
'DSI'ลุยระยองจับแก๊งลักลอบขุดแร่ใยหิน
'ดีเอสไอ'ลุยชายหาดระยอง จับแก๊งลักลอบขุดแร่ใยหิน : ตะลุยข่าวโดยอัจฉราวิเศษศรี
จ.ระยองเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล ยาวกว่า 100 กิโลเมตร แทบทุกหาดมีทรายขาว ที่มีคุณสมบัติเป็นแร่ใยหิน และแร่ใยแก้ว เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีบ่อทรายในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำอื่นๆ ซึ่งนับเป็นทรัพยากรที่มีมูลค่ามากมายมหาศาลแต่ปัจจุบัน แร่ที่มีมูลค่าเหล่านี้ นับวันจะร่อยหรอ เพราะผู้ตักตวงเอาแต่ผลประโยชน์ ลักลอบขุดมาเนิ่นนาน จนชาวบ้านสุดทนแจ้งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ขอให้เข้ามาช่วยตรวจสอบ และทลายขบวนการลักลอบขุดแร่ให้หมดไป
เมื่อวันที่30 ตุลาคมที่ผ่านมา นายประวิทย์ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออก (ดีเอสไอ) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกว่า50 นายนาวาเอกสำเริงจันทร์โส ผอ.การกองข่าวทัพเรือภาคที่1 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเรือกองเรือภาคที่1 จำนวน30 นายรวมเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 80 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกเข้าจับกุมคนงาน และคนขับรถแบ็กโฮที่กำลังลักลอบขุดแร่เถื่อนรวม 6 จุดคือ จุดที่บ้านกร่ำ อ.แกลง1 จุดและบริเวณสี่แยกมาบข่า หมู่ 1 ต.เพอ.เมืองระยอง5 จุด รวมพื้นที่ที่ลักลอบขุดแร่เถื่อนนับร้อยไร่ได้ของกลางรถแบ็กโฮรวมทั้งหมด 7 คันรถบรรทุกสิบล้อ 5 คันรถเทรลเลอร์ 1 คันเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่องผู้ต้องหา 12 คนทั้งหมดถูกตั้งข้อหาขุดแร่โดยไม่มีประทานบัตร ครอบครองแร่และขนส่งแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตรวม 3 ข้อหาพร้อมนำผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส่วนของกลางทั้งหมดนำไปเก็บไว้ที่ค่ายมหาสุรสิงหนาท หรือค่าย พัน.ร.7 ต.ตะพงอ.เมืองระยอง
ต่อมาวันที่31 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และกำลังทหารยังขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจสภาพความเสียหาย และสำรวจในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอาจมีการลักลอบขุดนอกเหนือจากพื้นที่ทีดีเอสไอได้รับแจ้ง ยังไม่พบว่ามีการกระทำผิดเพิ่ม
นายประวิทย์กล่าวว่า จากการติดตามขบวนการลักลอบขุดแร่โดยไม่ได้รับอนุญาตมานานกว่า 1 เดือนหลังมีชาวบ้านทำหนังสือร้องเรียนมายังสำนักงานกรมสอบสวนพิเศษ จำนวน 4 ฉบับจึงได้ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสืบหาข้อมูลในพื้นที่โดยละเอียด อีกทั้งยังสำรวจทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ จนพบว่า ในระยองมีการขอสัมปทาน 5 แห่งแต่ปรากฏว่าพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน อยู่นอกเขตสัมปทาน จึงถือเป็นการกระทำความผิดในการขุดแร่เถื่อน และครอบครองแร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้แก่ จุดบ้านในไร่บริเวณริมถนนแยกมาบข่า และริมชายหาดก้นอ่าว ต.เพอ.เมืองจ.ระยองและจุดบริเวณริมชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ต.กร่ำอ.แกลงจ.ระยองโดยได้นำเอาทรายละเอียด ส่งเข้าตรวจสอบความเป็นแร่ ก็พบว่าเป็นแร่จริง จึงได้ประสานหน่วยงานทหารเรือกองทัพเรือภาคที่ 1 เข้าจับกุมได้ผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมาก
ทั้งนี้จ.ระยองมีโรงงานผลิตแก้ว ผลิตกระจก ส่งขายทั้งในและนอกประเทศ มีความต้องการใช้ซิลิกอนที่ทำจากทรายแก้วเป็นวัตถุดิบจำนวนมาก ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ แร่ชนิดนี้จึงมีมูลค่าสูง ทำให้มีผู้ลักลอบขุดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
จากการตรวจสอบในพื้นที่พบว่ามีบ่อทรายที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด 5 บ่อ แต่เป็นบ่อร้างไปแล้ว และมีโรงแต่งแร่ทั้งหมด 16 โรงถ้าขุดจากบ่อที่ไม่ได้รับอนุญาตถือว่าเป็นบ่อเถื่อนผิดกฎหมาย ค่าเสียหายครั้งนี้มูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ขุดแร่ไม่มีใบอนุญาตสัมปทานขุดแร่และจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดียังสำนักงานดีเอสไอต่อไป
ด้านนายวิชิตชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง หลังได้รับรายงานการจับกุมขบวนการลักลอบขุดแร่เถื่อน ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และกำชับให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เจ้าของพื้นที่ตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีการออกใบอนุญาตเพราะว่าการลักลอบขุดแร่ทรายขาว เป็นการทำลายระบบนิเวศ และระบบทางเดินน้ำ ทำให้สภาพแวดล้อมเสียหาย พร้อมกำชับให้อุตสาหกรรม จังหวัดระยอง เข้าร่วมตรวจสอบ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด หาทางแก้ไขพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะแร่ดังกล่าวเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต้องช่วยกันหวงแหน ดังนั้น ผู้ที่กระทำความผิด ไม่ว่า จะเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ ก็ให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด
.........................
(หมายเหตุ :'ดีเอสไอ'ลุยชายหาดระยอง จับแก๊งลักลอบขุดแร่ใยหิน : ตะลุยข่าวโดยอัจฉราวิเศษศรี)