
ผู้ให้กับผู้รับ
ผู้ให้กับผู้รับ :วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล
ความสมดุลของการดำเนินชีวิตประการหนึ่ง คือ การเป็นผู้รู้จักให้ และการเป็นผู้รู้จักรับตามกาลเวลา สถานะและโอกาสที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป เมื่อยังอยู่ในวัยเด็กหรือมีสถานะเป็นผู้น้อยก็อาจจะเป็นฝ่ายรับมากหน่อย แต่เมื่อเขยิบอายุ และตำแหน่งหน้าที่ขึ้นมา ก็ต้องเริ่มเป็นฝ่ายให้บ้าง และยิ่งเติบโตขึ้นเท่าไหร่ก็ต้องให้มากขึ้นเท่านั้น และไม่ใช่แค่การให้ทรัพย์สินเงินทอง หากยังรวมถึงการให้ความรู้ ให้โอกาส และให้ความปรารถนาดีด้วย
หลายๆ คนอาจจะชอบการเป็นผู้รับ เพราะดูว่ามีแต่ได้ โดยไม่ต้องจ่ายอะไร แต่ในความเป็นจริงนั้น ไม่มีใครได้อะไรเปล่าๆ หรอกครับ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ต้องเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง และเกิดความรู้สึกว่าตนด้อยกว่าผู้ที่ให้อะไรแก่ตน ดังคำพูดที่ว่า “ผู้รับย่อมนอบน้อม ผู้ให้ย่อมสง่างาม” ถ้าไม่เชื่อก็สังเกตดูท่าทางของการให้-การรับ ตามข่าวหนังสือพิมพ์หรือข่าวโทรทัศน์ซิครับ แต่ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นก็คือ การรับอะไรง่ายๆ จะทำให้เกิดความรู้สึกเคยชิน หนักเข้าก็จะทำอะไรเองไม่เป็น ได้แต่แบมือขอจากคนอื่น ซึ่งเรื่องเช่นนี้ผู้ให้บางคนรู้วิธีที่จะทำให้คนตกเป็นผู้รับตลอดกาล ด้วยวิธีการที่เรียกว่า “ให้ปลากินวันละตัว” แทนที่จะสอนให้รู้จักการเลี้ยงปลาหรือวิธีการจับปลาด้วยตนเอง เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าสลดใจ เพราะผู้รับจะไม่มีวันโต ขณะที่ผู้ให้ก็จะกลายเป็นเหมือนพระสังข์ทองที่มีมนต์เรียกปลา ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกครับว่า พระสังข์สมัยใหม่จะตัดปลายจมูกผู้รับเพื่อแลกกับปลาเมื่อไหร่
สภาวะของสังคมทุกวันนี้สอนให้คนเป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้ ซึ่งแน่นอนว่าทำให้หลายๆ คน กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตนเองเป็นสำคัญ ขาดน้ำจิตน้ำใจ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ อยากจะเห็นผู้อื่นมีสุข พูดก็พูดเถอะครับ ผมคิดว่าการให้และการรับเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามอย่างหนึ่งของคนในสังคมไทย แต่ในปัจจุบันเราอาจจะละเลยไปมาก และการให้กับการรับเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัย เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะมีแต่คนที่ถนัดขอ กับคนที่ให้เพื่อหวังผลตอบแทน และความสัมพันธ์ของคนในสังคมไทยก็จะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องของการใช้ปลาหมอตกปลากะพง คำนึงถึงเงินทองหรือค่าตอบแทน มากกว่าความจริงใจ ความดีความงาม หรือความถูกต้อง
เพื่อไม่ให้สูญเสียคุณค่าของตนเอง ทุกครั้งที่รับอะไรจากใคร เราก็ควรตั้งคำถามว่าเขาจะได้อะไรจากสิ่งที่เขาให้เราบ้าง และเราจะต้องเป็นหนี้บุญคุณหรือชดใช้เขาสักเท่าไหร่ ถ้าคำนวณออกมาแล้วหนี้บุญคุณท่วมหัว หรือทำให้เราต้องตกต่ำลงไป ก็อย่าไปรับอะไรจากใครเลยครับ สู้ทน “อดอยากเยี่ยงอย่างเสือสงวนศักดิ์” ดีกว่า
นอกจากนี้ ทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาก็ลองถามตัวเองว่า วันนี้เราจะทำอะไรดีๆ เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก เพื่อครอบครัว เพื่อประเทศชาติ และก่อนนอน ก็ถามตัวเองว่า วันนี้เราได้ทำอะไรดีๆ ให้แก่ตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก เพื่อครอบครัว และเพื่อประเทศชาติบ้าง
เมื่อเราระวังตัวทั้งการรับและการให้เช่นนี้ ย่อมจะทำให้เราเป็นผู้รับที่มีสติ และผู้ให้ที่มีคุณธรรม และหลุดพ้นจากการถูกคนที่อวดร่ำอวดรวยใช้เงินฟาดหัว หรือนโยบายประชานิยมจอมปลอมเสียที