ข่าว

บุกรัง'H&M'ที่สตอกโฮล์ม

บุกรัง'H&M'ที่สตอกโฮล์ม

16 ก.ย. 2555

แฟชั่นวันอาทิตย์ : บุกรัง 'เอช แอนด์ เอ็ม (H&M)' ที่สตอกโฮล์ม : โดย...มะนาวหวาน

                 สำหรับชาวแฟชั่นนิสต้าและบุคคลในแวดวงแฟชั่น ถ้าให้เอื้อนเอ่ยถึงเสื้อผ้าสักแบรนด์ที่ไม่แพงมากและครอบคลุมทั้งชายและหญิง มีให้เลือกหลากหลายแม้กระทั่งเครื่องประดับสวยๆ หนึ่งแบรนด์ที่นึกถึงต้องมี "เอชแอนด์เอ็ม" (H&M) หรือ “เฮนเนส แอนด์ มอริตซ์" (Hennes & Maurit) ซึ่งก่อนหน้านี้ใครเดินทางไปต่างประเทศเป็นต้องเดินหาร้านนี้ช็อปปิ้งติดไม้ติดมือกลับมาเสมอ แต่คราวนี้ไม่ต้องไปไกล ด้วยเอชแอนด์เอ็มกำลังจะเปิดแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกในเมืองไทย ที่สยามพารากอน บนพื้นที่ร่วม 3,300 ตารางเมตร ในวันที่ 29 กันยายนนี้ 

                 และก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทีมเอชแอนด์เอ็มกริ๊งกร๊างมาชวนให้ไปบุกถิ่นเมืองแม่ของแบรนด์ ที่กรุงสตอกโฮล์ม  ประเทศสวีเดน เราเริ่มบุกรังของแบรนด์เอชแอนด์เอ็มกันตั้งแต่เช้าของอีกวันที่มาถึง ด้วยการพูดคุยกับ คริสตินา สเตนเวนเกิล หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ เธอเปิดฉากเล่าที่มาที่ไปของแบรนด์ให้ฟังว่า แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพทั้งในเรื่องของสินค้าและราคา โดยมีร้านค้าถึง 2,600 ร้านทั่วโลก แล้วก็มีพนักงานในสังกัดของบริษัทกว่า 9 หมื่นคน และจะใช้เพื่อการค้าเท่านั้น ทางบริษัทยังเน้นคืนสังคมในทุกรูปแบบ อย่างปีที่ผ่านมา บริษัทเสียภาษีไปกว่า 500 ล้านบาท และยังตั้งเป้าว่า ในปี 2012 นี้ เขาจะเพิ่มร้านอีก 275 ร้าน โดยหลักๆ ที่สหรัฐอเมริกา จีน และอังกฤษ

                 "นอกจากสิ่งที่กล่าวข้างต้น ที่นำมาซึ่งความสำเร็จของ เอช เอชแอนด์เอ็ม แล้ว องค์กรยังใส่ใจในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ในทุกขั้นตอนของการทำงานรวมถึงการคัดสรรผู้ร่วมธุรกิจที่มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจและมีแนวคิดแบบเดียวกัน โดยเอชแอนด์เอ็มมีบุคลากรที่รักและเชื่อมั่นในวัฒนธรรมองค์กร และร่วมทำงานกันเป็นทีมเวิร์กเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดีแก่ลูกค้า" เธอเล่าให้เราฟังอย่างตั้งใจ 

                 ต่อจากนั้นยังถือเป็นโอกาสสำคัญที่ได้พบกัน แอน-โซฟี่ โจฮันสัน หัวหน้าแผนกดีไซน์ เธอเล่าให้ฟังว่า มีทีมดีไซเนอร์ร่วม 200 คน ในการสร้างสรรค์ไอเดียแฟชั่นและผลงานดีไซน์โดยคำนึงถึงคอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์ (Fashion and quality at the best price) เป็นสำคัญ ทีมดีไซเนอร์ คนทำแพทเทิร์นและบายเออร์จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการออกแบบและผลิตคอลเลกชั่นแต่ละครั้ง แรงบันดาลใจในการนำเสนอคอลเลกชั่นได้มาจากการเดินทาง เพื่อหาไอเดียสร้างสรรค์รอบๆ ตัว ทั้งจากงานแฟร์ด้านศิลปะ ดนตรี ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งอาหารการกิน การเดินทางต่างเมือง พบปะผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรมและสไตล์ประจำท้องถิ่นนั้นๆ สามารถนำมาสร้างสรรค์ชิ้นงานแฟชั่นในรูปแบบใหม่ๆ ได้เสมอ 

                 "การทำคอลเลกชั่นเต็มรูปแบบนั้น ต้องเตรียมการล่วงหน้าเป็นเวลานาน ปกติทีมดีไซเนอร์จะทำงานแฟชั่น 3 ซีซั่นในเวลาเดียวกัน  โดย 1 ปีล่วงหน้าทำงานเรื่องเทรนด์ สีสัน การเลือกใช้ผ้ารวมถึงคอนเซ็ปต์และภาพรวมของคอลเลกชั่น ประมาณ 1-6 เดือนล่วงหน้า เน้นเรื่องการเตรียมคอลเลกชั่น รวมถึงการจัดหาวัสดุ และการทำงานในซีซั่นเพื่อเพิ่มเติมดีไซน์และเทรนด์ล่าสุดที่อยู่ในกระแสของซีซั่นนั้นๆ หรือการเพิ่มเติมชิ้นงานที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า สิ่งนี้ทำให้สินค้าแฟชั่นของ เอชแอนด์เอ็ม มีความหลากหลายและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากวัย หลากรสนิยม และหลากสไตล์ได้อย่างดี แม้ว่า เอชแอนด์เอ็ม จะมีสาขาทั่วโลกหลายพันสาขา แต่ละสาขาจะยังคงรักษาตัวตนและเอกลักษณ์ของ เอชแอนด์เอ็ม ไว้อย่างเด่นชัด สินค้าแฟชั่นของ เอชแอนด์เอ็ม ที่วางจำหน่ายที่สโตร์ ไม่ว่าในยุโรป อเมริกาหรือเอเชีย ลูกค้าทั่วโลกก็จะมีโอกาสได้ช็อปปิ้งสินค้าในคอลเลกชั่นและคอนเซ็ปต์เดียวกัน เพียงแต่จะมีการเลือกสรรสินค้าตามความเหมาะสมทั้งเรื่องภูมิอากาศ วัฒนธรรม และธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศนั้นๆ" 

                 ก่อนที่เธอจะจากไป เรายังอยากรู้ว่า เทรนด์ในคอลเลกชั่นต่อไปเป็นอย่างไร เธอยิ้มก่อนจะเอ่ยปากว่า "ฤดูใบไม้ผลินี้สีสันก็ยังมาแต่ก็ไม่มากนัก ในขณะที่ลายพิมพ์จะมาแรงมากขึ้น" นั่นละคือคำตอบของนักออกแบบตัวแม่ของแบรนด์เอชแอนด์เอ็มเขาละ 

                 เสร็จสรรพเขาพาเราไปดูการทำงานของทีมดีไซน์ที่ห้องไวท์รูม ซึ่งปกติคนภายนอกไม่มีโอกาสได้ย่างกายเข้าไปแน่นอน ยิ่งมีกล้องถ่ายรูปอยู่ในมือนะเหรอ...ฝันเถอะค่ะ..แต่เราหน้าแปลกและกล้องถ่ายรูปในมือก็ได้เข้าไปลั่นชัตเตอร์มาแล้ว โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นการเตรียมงานในซีซั่นต่อๆ ไป พร้อมๆ กับมีตัวอย่างของผ้าของวัสดุต่างๆ เพื่อให้ทีมดีไซน์ได้นำมาสร้างแรงบันดาลใจ แม้กระทั่งหนังสือแฟชั่นอีกมากมายก่ายกอง รวมไปถึงห้องสร้างแบบ ห้องดีไซน์ สมกับมืออาชีพที่มีสาขาเปิดทั่วโลก และมีสินค้าด้านแฟชั่นให้เลือกสรรครบหมดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและทุกเพศทุกวัย 

                 ต่อกันคราวนี้เขาพาเราไปชมร้านใหม่ในกลางกรุงสตอกโฮล์ม ที่ขอบอกว่า ไม่ว่าจะเดินไปในซอกซอยไหนร้านเอชแอนด์เอ็มมีกระจายให้เขาไปช็อปปิ้งกันอย่างเต็มที่ โดยผู้จัดการร้านบอกว่า ร้านที่จะเปิดนี้มีสินค้าครบทุกไลน์ และจะมีการเติมสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทุกวัน และในทุกสองสัปดาห์เขาก็เปลี่ยนวินโดว์ใหม่ตลอด ซึ่งถือเป็นการตลาดที่สาวกของแบรนด์ได้ซื้อกันอย่างสนุกเพลิดเพลินละ ต่อจากนั้นเราเขาไปที่ออฟฟิศเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาเปิดใจคุยกับเราในเรื่องของงานเพื่อสังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทเขาเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะวิทยากรที่เราพบปะนั้น ต่างเน้นย้ำและเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า เอชแอนด์เอ็มไม่เพียงแต่สนใจยอดขายเท่านั้น แต่เขายังคำนึงถึงที่มาของการผลิต ไม่ว่าเป็นผ้าออร์แกนิกที่นำมาใช้ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงแรงงานต้องมีคุณภาพ ต้องไม่ใช่แรงงานเด็ก และมีสวัดดิภาพและค่าตอบแทนที่เหมาะสม 

                 ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะบอกเราว่าทุกบาททุกสตางค์ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าซื้อสินค้าของเขานั่นคุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากจะได้เสื้อผ้าสวยเก๋อินเทรนด์แล้ว ยังมีส่วนในร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมและโลกกลมๆ ใบนี้ด้วยนะคะ...

                 ยังค่ะ เมื่อพามาทั้งทีจะเพียงเท่านี้ก็ไม่ได้ ต้องรู้จักเอชเแอนด์เอ็มกันในทุกแง่ทุกมุม สุดท้ายเขาพาเราไปดูโชว์รูมของแบรนด์ที่จะนำสินค้าใหม่ๆ มาโชว์เพื่อให้บรรดาแฟชั่นนิสต้าและสื่อมวลชนได้ชมก่อนใคร แล้วจากนั้นประมาณ 8 สัปดาห์ สินค้าเหล่านี้ก็จะไปอยู่ในร้านให้ช็อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ โดยมี มากาเร็ตต้า แวน เดนบอช ที่ปรึกษาฝ่ายสร้างสรรค์ รอต้อนรับและบอกเล่ารายละเอียดว่า ความโดดเด่นของแบรนด์คือ การนำเสนอแฟชั่นและเครื่องแต่งกายที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม และเพื่อเพิ่มคุณค่าให้แก่สินค้าแฟชั่นของ เอชแอนด์เอ็ม อีกทั้งสร้างความตื่นเต้นและมอบสิ่งที่เกินความคาดหมายให้แก่กลุ่มลูกค้า ยังทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ชื่อดังและบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีสไตล์โดดเด่นเป็นที่จับตามองเพื่อสร้างสรรค์งานดีไซน์พิเศษใน Collaboration Project โดยเริ่มโปรเจกท์นี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2004 กับกูรูแฟชั่นระดับโลกอย่าง คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ตามมาด้วยอีกหลากหลายโปรเจกท์ ไม่ว่าจะเป็น จิมมี่ ชู, เวอร์ซาเช่, กอมม์ เดส การ์ซงส์, ลองแวง, มาร์นี่, มาดอนน่า หรืองานล่าสุด แอนนา เดลโล รุสโซ ในช่วงออทั่มปีนี้ 

 

                 เอาเป็นว่า แฟชั่นชั่นนิสต้าชาวไทยได้กรี๊ดละค่ะ...

 

 

--------------------

(แฟชั่นวันอาทิตย์ : บุกรัง 'เอช แอนด์ เอ็ม (H&M)' ที่สตอกโฮล์ม : โดย...มะนาวหวาน)