'โอ๊ค'ยันRPGท่าขี้เหล็กเล็งถล่ม'แม้ว' | คมชัดลึก

              4พ.ย.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเยือนประเทศพม่า โดยเฉพาะเดินทางไปที่เจดีย์จำลอง  จ.ท่าขี้เหล็ก และเปิดโอกาสบุคคลต่างๆรวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าพบในวันที่ 10 พ.ย.นี้

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทหารภาคสามเหลี่ยม และตำรวจซึ่งประจำอยู่ที่ จ.ท่าขี้เหล็กได้รับแจ้งจากฝั่งไทยว่า มีขบวนการค้าอาวุธเคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดน ประจวบกับเป็นช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนพื้นที่ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย.55 พอดี ดังนั้น จึงได้มีการนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 3/21 ซอย 13 บริเวณด้านหน้าวัดมะก๋าหัวคำ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงแรมเรจจิน่า แอนด์ กอล์ฟคลับ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปเยือนตามวันดังกล่าวมากนัก เมื่อเย็นวันศุกร์ที่2 พ.ย. ผ่านมา
      
              จากการตรวจค้นพบเจ้าของบ้านชื่อนายสามวู ชาวพม่าเชื้อชาติไทใหญ่ เมื่อตรวจค้นในบ้านพบของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย กระสุนจรวดแบบอาร์พีจี จำนวน 3 ลูก ดินกระสุนจำนวน 3 ชุด เครื่องกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 10 นัด ซองแมกกาซีนจำนวน 1 อัน เจ้าหน้าที่พม่าจึงได้ตรวจยึดเอาไว้ และควบคุมตัวนายสามวู ไปทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพม่า
      
              อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับการไปเยือนของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ แต่แหล่งข่าวท้องถิ่นชายแดน จ.ท่าขี้เหล็ก ระบุว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องเนื่องจากเป็นกรณีที่มีการตรวจสอบการข่าวในฝั่งไทยจากคดีเก่าที่เคยมีการตรวจยึดของกลาง และให้การซัดทอดไปถึงอาวุธที่คงค้างดังกล่าว

              ต่อเรื่องนี้เฟซบุ๊กนาม Oak Panthongtae Shinawatra ของนายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ได้โพสต์ข้อความเมื่อเวลาประมาณ 16.00น.ของวันที่ 4 พ.ย.พร้อมรูปภาพผู้ถูกจับความว่า

              "ผมได้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ไทยที่คอยประสานงานกับทางพม่าว่าผลการสอบสวนในเบื้องต้นอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะจรวดRPG ที่ยึดมาได้ที่ฝั่งท่าขี้เหล็กนั้น ถูกจ้างวานโดยคนไทย เตรียมมาเพื่อใช้งาน ที่เจดีย์จำลอง ในวันที่10พ.ย. ซึ่งตรงกับคิวที่คุณพ่อผม และมวลมิตรเสื้อแดง จะไปทำบุญร่วมกันพอดีครับ

              2-3วันที่ผ่านมา ผมพึ่งโพสต์ถึงแผนปฏิบัติ 3ขั้น ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งจ่ายักษ์ 1ในผู้ต้องหาคดี คาร์บอร์ม ให้การสารภาพ และผมถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้ประเทศไทย วุ่นวาย ถอยหลังลงคลอง ดังเช่นทุกวันนี้ คือ

              1. จัดม๊อบขับไล่รัฐบาล ถ้าไม่สำเร็จก็ทำขั้นต่อไปคือ

              2. ลอบสังหาร นายกทักษิณฯ ซึ่งคำให้การระบุว่า มีการกระทำถึง4ครั้ง ถ้าไม่สำเร็จก็ทำขั้นต่อไปคือ

              3. ให้ทหารทำการปฏิวัติ และให้ พล.อ.สุรยุทธฯ เป็นนายกฯ

              ผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ที่ผมบอกว่าลอบสังหารถึง 4 ครั้ง คงจะต้องเพิ่มเป็น 5 ครั้ง ซึ่งเมื่อประมวลสถานการณ์ทั้งหมดในช่วงนี้ ทั้งในกทม.และที่ท่าขี้เหล็ก ขอยืนยันว่าแผนปฏิบัติการครั้งใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เบื้องหลังสั่งการก็คือ ขาเก่าเจ้าประจำ คนดี คนเดิม

              แน่นอนว่าเจ้าตัวย่อมปฏิเสธ ไม่ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังหรอกครับ แต่ถ้าผมไม่พูดไม่ทักกันตรงๆแบบนี้ ก็คงจะมีครั้งที่6-7-8อีกเรื่อยๆจนกว่าคุณพ่อผมจะตายจากไป ก็ทั้งคนนำม๊อบ ทั้งกลุ่มคนร่วมม๊อบ มันชี้ชัดขนาดนี้ชายชาติทหารก็ยังปฏิเสธได้อยู่ และผมขอบอกว่าคนดีคนนี้ ไม่สนหรอกครับว่าจะมีคนอื่น บาดเจ็บล้มตายไปด้วยอีกกี่ร้อยกี่พัน ขอเพียงแค่ให้เป้าหมายถูกทำลายก็เป็นพอ

              ไม่เชื่อลองถาม พลเอก พ.พาน ที่เคยถูกสั่งให้เอาRPG ไปยิงหน้าต่างบ้านจันทร์ส่องหล้าตอนตี2 สมัยพ่อผมเป็นนายกฯ แต่พล.อ.พ.พาน ปฏิเสธว่าถ้าทำแบบนี้ลูกเมียเขาตายด้วย นักเลงจริงเขาไม่ทำกัน จึงไม่รับงานในครั้งนั้น

              ผมเขียนต้นฉบับอันแรก ทีมงานอิดๆออดๆไม่อยากเอาขึ้นโพสต์ครับ บอกแรงไปให้ผมแก้ไขให้ใหม่ แก้ใหม่เป็นโพสต์นี้ก็ว่ายังแรงอยู่ กลัวสื่อไม่กล้าลง จนผมต้องบอกว่า ก็ลองพ่อง(พ่อคุณ)โดนลอบฆ่า5หนดูมั่งดิ แล้วจะยังต้องพินอบพิเทาเกรงใจคนสั่งอยู่หรือเปล่า(ว่ะ)

              ถ้างั้นเอาเป็นว่า หากยังไม่เลิกเล่นแรงกันแบบนี้ ผมจะต้องเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบถึงที่ทำงาน ขอให้เขาเลิกยุ่งกับคุณพ่อผมสักที ดีมั๊ยครับ"

“มาร์ค”จับตาดูรัฐบาลดำเนินการ”แม้ว”ที่ท่าขี้เหล็ก


              นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเยือน จ..ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการ โดยรอดูว่ารัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะรู้แหล่งที่อยู่กำหนดการชัดเจน ที่ตำรวจต้องส่งสำนวนต่ออัยการเพื่อทำเรื่องของตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศ หากไม่มีการดำเนินการจะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้