'นักธุรกิจร้อยล้าน'ฆ่าเมียยิงตัวตาย | คมชัดลึก

              ทุกครอบครัวย่อมมีปัญหา แล้วแต่ว่าจะใช้ความเข้าใจหรือความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แต่ทว่าหลายคู่เลือกใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ ทั้งที่ปัญหาทุกปัญหาล้วนมีทางออกเสมอ เพียงแค่ใช้ "สติ" ไตร่ตรองถึงทางออกที่สร้างความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ตราบใดที่เลือกใช้ความรุนแรง "โทสะ" อาจบดบังจนทางออกที่ดีงาม มองเห็นแต่ "ความตาย" เป็นทางออกสุดท้าย?!!
    
              ช่วงหัวค่ำวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ศิริชัย สุขสาตต์ (สบ.3) พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุจาก นายศิริมงคล ปิ่นเพชร อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ว่ามีเหตุฆ่ากันตาย 2 ศพ ซึ่งเป็นพ่อกับแม่ของตนเอง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุขศรี ผกก. เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
    
              ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา จัดเป็นบ้านหรูระดับหนึ่ง สร้างติดคลองมะขามเตี้ย ภายในห้องนอนใหญ่ชั้น 2 พบผู้เสียชีวิต 2  คน คนแรกเป็นหญิง สภาพนุ่งผ้าขนหนูสีชมพูผืนเดียว นอนคว่ำหน้าพาดอยู่กับประตูห้องน้ำ ทราบชื่อ นางพรรณจิต ปิ่นเพชร อายุ 40 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.22 เข้าแผ่นหลัง 2 นัด ราวนมซ้าย 1 นัด และต้นแขนซ้าย 1 นัด ส่วนอีกคนเป็นชาย แต่งกายด้วยกางเกงกีฬาขาสั้น สวมเสื้อยืด มีผ้าขาวม้าคาดพุง สภาพนอนหงาย ศีรษะพาดอยู่กับประตูห้องน้ำ บนหน้าอกมีอาวุธปืนยาว ขนาด.22 วางพาดอยู่ ภายในแม็กกาซีนเหลือกระสุน 1 นัด ทราบชื่อ นายกิตติพงษ์ ปิ่นเพชร อายุ 57 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาดเดียวกันเข้าหน้าผาก 1 นัด
    
              ตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด .22 จำนวน 4 ปลอก ภายในห้องนอนเล็ก และห้องที่เกิดเหตุ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่กระจกห้องน้ำมีรอยกระสุน ก่อนนำศพส่งตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง
       
              จากสภาพศพที่พบและจากการสอบปากคำของลูกชายทำให้ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย โดยฝ่ายชายเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าภรรยาก่อนขณะที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำ หลังจากนั้นได้ปลิดชีพตัวเองตายตาย
    
              สองสามีภรรยาดังกล่าวนับว่าเป็นเศรษฐีผู้หนึ่งในจังหวัด โดยมีกิจการหลายอย่างทั้งสวนปาล์ม กิจการอพาร์ตเมนต์ ซึ่ง นายกิตติพงษ์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า "เสี่ยป๊อด" พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช มีธุรกิจเกี่ยวกับสวนปาล์มน้ำมันและยางพาราในพื้นที่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ประมาณ 3,000 ไร่ และยังทำธุรกิจอพาร์ตเมนต์ให้เช่า นอกจากนั้นยังมีธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกหลายที่ มีฐานะขั้นเศรษฐีร้อยล้าน
     
              ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากปัญหาครอบครัวที่แก้ไม่ตก จึงมุ่งประเด็นไปที่เรื่องปัญหาครอบครัวมากกว่าเรื่องอื่น พ.ต.ท.ศิริชัย สอบปากคำลูกชายของผู้ตาย ที่ปัจจุบันรับราชการเป็นพลทหารสำรอง ที่ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ทราบว่า เมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา นายศิริมงคลกับน้องชายได้กลับมาที่บ้านและพบว่าบิดากับมารดามีปากเสียงกันเรื่องที่บิดามีผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง จึงเดินทางกลับเข้าไปค่ายทหาร ส่วนน้องชายเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อไปดูแลกิจการอพาร์ตเมนต์ที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้ติดต่อมารดาและบิดาทางโทรศัพท์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงขออนุญาตผู้บังคับบัญชาออกมาดูที่บ้าน จนมาพบว่าทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิตแล้ว
         
              ปมปัญหาครอบครัว จนนำไปสู่ความตายในสังคมไทยทุกวันนี้...นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อเลือกตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรงมากกว่าจะหันหน้าพูดคุยปรับความเข้าใจกัน สุดท้ายก็ย่อมนำไปสู่เรื่องร้ายๆ ไม่มีแม้โอกาสจะแก้ไขปรับความเข้าใจกันได้อีก!!

...................

(หมายหตุ : 'นักธุรกิจร้อยล้าน'ฆ่าเมีย...ยิงตัวตาย : ตะลุยข่าว โดยสุวรรณี บัณฑิศักดิ์)