
เปิด'11โรงงานยานรก'ปั๊มทะลักไทย!
เปิด'11โรงงานยานรก' ปั๊มยาเสพติดทะลักไทย!
สถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ามายังชายแดนภาคเหนือยังน่าเป็นห่วง แม้จะมีการสกัดกั้นตรงแนวชายแดน และวางด่านตรวจในพื้นที่ชั้นในอย่างเข้มแข็ง เห็นได้จากคดี ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ตำรวจสน.ประชาชื่น ที่ถูกจับกุมได้หลังขับรถฝ่าด่านตรวจใน อ.งาว จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า 1.28 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ยาเสพติดยังคงทะลักเข้ามายังพื้นที่ชั้นในของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเกิดจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านยังไม่หยุดสายพานการผลิต โดยข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า ขณะนี้สถานะของชนกลุ่มน้อยในพม่าแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มที่เจรจาหยุดยิง และเป็นพันธมิตรกับรัฐบาล และ 2.กลุ่มที่กำลังเจรจา และต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
น่าสนใจว่า กลุ่มที่ผลิตยาเสพติดในปัจจุบันล้วนเป็นกลุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น "พันธมิตร" ของรัฐบาล ได้แก่ กลุ่มโกกั้ง MNDAA (โลซิงฮัน) มีศูนย์กลางอำนาจที่ม.ลาเฉียว, กลุ่มพันธมิตรม.ลา NDAA (จายลืน), กลุ่มว้า UWSA (เปา หยู จ่าง, เหว่ย เซียะ กัง) มีศูนย์กลางอำนาจที่ม.ปางซาง
ทั้งนี้ ปัจจุบันโรงงานผลิตยาเสพติดหลักในประเทศเพื่อนบ้าน 11 โรงงาน ในจำนวนนี้อยู่ในพื้นที่เขตปกครองพิเศษของกลุ่ม "ว้าเหนือ" จำนวน 6 โรงงาน มีลักษณะเป็นโรงงานขนาดใหญ่
โรงงานที่ 1 ตั้งอยู่ที่ม.โหปัง ห่างจากชายแดนจีนไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นของกลุ่มตระกูลเหว่ย เน้นผลิต "ยาบ้า" เป็นหลัก
โรงงานที่ 2 ตั้งอยู่ที่ม.ปางเหว่ย ห่างจากชายแดนจีนไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นของกลุ่มเหว่ยเซียะ กัง เน้นผลิต "ยาบ้า" เป็นหลัก
โรงงานที่ 3 ตั้งอยู่ที่ม.เมา ห่างจากชายแดนจีนไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นของกลุ่มว้า เป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุด มีการผลิตแบบครบวงจรทั้งฝิ่น, เฮโรอีน, ยาบ้า
โรงงานที่ 4 ตั้งอยู่ที่ม.ตังยาน อยู่ห่างจากชายแดนจีนไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นของกลุ่มเหว่ยเซียะ กัง เน้นผลิต "ยาบ้า" เป็นหลัก
โรงงานที่ 5 ตั้งอยู่ที่ม.ปางซาง อยู่ห่างจากชายแดนจีนประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นของกลุ่มตระกูลเปา(เปาหยู่ฉาง, เปาหยู่ยี่) เน้นผลิต "ยาบ้า" เป็นหลัก
โรงงานที่ 6 ตั้งอยู่บ้านสบหลวย อยู่ห่างจากชายแดนจีนไปทางทิศใต้ ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นการขยายฐานการผลิตของ กกล.กลุ่มพันธมิตร ม.ลา ร่วมกับ พงเจียเซิน อดีต ผบ.กกล.กลุ่มโกกั้ง ม.เล่าไก่
ทั้ง 6 โรงงานสามารถผลิต "หัวเชื้อยาเสพติด" ได้เอง โดยตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา พบหัวเชื้อ 12 กลุ่ม แต่ที่ผลิตอย่างต่อเนื่องมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ X2, X3 และ X6
ในปีนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงยังพบเพิ่มอีก 1 กลุ่ม คือ X13 ที่ผ่านมาหัวเชื้อที่แพร่ระบาดมาก คือ หัวเชื้อกลุ่ม X2 โดยมาจากแหล่งผลิตของกลุ่มโกกั้งบริเวณเมืองลาเฉียว รัฐฉานเหนือ ส่วนหัวเชื้อกลุ่ม X3 และ X6 มาจากพื้นที่เมืองเล่าไก่ โดยผู้ผลิตน่าจะเป็นกลุ่มโกกั้ง และกลุ่มว้า
ส่วนพื้นที่ "รัฐฉานตะวันออก" ติดชายแดนภาคเหนือของไทย มี 5 โรงงาน มีลักษณะเป็นโรงงานขนาดเล็ก หากเปรียบเทียบกับโรงงานในพื้นที่รัฐฉานเหนือ โดยจะรับหัวเชื้อจากกลุ่มโรงงานในพื้นที่รัฐฉานเหนือ เพื่อนำมาตอกอัดเม็ดยา แต่ก็สามารถผลิตยาเสพติดชนิดอื่นได้ด้วย
โรงงานที่ 1 แหล่งผลิตกลุ่มขุนน้ำรวก ม.โก เป็นของกลุ่มนายอาซาง และกลุ่มนางสำเภา หรืออาเหม่ย (แดนชุติมาพานิช) อยู่ห่างจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 35 กิโลเมตร มีเนื้อที่สัมปทานปลูกพืชเมืองหนาว 4,000 ไร่ แต่ส่วนใหญ่ใช้ปลูกฝิ่นเพื่อผลิตเฮโรอีน และไอซ์
โรงงานที่ 2 ม.ทาใหม่ ด้านตรงข้าม อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ อยู่ห่างจากชายแดนไทย 20 กิโลเมตร เป็นชุมชนว้า จีนฮ่อ และโกกั้ง ที่ใหญ่ที่สุดแห่งใหม่อพยพมาจาก 8 เมือง ของรัฐฉานเหนือ แบ่งเป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม แต่กลุ่มหลักคือ กลุ่มตระกูลหยาง(หยางก่อจง, หยางเฉาฉิ่ง, หยางไอ่ซุง, พล น.775 และพล น.772) มีการผลิตอย่างครบวงจรทั้งเฮโรอีน ไอซ์ และยาบ้า
โรงงานที่ 3 บ.น้ำจ๋าง รัฐฉานใต้ เป็นของกลุ่ม พ.อ.มหาจ่า เป็นแหล่งผลิตขนาดใหญ่ อยู่ห่างจากชายแดน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 95 กิโลเมตร เป็นแหล่งปลูกฝิ่นและผลิตเฮโรอีนขนาดใหญ่
โรงงานที่ 4 ม.กุนฮิง เหนือ บ.น้ำจ๋าง รัฐฉานใต้ อยู่ห่างจากชายแดน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 115 กิโลเมตร เป็นของกลุ่ม พ.อ.มหาจ่า ที่ย้ายมาจาก บ.หัวเมือง ผลิตเฮโรอีนเป็นหลัก
โรงงานที่ 5 บ.ปูนาโก่ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ ม.ตูม ประมาณ 15 กิโลเมตร อยู่ห่างจากชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในถ้ำต้นลำห้วยน้ำปุ๋งต๊ะ ซึ่งไหลลงแม่น้ำกก ภายในถ้ำมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากพลังน้ำตก เป็นแหล่งผลิตถาวร ซึ่งผลิตเฮโรอีนมาตั้งแต่สมัย" ขุนส่า"
ปัจจุบันเป็นของกลุ่ม ผู้ผลิตรายย่อย 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มหงส์ปัง 2.กลุ่มนายจะงอย/จะเงาะ บ.แม่โจ๊ก 3.กลุ่มชาวเขาเผ่าอาข่า และจีนฮ่อของนายซาเจ๊ะ นายมนตรี พฤษาพันธ์ทวี อดีตผู้ใหญ่บ้านผาหมี อยู่บริเวณภูไฟไหม้ และ 4.กลุ่ม พ.ท.ยี่เซ หรือนายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล บ.ปูนาโก่ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งเพื่อนบ้าน
หน่วยงานความมั่นคงระบุว่า ปริมาณยาเสพติดเมื่อประเมินจากปริมาณการจับกุมปี 2554-55 พบว่าผลผลิตยาบ้า และไอซ์ ยังคงมีปริมาณสูง ส่วนพื้นที่ปลูกฝิ่นในฝั่งเพื่อนบ้านที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณเฮโรอีนเพิ่มขึ้นจาก 580 ตัน เป็น 610 ตัน ในปี 2554 ซึ่งมีผลกระทบต่อไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ สถิติปริมาณยาเสพติดที่จับกุมในประเทศระหว่างปี 2554-2555 ยาบ้ายังครองแชมป์ในความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นเยาวชน และผู้ใช้แรงงาน โดยเพิ่มขึ้น 34.37% ส่วนการจับกุมเฮโรอีน ลดลง 42.88% กัญชาเพิ่มขึ้น 21.78% ไอซ์ เพิ่มขึ้น 30.84% ส่วนโคเคนมีปริมาณลดลง 18.21% ซึ่งจะเห็นได้ว่า "ไอซ์" มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตา ทั้งที่มีราคาแพงกว่ายาบ้ามาก
สอดคล้องกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังมียาบ้าอยู่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่รอการลำเลียงเข้ามาในประเทศไทยอีกกว่า 500 ล้านเม็ด ซึ่งเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่า สถานการณ์การทะลักเข้ามาของยาเสพติดยังน่าเป็นกังวล แม้จะมีการจับกุม และตั้งโต๊ะแถลงเป็นหลักล้านเม็ดแทบจะรายวัน