
แฉ12เครือข่ายนักค้ายาขู่'ยึดทรัพย์'
แฉ12เครือข่ายนักค้ายา ขู่'ยึดทรัพย์'แทนไล่จับ!
ผลจากการเข้มงวดกวดขันอย่างหนักในประเทศไทย หลังจากมีข่าวครึกโครมว่า สาร "ซูโดอีเฟดรีน" ที่ผสมในยาแก้หวัดถูกกว้านซื้อ และลักลอบส่งออกข้ามชายแดนไปผลิตยาเสพติดทำให้ผู้ผลิตในประเทศเพื่อนบ้านต้องหันไปนำเข้า "สารตั้งต้น" จากแหล่งอื่นแทน
มีรายงานข่าวว่า มีการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากอินเดีย โดยตรวจยึดได้ที่สนามบินในแคว้นอัสสัม หรือการจับกุมที่ จ.ตองยี ชายแดนด้านเหนือของพม่าติดชายแดนจีน รวมทั้งการลักลอบนำเข้าจาก "ตุรกี" ซึ่งถือเป็นประเทศใหม่ นอกจาก "เกาหลีใต้" และ"เวียดนาม" ที่เพิ่งยึดของกลางได้มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
จากแนวโน้มปริมาณการผลิตที่ยังไม่ลดลงทำให้หน่วยงานความมั่นคงกำลังจับตา "เครือข่ายยาเสพติด" ในประเทศ 12 กลุ่มที่มีการติดต่อค้าขายกับกลุ่มขบวนการในประเทศเพื่อนบ้าน
กลุ่มที่ 1 เครือข่าย ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า กลุ่มที่ 2 เครือข่ายบ้านใหม่สหสัมพันธ์ ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ติดต่อการค้ากับกลุ่มเอสเอสเอส และกลุ่มว้าบ้านคายหลวง จำหน่ายยาให้ตลาดในประเทศเป็นหลัก กลุ่มที่ 3 เครือข่าย ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ติดต่อการค้ากับกลุ่มว้าบ้านคายหลวง โดยส่งออกสารตั้งต้น และค้ายาเสพติดให้แก่ตลาดในประเทศ กลุ่มที่ 4 เครือข่ายบ้านอรุโณทัย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว กลุ่มที่ 5 เครือข่ายบ้านใหม่หนองบัว ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ติดต่อค้าขายกับกลุ่มว้าพล.น.775 บ้านห้วยอ้อ จำหน่ายยาให้ตลาดในและนอกประเทศ กลุ่มที่ 6 เครือข่าย ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ติดต่อกับกลุ่มว้า พล.น.775 บ้านห้วยอ้อ,กลุ่มมูเซอ พัน.BGF 1007 บ้านนากองมู จำหน่ายให้ตลาดในประเทศ กลุ่มที่ 7 เครือข่าย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กลุ่มที่ 8 เครือข่ายบ้านสันติสุข ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ติดต่อค้าขายกับกลุ่มว้าพล.น.518 ม.ยอน และบก.46 จำหน่ายให้ตลาดในประเทศ กลุ่มที่ 9 เครือข่ายบ้านห้วยอื้น ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กลุ่มที่ 10 เครือข่าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลุ่มที่ 11 เครือข่ายกิ่วกาญจน์ ต.ริมโขง อ.เชียงของ กลุ่มที่ 12 เครือข่ายแผ่นดินทอง ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย
ส่วนรูปแบบการค้ายาเสพติดในปีนี้พบว่า กลุ่มนายทุนหลายรายได้หวนกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่นักค้ารายใหญ่ถูกจับเป็นจำนวนมาก แต่นายทุนรายใหม่ก็ไม่มีข้อมูล และไม่รู้ช่องทางที่จะติดต่อ "คนกลาง" ของกลุ่มผู้ผลิต จึงต้องจ้างวานให้นักค้ารายใหญ่ใน "เรือนจำ" เป็นผู้ติดต่อแทน
โดยในการลำเลียงสินค้าจะมี "ผู้จัดการเฉพาะ" ในแต่ละพื้นที่และแต่ละกลุ่มผู้ผลิต ทั้งกลุ่มม้งบ้านเวียงค้ำฟ้า ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง และกลุ่มมูเซอ บ้านแม่ปูนหลวง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ขณะที่ "นักลำเลียง" จะถูกจัดหาจากหลายแหล่งสลับกันไปเพื่อสร้างความสับสนให้เจ้าหน้าที่ ขั้นตอนนี้มักจะใช้นักลำเลียงกลุ่มชนเผ่าใน อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ และอ.ขุนตาล
อย่างไรก็ตาม ก่อนลำเลียงยาเสพติดข้ามแดนจะต้องมี "แหล่งพักยา" นอกประเทศไทยเสียก่อน เพื่อรอลูกค้าเข้ามารับของ โดยแหล่งพักยาที่สำคัญ ประกอบด้วย แหล่งพักยาด้านตรงข้าม จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ บ้านหัวเมือง บ้านหนองแหลง และบ้านคายหลวง, แหล่งพักยาด้านตรงข้าม จ.เชียงใหม่ ได้แก่ บ้านนากองมู บ้านห้วยอ้อ บ้านมะขี้หนู ฐานฯ กกล.ว้า 308 ดอยสันจุ๊ บ้านหัวยอด และฐานกกล.ว้า ตรงข้ามบ้านห้วยส้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่, แหล่งพักยาด้านตรงข้าม จ.เชียงราย ได้แก่ ม.ยอน, บก.สี่หก, บ้านปู่นาโก่ บ้านเอดิ บ้านผาขาว บ้านสามปี บ้านฮ่องลึก และบ้านป่ากุ๊ก ด้านจ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย แหล่งพักยาด้านตรงข้ามแม่น้ำโขง ได้แก่ บ้านดอนธาตุ บ้านไซจะเริน บ้านปากทา บ้านแก่งพาก บ้านก่อนตื่น บ้านเชียงตอง และบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ทั้งนี้ แต่เดิมบริเวณลำน้ำโขง ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำมีนายจ้าว เหว่ย เป็นผู้ประสานงานยาเสพติดของกลุ่มว้า กลุ่มโกกั้ง และกลุ่มพันธมิตรเมืองลา โดยให้นายหน่อคำเรียกค่าคุ้มครองและเก็บค่าผ่านทางของเรือบรรทุกสินค้า แต่หลังจากนายหน่อคำถูกจับกุม ทั้ง 3 กลุ่มได้เข้ามาเก็บส่วยเรือสินค้าแทน โดยเพิ่มราคาเป็นลำละ 3,000 บาท จากเดิมลำละ 2,000 บาท
จากแหล่งพักยานอกประเทศ สินค้าจะถูกผ่องถ่ายสู่แหล่งพักยาในประเทศตาม "อำเภอชายแดน" เพื่อรอขบวนลำเลียงชุดที่ 2 แต่ก็มีบางพื้นที่ที่จะรับช่วงการลำเลียงต่อโดยไม่เข้าแหล่งพักยา ซึ่งส่วนใหญ่จะลำเลียงข้ามแม่น้ำสาย น้ำรวก และแม่น้ำโขง โดยจะใช้ขบวนลำเลียงขนาดใหญ่พร้อมอาวุธสงคราม เพื่อต่อต้านการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่
สำหรับเส้นทางลำเลียงจะใช้การเดินเท้าเข้ามายังบริเวณบ้านหล่อโย ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยจะมีนักลำเลียง 6 คน และกลุ่มติดอาวุธ 2 คน มาส่งยาให้แก่ขบวนลำเลียงที่ 2 ซึ่งมาจากบ้านหนองเขียว ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย หรือการลำเลียงโดยทางรถของกลุ่มชนเผ่าที่ใช้เส้นทางบนถนนสายแม่จัน-แม่อาย โดยจะขนไปส่งกลุ่มม้งที่จัดขบวนรถมารับยาอีกทอดหนึ่ง โดยใช้ "รถบรรทุกขนาดใหญ่" ซุกซ่อนยาเสพติดมากับสินค้า เช่น สับปะรด เพื่อนำยาลงมาพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ หรืออาจใช้รถยนต์ดัดแปลง รถป้ายแดง และนักลำเลียงจากภาคอื่น เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่
ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดในปี 2556 ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์ว่า การที่รัฐบาลพม่ากดดันกองกำลังชนกลุ่มน้อยให้เลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจังจะทำให้มีการเร่งระบายยาเสพติดออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ทั้งฝิ่น เฮโรอีน ยาบ้า และไอซ์
โดยกลุ่มนักลำเลียงชนเผ่าจะหันไปใช้เส้นทางการลำเลียงตามลำน้ำโขง ใช้เส้นทางหลบเลี่ยงด่านตรวจ ใช้รถยนต์ดัดแปลง ใช้การขนส่งทางพัสดุภัณฑ์ และมีแนวโน้มที่จะใช้เด็ก เยาวชน และสตรี ลำเลียงยาเสพติด ขณะเดียวกันมีโอกาสที่จะใช้อาวุธตอบโต้เจ้าหน้าที่มากขึ้น
แนวโน้มตลาดยาเสพติดปีหน้าจะมีปริมาณมากขึ้น แต่ราคาจะไม่เปลี่ยนแปลงชัดเจน เพราะปริมาณยาเสพติดนอกประเทศยังมีอยู่มาก และบางส่วนถูกลำเลียงเข้าพื้นที่แพร่ระบาดแล้ว ราคาจึงไม่สูงขึ้น แม้ราคาขายส่งที่ชายแดนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีก เนื่องจากมีกำไร "ส่วนต่าง" มหาศาล
อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 ยังไม่ประสบความสำเร็จในการจับกุมกลุ่มผู้จัดการและนายทุน แต่สามารถติดต่อนักลำเลียง คนรับของ และนักค้ารายใหญ่ในเรือนจำได้บางส่วน โดยเป้าหมายในปี 2556 จะมุ่ง "ยึดทรัพย์" กลุ่มนายทุนให้มากยิ่งขึ้น
..............
(หมายเหตุ : แฉ12เครือข่ายนักค้ายา ขู่'ยึดทรัพย์'แทนไล่จับ!)