สตม.บุกรวบพ่อ'ออย-ศรุตา' | คมชัดลึก

               เหตุสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองบุกทลายขบวนการปลอมแปลงเอกสารให้แรงงานต่างด้าวครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบูรณ์ ผกก.1 ผบก.สส.สตม. พ.ต.ท.จิตติ สามทอง รองผกก.3 ผบก.สส.สตม. พ.ต.ต.ธวัชชัย นรินรัตน์ สว.กก.1 ผบก.สส.สตม. พร้อมหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 1361/55 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1099/33 หมู่ 3 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมควบคุมตัวนายธีระศักดิ์ เรืองวิริยะ อายุ 56 ปี 
 

              พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นโรงงานย่าน จ.สมุทรปราการ พบว่ามีการใช้ตราวีซ่าปลอม จึงขยายผลติดต่อล่อซื้อจากขบวนการรับทำวีซ่าปลอมที่บริเวณท่าน้ำศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อตรวจสอบพบว่า มีตราประทับการตรวจลงตรารายงานตัวในการทำงานสองปีแรกของแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงแรงงานของเจ้าหน้าที่ สตม. และใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมขอรับการตรวจลงตรา 500 บาท จึงควบคุมตัวมาตรวจค้นในรถยนต์นิสสัน เทียน่า สีขาว ทะเบียน ญท1667 กรุงเทพมหานคร พบหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชาอีก 5 เล่ม ประเทศพม่า 4 เล่ม ที่มีตราประทับปลอม
"จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ไม่ทราบว่าตราประทับเป็นของจริงหรือปลอม รู้แต่ว่าได้รับการติดต่อผ่านมาจากนายประมุข หรือตุ้ย ฝอฝน อายุ 37 ปี ว่าสามารถทำเรื่องประทับการตรวจลงตรารายงานตัวในการทำงานสองปีแรกของแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงแรงงาน โดยไม่ต้องนำตัวไปแสดง คิดค่าใช้จ่ายเพียง 1,100 บาท จะได้ 300 บาท และทำมาแล้วกว่า 100 ราย" พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าว
 

              รองผบก.สส.สตม.กล่าวอีกว่า ระยะหลังเมื่อเข้าตรวจสอบสถานประกอบการ หรือโรงงานที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าว พบตราประทับการตรวจลงตรารายงานตัวในการทำงานสองปีแรกของแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงแรงงาน พบว่าในหนังสือเดินทางเป็นตราปลอม จึงสืบสวนจนทราบว่า นายธีระศักดิ์  เปิดบริษัทเอพีเอส อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เพื่อเป็นนายหน้ารับดำเนินการยื่นเอกสารขอโควตาจ้างแรงงานต่างด้าวให้แก่นายจ้างที่ต้องการแรงงาน และยังรับทำเรื่องการรายงานตัวแรงงานอีกด้วย
 

              "เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า มีการนำเล่มไปทำตราประทับปลอมแล้วกว่า 1,000 เล่ม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีในข้อหาปลอมเอกสารราชการและมีหนังสือเดินทางปลอมไว้ในครอบครอง และเตรียมสอบขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี" พ.ต.อ.ชาติชาย ชี้แจง
 

              เย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ สตม.สามารถจับกุมนายประมุข ฝอฝน อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ของขบวนการ โดยจับกุมได้ที่บริเวณห้างบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว จากนั้น พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ  ผบก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจค้นห้องพักห้องเลขที่ 3009 ชั้น 1 ตึก ซี อาคารชุด พี.ซี.แมนชั่น ภายในซอยลาดพร้าว 112 พบอุปกรณ์ตรายางที่เป็นของราชการปลอมใบเสร็จจำนวนมาก พร้อมทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จึงยึดไปตรวจสอบและควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่ บก.สตม.
 

              พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากมีการร้องเรียนต่อ ผบช.สตม.เกี่ยวกับเรื่องแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในไทยมีปัญหาไม่สามารถต่ออายุวีซ่าได้ เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า ตราประทับต่างๆ เป็นของปลอม ไม่สามารถต่อวีซ่าได้ จึงติดตามสืบสวนเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจากการสอบสวนนายธีระศักดิ์ทราบว่าเป็นโบรกเกอร์รับต่อวีซ่าให้คนงานต่างด้าวในโรงงานมากกว่า 1 ปี โดยเป็นผู้รวบรวมเอกสารประเภทพาสปอร์ต รูปถ่าย ส่งให้นายประมุข หรือตุ้ย ให้ไปดำเนินการต่ออายุทำตรายาง โดยจะได้หัวคิวคนละ 300 บาท
 

              "นายธีระศักดิ์ให้การว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าที่นายประมุขดำเนินการนั้นเป็นตราประทับปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนนายธีระศักดิ์อีกครั้ง หากพบว่าไม่มีพฤติการณ์ร่วมขบวนการทำตราประทับปลอมก็จะกันไว้เป็นพยาน เพราะหลังจากจับกุมได้ นายธีระศักดิ์ก็ให้การเป็นประโยชน์ ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่จนนำไปสู่การจับกุมนายประมุข" ผบก.สส.สตม.กล่าว
ขณะที่นายประมุขรับสารภาพเบื้องต้นว่า ปกติเป็นโบรกเกอร์รับต่อวีซ่าแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา และทำตราประทับปลอมและใบเสร็จปลอมในการต่ออายุวีซ่ามากว่า 1 ปีแล้ว โดยมีผู้ร่วมงานอีกคนชื่อนายยอด
 

              ด้าน น.ส.ศรุตา เรืองวิริยะ หรือ "ออย" ดาราสาว ชี้แจงว่า ขอแก้ข่าวตรงนี้ว่า มีการเข้าใจกันผิด พ่อไม่ได้ถูกจับ แต่ที่จริงคนที่ถูกจับเป็นนักต้มตุ๋นที่มาหลอกพ่ออีกที พ่อทำธุรกิจเป็นโบรกเกอร์ รับทำเกี่ยวกับพาสปอร์ต วีซ่าแรงงานต่างด้าว