ปริศนา 2 ศพต่างชาติบนเกาะพีพี | คมชัดลึก

 เมื่อแสงสีและเสียงดนตรีบนเกาะพีพียามราตรีสิ้นสุดลง จิลล์ ชรีสโตน กลับมาพักผ่อนที่ลาลีน่า เกสต์เฮ้าส์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงเธอเริ่มมีอาการอาเจียน อาจเป็นเพราะเธอดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปจำนวนมาก แต่ผิดแปลกที่อาเจียนได้ไม่หยุดหย่อน จนแฟนหนุ่มต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะพีพีอย่างเร่งด่วนในรุ่งเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม ในสภาพเป็นลมหมดสติ มีอาการหายใจตื้นๆ แต่หัวใจกลับเต้นแรงผิดปกติ ริมฝีปากเริ่มเป็นสีเขียว เช่นเดียวกับปลายมือและปลายเท้า เจ้าหน้าที่ต้องรีบกู้ชีพด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจแอมบูแบ็ก ใส่ท่อหายใจ และให้น้ำเกลือ แต่ก็ยื้อชีวิตได้เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็สิ้นใจ

 เสียงโจษจันและวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการตายอย่างมีปริศนาของนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติทั่วเกาะพีพียังไม่ทันจางหาย ประมาณ 3 ทุ่มครึ่งวันเดียวกันจูลี่ มิเชล ซึ่งพักแรมอยู่ที่เดียวกันก็กลายเป็นคนไข้ฉุกเฉินของโรงพยาบาลเกาะพีพี ด้วยสภาพอาการป่วยไม่ต่างกัน เนื่องจากมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงนับร้อยครั้ง แต่โรงพยาบาลเกาะพีพีเคยมีบทเรียนลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว จึงเตรียมส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลภูเก็ต ทว่ายังไม่ทันจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็เสียชีวิตตอนตีหนึ่งครึ่งของวันที่ 4 พฤษภาคมนั่นเอง

 เบาะแสเพียงเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่สาเหตุการเสียชีวิตของ 2 สาวจากต่างแดน เริ่มจากคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดว่า คืนก่อนที่จะเสียชีวิตทั้งสองได้ไปเที่ยวตามผับและบาร์หลายแห่ง ที่เปิดให้บริการบนเกาะพีพี ก่อนจะกลับเข้าห้องพัก พอวันรุ่งขึ้นก็มีอาการไม่สบายและอาเจียนอย่างรุนแรง จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของจูลี่ มิเชล มีอาการลักษณะเดียวกัน ถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

 "คนไข้ทั้งสองคนมีอาการในลักษณะเดียวกัน คือ ขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการช็อก ขณะนำส่งโรงพยาบาลคนไข้มีความดันต่ำมากแพทย์จึงให้น้ำเกลือ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้" นพ.บัญชา ค้าของ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ บ่งชี้สาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งได้รับรายงานการวินิจฉัยเบื้องต้นจากโรงพยาบาลเกาะพีพี

 หลังจากนั้นร่างไร้วิญญาณของสองสาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แต่ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์ต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ท่ามกลางปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ จึงมีข่าวลือสะพัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าถูกฆาตกรรม อาหารและเครื่องดื่มเป็นพิษ เจอสารไซยาไนด์ตกค้างในกระเพาะ ตลอดจนข่าวลือว่าพวกเธอไปลิ้มลองยาเสพติด สูตรเด็ดพื้นบ้านที่มีส่วนผสมของใบกระท่อม น้ำอัดลม ยากันยุง ฯลฯ ที่เรียกว่า "4คูณ100" จนเกินขนาด  

 กระทั่ง พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ออกมาแถลงผลการตรวจชันสูตรศพอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อสยบข่าวลือการถูกฆาตกรรม !

 "คดีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 2 รายที่เกาะพีพี คือ น.ส.จิลล์ เซนต์ ออนจี วัย 27 ปี ชาวอเมริกัน และ น.ส.จูเลีย มิเชลล์ เบิร์กไฮม์ อายุ 22 ปี ชาวนอร์เวย์ ได้รับทราบผลการชันสูตรอย่างไม่เป็นทางการจากสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วทั้ง 2 ราย โดยรายแรกที่เป็นชาวอเมริกันตรวจพบเชื้อบางอย่างในกระแสโลหิต เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากอาหารที่ผู้ตายกินเข้าไป แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นอาหารทะเลหรือไม่"

 "ส่วนรายที่เป็นชาวนอร์เวย์ก็พบเชื้อในกระแสโลหิตเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นสารชนิดเดียวกันหรือไม่ จะต้องเก็บตัวอย่างเลือดทั้งสองคนไปทำการการตรวจสอบในห้องแล็บของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจอีกครั้งว่า เป็นสารชนิดใดและอยู่ในอาหารประเภทใด แต่ยืนยันว่าการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ไม่ใช่เป็นการฆาตกรรมอย่างแน่นอน" พล.ต.ต.พศินระบุ

 จังหวะเดียวกันนี้ นพ.บัญชายังมั่นใจว่าร้านอาหารบนเกาะพีพีกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สะอาดถูกเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข คงเป็นไปไม่ได้ที่ชาวต่างชาติ 2 รายนี้ จะเสียชีวิตจากอาหารเป็นพิษ เพราะอาการเบื้องต้นของผู้ตายไม่มีอาการท้องเสีย อย่างไรก็ตามมีการเก็บตัวอย่างเลือดและน้ำจากกระเพาะอาหารของผู้ตาย ส่งให้สำนักระบาดวิทยาตรวจสอบอีกครั้ง  
 ปริศนาการเสียชีวิตของ 2 สาวต่างชาติ...อาหาร เครื่องดื่ม ยาเสพติด ฆาตกรรม ล้วนเป็น "ปม" ที่รอการคลี่คลาย ?!!

 สิทธิชัย สิขวัตร