
'โคมล้านนา'ภูมิปัญญาน่าจดจำ
โคมล้านนา ภูมิปัญญาน่าจดจำ
หลังเทศกาลออกพรรษาก็ถึงคราวก้าวเข้าสู่งานประเพณี "ยี่เป็ง" ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่แห่งเมืองเหนือ หรือประเพณีลอยกระทงของภาคกลางกันแล้ว ชาวล้านนาต่างจัดเตรียมเครื่องไทยทาน เพื่อไปทำบุญที่วัดพร้อมประดิษฐ์ "โคม" สำหรับประทีปให้ความสว่างไสว ถวายเป็นพุทธบูชาตามธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบต่อกันมา ด้วยเหตุนี้ จรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด จึงจัดงาน "แอ่วตลาด กาดหมั้ว" พร้อมเนรมิตกรุงเทพตะวันตก ให้ทุกคนได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตผู้คนในกาดหมั้วกัน สักการะพระธาตุฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี ลิ้มรสชาติอาหารพื้นเมือง และตื่นตากับหัตถกรรมพื้นบ้านโคมล้านนา ที่ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ตั้งแต่วันที่ 12 - 21 ตุลาคมนี้
ใครสนใจเรียนรู้โคมล้านนา ไม่ต้องเดินทางไปไกล เพราะ "ครูหมี" อ.เบญจพล สิทธิประณีต ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เจ้าของรางวัลช่างหัตถศิลป์ไทยยอดเยี่ยม ประจำปี 2555 สาขาเครื่องกระดาษ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดูแลและจัดแสดงโคมล้านนาด้วยตัวเอง จะมาสาธิตการประดิษฐ์ให้ฟรีด้วย พร้อมเล่าถึงที่มาที่ไปของโคมให้ฟังก่อนว่า โคม เป็นชื่อเรียกตามเมืองโบราณในเชียงรายที่ชื่อว่า "สุวรรณโคมคำ" โคม เป็นงานหัตถกรรมพื้นเมืองจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ประดิษฐ์ โคมล้านนา เพื่อให้ความสวยงามและเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้าน รวมถึงการใช้ถวายเป็นพุทธบูชาในพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในงานประเพณียี่เป็ง
"โคมล้านนา แบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ โคมถือ ซึ่งมีการกำบังทำจากกระดาษสี ภายในโคมจะมีการจุดเทียนไขและใช้ถือในขบวนแห่งงานลอยกระทงเดือนยี่เป็ง รูปร่างจะมีสองลักษณะ คือ โคมหูกระต่าย ที่ภายหลังจากเสร็จสิ้นขบวนแห่แล้ว โคมนี้จะถูกนำไปประดับไว้รอบๆ โบสถ์วิหารและอีกแบบหนึ่ง คือ โคมกลีบบัว เมื่อเสร็จขบวนแห่แล้วจะนำไปบูชาพระประธานในวิหาร
โคมผัด จะมีการตัดกระดาษเป็นรูปคน สัตว์ สิ่งของ หรือรูป 12 ราศีครอบไว้ และเมื่อจุดเทียนซึ่งอยู่ภายในทั้ง 2 ชั้น ความร้อนจากควันเทียนจะทำให้โคมหมุน และเกิดเงาภาพสะท้อนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ผนังโคม โคมชนิดนี้ลูกหลานต้องช่วยกันอนุรักษ์ภูมิปัญญามิให้สูญหายไป เพราะเป็นโคมที่ทำค่อนข้างยาก และ โคมลอย มีลักษณะเป็นรูปถุงวงกลมก้นใหญ่ ปากแคบราว 75 เซนติเมตร สูงประมาณ 1.15-1.50 เมตร ทำด้วยกระดาษว่าว สามารถลอยขึ้นฟ้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน" ครูหมีอธิบาย