื่อครบกำหนดต้องกลับไทย ก็จะมาทันที

               "เขาจะพูดอยู่เสมอว่า เมืองไทยสงบอยู่ง่ายกินง่าย อยู่สบาย อากาศดี บ้านเมืองมีแต่ความสะดวกสบายไม่มีปัญหาและอุปสรรคทางสังคม เขาจึงตัดสินใจมีลูก และจะให้ลูกอยู่เมืองไทย เมื่อเติบโตเรียนหนังสือจบก็จะให้ทำธุรกิจในเมืองไทย ไม่ให้ไปอยู่ที่อื่น เพราะประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความสุข เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มที่ประทับใจมากที่สุด"

               .....................................
(รถไฟสายรักหนุ่มอังกฤษ-สาวอำนาจเจริญ : คอลัมน์เขยฝรั่ง สะใภ้อินเตอร์ : โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน // สุชาติ สูงเรือง)