
ถอดรหัส..ล่ามือยิง'น.อ.วุฒิชัย'
ถอดรหัส..ล่ามือยิง น.อ.วุฒิชัย บุญญฤทธิ์ : คลี่ปมปริศนา CSI Thailand โดยทีมข่าวรายงานพิเศษ
หัวค่ำของคืนวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ถนนรัชดาภิเษก-ห้วยขวาง การจราจรกำลังคับคั่ง จู่ๆ มีเสียงปืนดังติดต่อกัน 2-3 นัด ก่อนที่รถกระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีน้ำเงินเทา ทะเบียน ลษ 4811 กรุงเทพมหานคร จะเซถลาปีนขึ้นไปบนเกาะกลางถนนพุ่งชนต้นไม้จนหน้ารถพังยับ เพิ่มดีกรีความโกลาหลให้แก่ผู้คนที่สัญจรผ่านต่างพากันหนีตายกันอย่างจ้าละหวั่น เพราะกลัวคมกระสุนลูกหลง!!
หลังสิ้นเสียงปืนไม่นาน ตำรวจ สน.ห้วยขวาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง น.อ.วุฒิชัย บุญญฤทธิ์ วัย 54 ปี นายทหารสังกัดกรมกำลังพลทหารเรือพระราชวังเดิม แน่นิ่งอยู่ที่เบาะนั่งคนขับ
น.อ.วุฒิชัย สวมเสื้อเชิ้ตโปโลแขนสั้นสีเขียว กางเกงสแลคขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร เข้าที่ท้ายทอยทะลุเหนือคิ้วซ้าย คมกระสุนไม่ได้คร่าชีวิตไปทันที แต่ความสาหัสของบาดแผลทำให้ยากเกินกว่าจะเยียวยา และสิ้นใจขณะเจ้าหน้าที่พยายามจะเคลื่อนร่างไร้สติส่งโรงพยาบาล
พฤติการณ์ของคนร้ายที่ก่อเหตุไล่ยิงผู้อื่นกลางใจเมืองถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. (ตำแหน่งในขณะนั้น) กำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าควบคุมการสืบสวนของตำรวจด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับงานด้านพิสูจน์หลักฐาน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ. (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) เข้าควบคุมสั่งการการทำงานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ที่เกิดเหตุตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเก็บปลอกกระสุนขนาด 9 มิลลิเมตร ตกอยู่กลางถนนห่างจากรถกระบะของผู้ตายประมาณ 60 เมตร ซึ่งปลอกกระสุนดังกล่าวสันนิษฐานว่า น่าจะกระเด็นออกจากอาวุธปืนของคนร้ายหลังจากลั่นไก โดยหัวกระสุนนัดแรกพุ่งเข้าบริเวณกระจกหลังทะลุกระจกหน้ารถกระบะของผู้ตาย ส่วนอีกนัดหัวกระสุนเข้าที่กล่องเก็บของด้านหลังกระบะทะลุกระจกหลังก่อนพุ่งเข้าบริเวณท้ายทอยของผู้ตายทะลุเหนือคิ้วซ้ายเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ขณะที่การสอบสวนผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ซึ่งผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า คนร้ายที่ลั่นไกสังหาร "ลูกประดู่" ครั้งนี้ ใช้รถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีเข้าไปในซอยรัชดาภิเษก 7 (ซอยนาทอง)
เบาะแสดังกล่าวนำมาสู่ภารกิจไล่ล่าคนร้ายชนิดพลิกแผ่นดินหาของตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ร่วมกับ กก.สส.น.1 แต่ไร้วี่แววรถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ สีดำ ตามคำให้การของพยาน
ทีมสืบสวนต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ ด้วยการตรวจสอบภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งไว้ในละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุทุกซอกทุกมุมมาตรวจอย่างละเอียดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อหารถยนต์ต้องสงสัยตามคำให้การของพยาน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ปรากฏภาพรถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ สีดำ ขับผ่านบริเวณดังกล่าวแต่อย่างใด
แต่ความพยายามของตำรวจไม่ได้ริบหรี่เสียทีเดียว เมื่อภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกเทียนร่วมมิตร ปรากฏภาพรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ขับไล่ตามรถกระบะมิตซูบิชิ ของ น.อ.วุฒิชัย ในระยะกระชั้นชิด ในห้วงเวลาเดียวกันกับที่ น.อ.วุฒิชัย ถูกยิง
และเหมือนโชคช่วย เมื่อการตรวจสอบพบว่า รถยนต์อัลพาร์ดคันนี้ถูกนำมาจอดไว้ที่ใต้อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยนาทอง โดยมีผู้ครอบครองคือ ร.ต.อ.เจษฎา เจตภรณ์ รองสว.สส.สน.ห้วยขวาง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 (ตำแหน่งในขณะนั้น) จึงใช้อำนาจทางวินัยเรียกตัว ร.ต.อ.เจษฎา มาสอบสวน แต่ ร.ต.อ.เจษฎาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ น.อ.วุฒิชัย แต่ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับรถโตโยต้า อัลพาร์ด ผ่านละแวกที่เกิดเหตุจริง
แม้ ร.ต.อ.เจษฎา จะยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ น.อ.วุฒิชัย แต่ก็ดิ้นไม่หลุด เมื่อผู้ชำนาญด้านอาวุธปืนและเครื่องกระสุน พร้อมด้วยผู้ชำนาญงานเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพบคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ที่บริเวณกระจกมองข้างด้านขวาของรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด คันดังกล่าว
อีกทั้งระหว่างการตรวจพิสูจน์คราบเขม่าดินปืนดังกล่าว พ.ต.ท.ธีรนันท์ นคินทร์พงษ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ2) ซึ่งรับหน้าที่ในการตรวจพิสูจน์คราบเขม่าดินปืนครั้งดังกล่าว จำได้ว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2553 ได้ตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน คดีที่นายมณเฑียร จิตตระกูล คนขับรถแท็กซี่ได้บาดเจ็บ โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.วังทองหลาง คดีนี้คนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงใส่ผู้เสียหาย โดยปลอกกระสุนตกอยู่บนฝากระโปรงรถแท็กซี่ ขณะที่ผู้เสียหายจำได้ชัดเจนว่าคนร้ายใช้รถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด เป็นพาหนะขณะลงมือยิงเหยื่อ และสามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ข้อมูลดังกล่าวถูกส่งมอบให้ชุดคลี่คลายคดียิง น.อ.วุฒิชัย กองทัพเรือ เพื่อเป็นเบาะแสในการแสวงหาหลักฐานอื่นๆ ประกอบสำนวนคดี และต่อมาพนักงานสอบสวนก็เชิญตัวนายมณเฑียร มาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อดูตัว ร.ต.อ.เจษฎา ซึ่งทันทีที่เห็นหน้าผู้เสียหายรายนี้ยืนยันโดยไม่ลังเลว่า ร.ต.อ.เจษฎา คือมือปืนที่ลั่นไก!!
คำยืนยันของนายมณเฑียร ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ชุดคลี่คลายคดียิง น.อ.วุฒิชัย ปักใจเชื่อว่า มือปืนที่สังหารนายทหารเรือรายนี้คือ ร.ต.อ.เจษฎา เช่นกัน เนื่องจากปลอกกระสุนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุทั้งสองเหตุการณ์ เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วพบว่ายิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน
ส่วนกรณีที่มีพยานยืนยันว่า คนร้ายที่ลงมือยิง น.อ.วุฒิชัย ใช้รถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ เป็นพาหนะในการก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานซึ่งอยู่ในความควบคุมของ พล.ต.ท.จรัมพร ได้อาศัยเทคโนโลยีภาพถ่าย 3D มาช่วยไขข้อสงสัย โดยการจำลองเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุตามแนววิถีกระสุน แล้วใช้กล้อง 3D Laser scanning ถ่ายภาพเพื่อจำลองเหตุการณ์ ทำให้เห็นมุมภาพแบบ 360 องศา
ครั้งแรกได้ใช้รถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ ตามคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ จอดเทียบเข้ากับรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า คันที่ น.อ.วุฒิชัยใช้เป็นพาหนะ แล้วกำหนดตำแหน่งมือปืนให้อยู่ที่เบาะนั่งคนขับรถโฟล์กสวาเก้น ปรากฏว่าแนววิถีกระสุนที่ได้ ไม่สอดคล้องกับแนววิถีกระสุนในเหตุการณ์จริง โดยวิถีกระสุนที่ได้จากการจำลองเหตุการณ์พบว่า หากคนร้ายใช้รถยนต์โฟล์กสวาเก้น รุ่นกอล์ฟ ก่อเหตุ วิถีกระสุนจะต่ำกว่าที่ปรากฏ
ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้จำลองเหตุการณ์ขึ้นใหม่ คราวนี้ได้นำรถยนต์โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด ซึ่งเป็นรถยนต์ของ ร.ต.อ.เจษฎา มาจอดเทียบกับรถกระบะของ น.อ.วุฒิชัย แทน แล้วใช้กล้อง 3D Laser scanning ถ่ายภาพ เช่นเดียวกับการจำลองเหตุการณ์ในครั้งแรก ปรากฏว่า แนววิถีกระสุนที่ได้สอดคล้องกับแนววิถีกระสุนในเหตุการณ์จริง
อีกทั้งเมื่อเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน นำรถแท็กซี่ของนายมณเฑียร ซึ่งถูกคนร้ายที่ใช้รถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดเป็นพาหนะ ลั่นกระสุนปืนใส่ มาจอดเทียบกับรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดของ ร.ต.อ.เจษฎา แล้วใช้กล้อง 3D Laser scanning ถ่ายภาพจำลองเหตุการณ์ซ้ำ พบว่า แนววิถีกระสุนก็สอดคล้องกันอีก
ภาพถ่ายที่บันทึกด้วยเทคโนโลยี 3D จากการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่เมื่อนำไปประกอบกับพยานหลักฐานอื่นที่ได้มาจากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ทำให้ศาลเชื่อว่า ร.ต.อ.เจษฎา กระทำความผิดจริง จึงได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2555 ให้จำคุก ร.ต.อ.เจษฎา เป็นเวลา 10 ปี ในคดีพยายามฆ่านายมณเฑียร ส่วนคดีฆ่า น.อ.วุฒิชัย อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
...............
(หมายเหตุ : ถอดรหัส..ล่ามือยิง น.อ.วุฒิชัย บุญญฤทธิ์ : คลี่ปมปริศนา CSI Thailand โดยทีมข่าวรายงานพิเศษ)