ข่าว

ลุ้นระทึกผลตีความส่งร.อ.หญิงเดือนเต็มดวงพ้นเก้าอี้

ลุ้นระทึกผลตีความส่งร.อ.หญิงเดือนเต็มดวงพ้นเก้าอี้

25 พ.ค. 2552

การเมืองท้องถิ่นคึกคัก ลุ้นระทึกผลตีความคณะกรรมการกฤษฎีกาส่ง ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง พ้นเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ คู่แข่งเชื่อไม่ผิดคาด เริ่มติดป้ายหาเสียงแล้ว

 บรรยากาศการเมืองในเมืองเชียงใหม่เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังคณะ กรรมการกฤษฎีกาจะสรุปผลการตีความกรณี ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่  นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ว่าจะพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่  หรือไม่ ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้คำสั่งของ คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ระบุว่า ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ขาดคุณสมบัติในการ สมัครรับเลือกตั้ง     
 
 โดยในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เริ่มมีการเปิดตัวผู้ที่จะลงสมัครรับเลือก ตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ โดยมีป้ายแนะนำตัวของนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ อดีตเลขานุการนายบุญเลิศ บูรณปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เชียงใหม่ ติดตั้งในย่านชุมชนหลายแห่ง ขณะที่นายวัลลภ แซ่เตี๋ยว ผู้ที่คาดหมายว่า จะลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่อีกหนึ่งคนเริ่มออกนำนำตัวด้วยการใช้รถ แห่ไปในเขตชุมชนหลายแห่งด้วยเช่นกัน

 สำหรับนางวิภาวัลย์ อยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 20 ปี โดย ก่อนหน้านี้เคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลในกลุ่มอานันทภูมิ ก่อนขยับมาเป็นรองนายก เทศมนตรีนครเชียงใหม่ในสังกัดกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่มีนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์  เป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ในขณะนั้น หลังจากหมดวาระจึงได้ติดตามไปเป็น เลขานุการให้กับนายบุญเลิศอีกครั้ง ก่อนลาออกมาเตรียมตัวลงสมัครนายก เทศมนตรีนครเชียงใหม่าในครั้งนี้ 

 ขณะที่นายวัลลภ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีประสบการณ์ในการเมืองท้องถิ่น  โดยก่อนหน้านี้ เป็นอดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และในครั้งนี้นายวัลลภ ยังเน้นไปที่การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในเขตเมืองอย่างทั่วถึง โดยที่ผ่านมานาย วัลลภมีฐานเสียงจำนวนไม่น้อย

 นายพงษ์พันธ์ ริ้วทองทวี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ควรจะออกจากตำแหน่งตั้งแต่ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาแล้ว แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความก็ถือ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ส่วนการเลือกตั้งครั้งใหม่ หาก กกต. ได้รับหนังสือขอให้มีการเลือก ตั้งใหม่จากท้องถิ่น ก็พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนได้ทันที
 ทั้งนี้ผลการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาจะทราบผลในวันที่ 26  พ.ค. โดยจะมีหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จากนั้นจะส่ง เรื่องถึงสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดจะมีหนังสือสั่งการไปถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับ