ตร.โคราชเร่งล่าเกย์ตุ๋นทอง200บาท | คมชัดลึก

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 55  ความคืบหน้ากรณีนายสหชาติ เกษมทาง อายุ 25 ปี ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี คนร้ายหลอกซื้อทองคำจากร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าดังกลางเมืองนครราชสีมา น้ำหนักรวม 200 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท แล้วจ่ายเช็คเด้ง เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาได้ออกหมายจับแล้วนั้น

          ล่าสุด  พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งการให้ พ.ต.ท.ชมเพลิน ธิวงศ์ สารวัตรงานสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา นำกำลังชุดสายสืบลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดต่างตามแนวรอยต่อตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสืบหาข่าวความเคลื่อนไหวของคนร้าย เนื่องจากมีรายงานว่า นายสหชาติ ติดการพนัน และทุกครั้งหลังก่อเหตุจะหลบไปกบดานตามบ่อนต่างๆ เขตแนวชายแดน

          พ.ต.อ.พงษ์เดช กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสายสืบ สภ.เมืองนครราชสีมา จัดกำลังออกสืบหาข่าวตามจังหวัดแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น พร้อมกันนี้ยังได้มีการประสานไปยังทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อกระจายหมายจับและรูปของคนร้ายไปทั่วทุกด่าน เพื่อให้ช่วยสังเกตและแจ้งข่าวทันทีที่พบผู้ต้องสงสัยหรือคาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย ซึ่งหลังจากที่คนร้ายก่อเหตุก็ยังไม่มีรายงานว่าพบคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศทำให้เชื่อว่าคนร้ายรายนี้ยังวนเวียนและหนีกบดานอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ทางชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวยังพยายามที่จะแกะรอยเส้นทางการเงินและบันทึกการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือขบวนการใดบ้างเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการติดตามหาตัวอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะได้ตัวคนร้ายได้เร็วๆ นี้ 

          ทางด้าน พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวถือเป็นการฉ้อโกงที่ทำให้ผู้เสียหายเสียทรัพย์เป็นจำนวนมากและมีวิธีการที่แนบเนียน  ซึ่งตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยพุ่งเป้าไปยังจุดผ่านแดนต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะหลบหนีออกไปนอกประเทศ ทราบว่าล่าสุดได้มีการกระจายหมายจับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองและจุดผ่านแดนต่างๆ แนวรอยต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีทางกฏหมายได้อย่างแน่นอน

          "ขอฝากเตือนไปยังร้านทองและสถานประกอบการต่างๆ ที่จำเป็นจะต้องทำธุรกรรมทางการเงินว่า แนวทางป้องกันที่ดีที่สุดของการซื้อขายก็คือ ควรจะซื้อขายด้วยเงินสด หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องทำสัญญาซื้อหรือการใช้เช็ค ก็ควรที่จะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัด ทางที่ดีควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อไม่ให้ต้องตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอย่างเช่นเหตุการณ์นี้"