ลิขสิทธิ์'พรีเมียร์ลีก'หลุดมือทรูวิชั่นส์ | คมชัดลึก

              ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายวินัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  (CABLE THAI HOLDING) หรือ “ซีทีเอช” พร้อมด้วย “จูเนียร์” นายวัชร วัชรพล รองประธานกรรมการ ร่วมแถลงข่าวการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2013/2014-2015/2016
 
               นายวินัย เปิดเผยว่า ซีทีเอช เป็นบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสายใยเคเบิลที่ใหม่ที่สุดของเมืองไทย การประมูลลิขสิทธิ์ของอิงลีช พรีเมียร์ลีก (อีพีแอล) ในครั้งนี้มีคู่แข่ง 4-5 ราย โดยเฉพาะคู่แข่งที่สำคัญจากมาเลเซีย แต่ซีทีเอชสามารถชนะการประมูลได้ลิขสิทธิ์มาเป็นรายเดียวของประเทศไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วย
 
               “รายละเอียดในเรื่องของตัวเลขการประมูลเป็นจรรยาบรรณที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอให้อีพีแอล เปิดเผยออกมาก่อน ซีทีเอชจึงจะสามารถเปิดเผยได้ แต่งบประมาณดำเนินการทั้งหมดอยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านบาท โดยตอนนี้ซีทีเอชมีผู้รับชมประมาณ 3.5 ล้านครัวเรือน แต่เราเชื่อมั่นว่าจะขยายฐานผู้รับชมได้ถึง 7 ล้านครัวเรือน ในระยะเวลา 3 ปี” นายวินัย กล่าวพร้อมยืนยันว่า การลงทุนดังกล่าวไม่ใช่เป็นการลงทุนที่บ้าเลือด แต่ได้มีการศึกษาความคุ้มค่าทางธุรกิจแล้วว่าจากจำนวนสมาชิกและค่าโฆษณาที่จะได้เพิ่มขึ้นมาน่าจะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ให้บริษัท
 
               ประธานซีทีเอชเผยต่อว่า เมื่อซีทีเอชประมูลได้ลิขสิทธิ์มาก็ถือเป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในไทยหรือต่างชาติ แต่ซีทีเอช เป็นมิตรกับผู้ประกอบการทุกรายที่สามารถเข้ามาพูดคุยเพื่อทำงานร่วมกันได้ แต่รายละเอียดด้านการตลาดต้องรอให้ กฤษนัน งามผาติวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของซีทีเอชกลับจากอังกฤษก่อนถึงจะเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง
 
               ต่อคำถามที่ว่า หากเปรียบเทียบซีทีเอชเหมือนทีวีบ้านนอก ขณะที่ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกเหมือนของในเมืองนั้น นายวินัย กล่าวว่า ถึงเวลานี้การเข้าถึงของผู้บริโภคในเรื่องกีฬานั้นเหมือนๆ กัน เป้าหมายหลักของซีทีเอช คือการยกระดับ ซึ่งนั่นก็คือการมีเนื้อหารายการหรือคอนเทนท์ที่ดี ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของการดำเนินงานของบริษัทที่มาจากการรวมตัวกันของเคเบิลท้องถิ่น เพื่อเป็นช่องทางในการหาคอนเทนท์ที่หลากหลายนั่นเอง
 
               ด้านนายวัชร วัชรพล กล่าวว่า การรับชมพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2013/2014 ถึง 2015/2016 จะดูผ่านทางเคเบิลทีวีของซีทีเอช ที่จะเริ่มกระบวนการต้นปี 2556 ในระบบสัญญาณภาพดิจิตอล โดยจะรับชมได้ทุกช่องทางทั้งในระบบเอชดี และคอมพิวเตอร์ รวมถึงเป็นการติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ชมทางบ้านกับรายการในช่วงถ่ายทอดสดด้วย
 
               “ซีทีเอช เตรียมการทางด้านเทคนิคเพื่อถ่ายทอดสดสัญญาณได้ครบทุกคู่ที่จะออกอากาศ รวมถึงจะมีการนำสัญญาณออกทางฟรีทีวี ตามข้อตกลงในลิขสิทธิ์ของอีพีแอล แต่จะออกทางช่องไหนคงต้องเปิดโอกาสให้พันธมิตรเข้ามาคุยกัน รวมถึงค่าบริการรายเดือนและตัวเลขทางการตลาดต้องรอให้ซีอีโอของเรากลับมาคุยกันก่อน
 
               รองประธาน “ซีทีเอช” เผยต่อว่า การแถลงข่าวในวันนี้ค่อนข้างฉุกละหุกเพราะเพิ่งได้ลิขสิทธิ์มา รายละเอียดหลายๆ อย่างคงต้องรอคุยกันอีกครั้ง โดยลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่ได้มาจะครอบคลุมไปถึงกัมพูชาและลาว ส่วนทีมผู้บรรยายจะเป็นทีมงานจากหนังสือพิมพ์สยามกีฬา
 
               อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวระบุว่าการเข้าไปประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษของ “ซีทีเอช” ครั้งนี้อาจจะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ถึง 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้นมาจากเดิมถึง 5 เท่า ที่ก่อนหน้านี้ “ทรูวิชั่นส์” ซื้อลิขสิทธิ์มาเพียงแค่ 2 พันล้านบาทในสัญญา 3 ปีเท่านั้น
 
               สำหรับ “ซีทีเอช” มีนายวิชัย ทองแตง อดีตทนายความและนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงมีหุ้นอยู่ในโรงพยาบาลหลายแห่ง จับมือกับนายวัชร วัชรพล ทายาทของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ