
ไม่มีผล!'ผู้การแต้ม'ลาออกยังโดนสอบ
ส่งต้นสังกัดพิจารณาโทษวินัย 3 ตร.หลังป.ป.ช.ชี้มูล "ผู้การแต้ม" ลาออกไม่มีผลกับการพิจารณา เหตุลาออกหลังป.ป.ช.มีคำสั่งแล้ว ก.ตร.จ่อเปิดสบ10เสนอชื่อจรัมพรนั่งเก้าอี้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 20 ก.ย. จากกรณีที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ จเรตำรวจสบ7 แถลงลาออกหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดพล.ต.ต.วิชัย พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ รองผกก.ปป.สน.โคกคราม และ ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ โกษยานันท์ รองสว.สส.สน.พญาไท (ตำแหน่งปัจจุบัน) มีมูลความผิดทางวินัย ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม. 149และ157
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว จะส่งเรื่องมายังต้นสังกัดเพื่อให้ดำเนินการทางวินัย โดยสำนวนของพล.ต.ต.วิชัยจะส่งไปยังสำนักงานจเรตำรวจ ส่วน พ.ต.ท.ศุภกฤช และร.ต.ท.ทวีศักดิ์ จะส่งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่ละกองบัญชาการจะให้คณะกรรมการกลั่นกรองการลงโทษทางวินัย ซึ่งมีรองผบช.อาวุโสสูงสุดเป็นประธานพิจารณา และรายงานไปยังป.ป.ช.ภายใน 30 วัน สำหรับกรณีของพล.ต.ต.วิชัยลาออกหลังจาก ป.ป.ช. มีมติชี้มูล ทางคณะกรรมการกลั่นกรองก็ยังสามารถพิจารณาลงโทษทางวินัยได้ และส่งผลการลงโทษทางวินัยมายังตร. และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือก.ตร. รับทราบ
สำหรับการลาออกของพล.ต.ต.วิชัย ซึ่งเป็นระดับนายพลต้องให้ ผบ.ตร. รับทราบและพิจารณาอนุมัติตามการร้องขอลาออกหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ พล.ต.ต.วิชัยก็ยังต้องทำงานปกติ จนกว่า คำสั่งลาออกจะมีผลหรือมีคำสั่งทางวินัย
ก.ตร.จ่อเปิดสบ10เสนอชื่อ“จรัมพร”นั่งเก้าอี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เวลา 10.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 13/2555 โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ เรื่องการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) (ด้านสืบสวน) ซึ่งอนุก.ตร.ได้มีมติเห็นชอบการพิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนวาระอื่นๆ ที่น่าสนใจมีเรื่องที่ค้างการพิจารณา ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับสำนักงานก.ตร. การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับ กมค. การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับจต. การปรับโครงสร้างและกำหนดตำแหน่งให้กับ ทพ.สกพ. และหารือปัญหาข้อกฎหมายกรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตำรวจ
ด้านพล.ต.อ.เพียวพันธ์ ดามาพงษ์ ผบ.ตร. กล่าวถึงการเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่ว่า ตนเห็นว่าการเปิดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ขึ้นใหม่ เป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากต้องการให้แนวทางการสืบสวนได้ใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์เข้าไปพิสูจน์คดีต่างๆ ซึ่งเรามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคนมีความสามารถด้านนี้มาก และเชื่อว่าถ้าเปิดโอกาสให้เป็นหัวหน้าใหญ่ตั้งโรงเรียนรับผิดชอบงานด้านนี้ โดยใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ การทำคดีต่อไปจะไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์หรือต่อต้านว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรู้สึกในการสอบสวนคดี เพราะหลักฐานที่พิสูจน์ได้ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ใครก็ไม่สามารถมาโต้แย้งผลได้ และที่ผ่านมาเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ก็ช่วยในการสืบสวนได้หลายคดี ทั้งนี้ ไม่มั่นใจว่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้ทันในวาระนี้หรือไม่ หากไม่ทันก็เชื่อว่าพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผบ.ตร.แทน จะเข้ามาดำเนินการต่อ เราต้องมองประโยชน์ส่วนรวมก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) (ด้านสืบสวน) หากที่ประชุมก.ตร.มีมติเห็นชอบแล้ว ก็จะนำเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมก.ต.ช.ต่อไป โดยหลังจากได้รับความความเห็นชอบจากที่ประชุมก.ต.ช.ให้เปิดตำแหน่งใหม่แล้ว คาดว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. มาดำรงตำแหน่งดังกล่าว