
'กษิต'ดักคอ'ปู'เผยผลเจรจา'โอบามา'
'กษิต' ชี้ 'โอบามา' เยือนไทย 18 พ.ย. เพราะสนใจศก.ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ดักคอ 'ยิ่งลักษณ์' เผยผลหารือ ซัด 1 ปีรบ.ทำแต่เรื่องเอื้อประโยชน์ 'แม้ว'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 55 นายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีกำหนดการเดินทางมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ว่า การเดินทางครั้งนี้เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดของนายโอบามา ก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่งในเทอมแรก ว่าจะให้ความสนใจกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเป็นทวีปนำด้านเศรษฐกิจของโลก ซึ่งเป็นการสะท้อนความสนใจของโอบามา ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ต้องระมัดระวังเรื่องแสนยานุภาพของประเทศจีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ ประกอบกับต้องมาประชุมอาเซียนซัมมิต ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในฐานะประเทศที่สนับสนุน ความร่วมมือส่วนภูมิภาคกับกลุ่มประเทศอาเซียน
นายกษิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ 1. สหรัฐฯ ต้องมารับฟังเรื่องประชาธิปไตย ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงยังมีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มคนสีต่างๆ 2. การเปิดเสรีทางการค้าที่ยังมีเรื่องแรงงานต่างด้าว ทรัพย์สินทางปัญญา และคงมาหยั่งท่าทีของไทยในเรื่องเอฟทีเอ รวมทั้งหุ้นส่วนในภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนผลประโยชน์ทางด้านพลังงานนั้น อยู่ที่ว่าเราชี้แจงเขาอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องอ่าวไทยที่ทั้งกัมพูชาและไทยได้ให้สัมปทานไปกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก แต่การเจรจาว่าด้วยการปักปันเขตแดนบนทะเลยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบ ว่าจะปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จก่อน เพื่อความโปร่งใส
"เรื่องการใช้สนามบินอู่ตะเภา รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องชี้แจงและอธิบายว่า ทำไมจึงล้มโครงการที่จะให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (นาซ่า) ใช้สนามบินดังกล่าว เพื่อใช้ในการสำรวจชั้นบรรยากาศในนาทีสุดท้าย รวมถึงต้องชี้แจงด้วยว่าเหตุใดกรณีที่สหรัฐกับไทย เคยมีการเจรจากันในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ถึงเรื่องการใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อการกู้ภัยพิบัติ และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม มีความคืบหน้าล่าช้า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของความโปร่งใสของรัฐบาลชุดนี้ ที่ต้องบอกกับสหรัฐฯ ว่ามีท่าทีอย่างไร"
นายกษิต กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องเปิดเผยความจริงต่อประชาชนชาวไทย และรัฐสภาไทยให้ทราบด้วย จะปกปิดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติ ทั้งนี้ในการเจรจากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับนายโอบามา ก็ไม่ควรเป็นการเจรจาลับ มิฉะนั้นจะถือว่ามีความไม่โปร่งใส และตนก็ไม่คิดว่านายโอบามา จะมาทำอะไร ที่ผิดครรลอง ตามระบอบประชาธิปไตย หรือกฎหมายรัฐธรรมนูญของไทย และของสหรัฐฯ
ซัด 1 ปีรบ.ทำแต่เรื่องเอื้อประโยชน์ 'แม้ว'
นายกษิต กล่าวถึงผลสำรวจของดุสิตโพล ที่ประชาชนเห็นว่าเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่ต้องเร่งปลูกฝังโดยด่วน พร้อมขอให้นักการเมืองเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว ว่า รัฐบาลปัจจุบัน บริหารประเทศมา 1 ปี ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย มุ่งทำแต่เรื่องเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ การนิรโทษกรรม การจัดทำร่าง พ.ร.บ. สร้างความปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกทำมาเพื่อตอบสนอง พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น อีกทั้งนโยบายประชานิยมก็ล้มเหลว สิ่งที่รัฐบาลให้สัญญาไว้ก็ทำไม่ได้ตามเป้า รวมถึงเมื่อทำแล้วก็เกิดความผิดพลาดไม่ตอบสนองคนส่วนใหญ่
นายกษิต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐมนตรีบางคน ยังพูดจาท้าตีท้าต่อยฝ่ายค้าน ทั้งในและนอกสภา รวมถึงพูดจาไร้สาระ และบิดเบือนข้อเท็จจริง ตลอดจนมาตามล้างตามเช็ดคู่ต่อสู้ทางการเมือง ตั้งคดีเถื่อน ตั้งศาลเถื่อน ขณะที่ตัวนายกรัฐมนตรี ก็ทำตัวลอยอยู่เหนือความขัดแย้ง ทั้งที่ตัวเองรู้เห็นเป็นใจ และยังเกิดปัญหาการทุจริตทุกวงการ ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่า การจัดซื้อจัดจ้าง มีการเรียกรับผลประโยชน์ 30-40% กันทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ประชาชนต้องออกมาประท้วง เช่น การชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง เป็นต้น