
'ปู'นำลงดูน้ำท่วมกรุงเก่า-สุโขทัย
'ปู'ลงพท.กรุงเก่า-สุโขทัย ปัดตอบ'สนั่น'ฉุนป้องแต่กทม. ด้านผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบชุดธารน้ำใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยใน 2 อำเภอ 'สุโขทัย'อุดรอยรั่วพลังกั้นน้ำยมสำเร็จ
13 ก.ย.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ อาทิ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปลอดประสพ สุรัสวดี และสุรนันท์ เวชชาชีวะ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เมืองทองธานี เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสุโขทัย
โดยนายกรัฐมนตรี จะตรวจเยี่ยมจุดน้ำลอดใต้พนังกั้นน้ำ และมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.สนั่น ขจรประสานต์ แสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล โดย กล่าวเพียงว่า กำลังลงไปติดตามสถานการณ์ และขอดูข้อมูลในพื้นที่จริง
สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรี นั้น เวลาประมาณ 14.00 น.จึงออกเดินทางจากค่ายจิรประวัติ ไปจังหวัดสุโขทัย ถึงสนามบิน ฮ.โรงเรียนสุโขทัยพิทยาคม เวลาประมาณ 14.30 น.ก่อนไปวัดราชธานี ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุโขทัย โดยนายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ จะเข้าตรวจบริเวณพนังกั้นน้ำที่มีปัญหาพร้อมมอบถุงยังชีพ
เวลาประมาณ 17.00 น. คณะนายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางต่อไปท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 พิษณุโลก ไปถึงโรงแรมอมรินทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเวลา 18.00 น.นายกรัฐมนตรี จะเข้าเป็นประธานการประชุมบรรยายสรุปคดีเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวก่อนรับประทานอาหารเย็นและพักค้างแรมที่พิษณุโลก
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะ กำหนดนั่งเฮลิคอปเตอร์อีก 1 ลำ เดินทางมาลงกองบิน 46 ในเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกันเพื่อเข้าร่วมประชุมรับฟังการบรรยายสรุปคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวด้วย
จากนั้นในเช้าวันศุกร์ที่ 14 ก.ย.55 จะออกเดินทางจากโรงแรมอมรินทร์ลากูน ไปยังโรงสี ส.ธนวัฒน์พืชผล ต.ปรักแรด อ.บางระกา เวลา 9.00 น.ด้วยรถยนต์ เพื่อติดตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 55/56 ทั้งกระบวนการรับจำนำ ตรวจสิ่งเจือปน ชั่งน้ำหนัก ออกใบประทวนสินค้าและตรวจโกดังกลาง พีเค ไรซ์ จนถึงเวลาประมาณ 10.30 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้าตรวจเยี่ยมโกดังเก็บข้าว ณ โกดังกลาง PK Rice อ.บางระกำ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปร้านอาหารฟ้าไทย ฟาร์ม รับประทานอาหารเที่ยง ก่อนเดินทางไปท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก ในเวลาบ่ายโมงเพื่อนั่งเครื่องบินกองทัพบก เดินทางไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ดูงานไฟป่าพรุควนเคร็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำหนดการ "นายกฯปู-ยิ่งลักษณ์" ตรวจพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือครั้งนี้ ไม่ปรากฏว่า มีกำหนดการไปดู "บางระกำโมเดล" หรือดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ชลประทานพิษณุโลก ไม่ว่าคลองกล่ำ คลองเกตุ หรือบึงขี้แล้ง อ.บางระกำ แม้แต่แห่งเดียว โดยเน้นไปตรวจการรับจำนำข้าว ที่โกดังกลาง พีเค ไรซ์ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แทน
''ราชินี''พระราชทานถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยใน 2 อำเภอ
เวลา 09.30 น. นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 8 ตำบลบางหัก อำเภอบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา มอบชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทย แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 1,500 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปที่ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ มอบชุดธารน้ำใจ สภากาชาดไทยแก่ผู้ประสบภัย อีกจำนวน 500 ชุด
ตลาดบ้านแพนกรุงเก่าน้ำทะลักเทศบาลเร่งสร้างสะพานสูบน้ำออก
นายกิตติศักดิ์ ตรารุ่งเรือง นายกเทศมนตรีเมืองเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมกำลังคนงานของเทศบาลสร้างสะพานไม้บนเสนานาวิน ซอยกลาง ซึ่งน้ำท่วมสูงผิวการจราจรสูง 20 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร แลยังท่วมถนนสายอื่นๆอีก 3 สายในเขตเทศบาล ทำให้ประชาชนต้องสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก
นอกจากนั้นยังได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำน้อยจำนวน 1 เครื่อง เพื่อสูบน้ำที่ท่วมถนนริมแม่น้ำออกให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดบ้านแพน ก็เตรียมที่จะสร้างบังเกอร์ป้องกันน้ำแล้ว บางร้านก็นำบังเกอร์เก่าที่เป็นแผ่นเหล็กมาติดตั้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนบางบ้านน้ำก็ท่วมเข้าบ้านไปแล้ว เช่นบ้านของนายทองอยู่ รองเสียงล้ำ อายุ 59 ปี แต่ก็ทำใจเนื่องจากน้ำท่วมเข้ามาในบ้านทุกปี โดยอาศัยติดตามข่าวสารจากโทรทัศน์
นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านแพนอยู่ติดกับแม่น้ำน้อยซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเพียงวันเดียวน้ำท่วมสูงขึ้น 20 ซ.ม. และมีบางจุดที่น้ำทะลักเข้ามาตามท่อระบายน้ำเข้าไปในจุดที่ต่ำที่สุดในเขตเทศบาลทำให้น้ำท่วม จึงเร่งให้ความช่วยเหลือด้วยการสร้างสะพานและสูบน้ำออกบางจุดดังกล่าว ขณะที่นางโชตินุช กู้เกียรติ์โอฬาร อายุ 66 ปี เจ้าของร้านขายทองในตลาด เปิดเผยว่าน้ำท่วมบริเวณซอยเสนานาวินซอยกลางเป็นเส้นแรกทุกปี โดยที่ทางเทศบาลก็แก้ไขไม่ได้ ซึ่งเป็นสัญญานเตือนว่าน้ำมาแล้ว
อุดรอยรั่วพลังกั้นน้ำยมสำเร็จทำระดับน้ำท่วมลดลงเฉลี่ย 50-100 ซม.
นายพิเชษฐ์ ไทยกล้า นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานีนั้นสามารถควบคุมไว้ได้แล้ว โดยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 12 กันยายน สามารถอุดรูรั่วของพนังกั้นน้ำยมที่เกิดรอยแยกได้แล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ระดมเครื่องสูบน้ำสูบน้ำในพื้นที่ออกสู่แม่น้ำยม ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมทั้ง 6 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 50-100 เซนติเมตร บางแห่งเริ่มมองเห็นฟุตบาทแล้ว โดยภาพรวมถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก
ขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำรวมกว่า 70-80 เครื่อง ระดมสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง คาดว่าไม่น่าจะเกิน 2 วันทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม บางชุมชนที่ระดับน้ำลดลงชาวบ้านก็เริ่มทำความสะอาดบ้านเรือนกันบ้างแล้ว เบื้องต้นจำนวนผู้ได้รับความเดือดร้อนมีทั้งหมด 2,000 ครัวเรือน ความเสียหายโดยตรงจากน้ำท่วม เช่น บ้านเรือน รถยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าเสียโอกาสเนื่องจากเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีเป็นพื้นที่เศรษฐกิจคาดว่าน้ำท่วม 4 วันที่ผ่านมาเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
'นายกฯ'เผย2วันน้ำลด-ขอบคุณจนท.ทำงาน24ชม.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะผู้ประสบอุทกภัย และตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ที่วัดราชธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนรับจำนวนมาก โดยนายกฯได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากผู้ว่าฯ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแม่ทัพภาคที่ 3
นายกฯกล่าวตอนหนึ่งกับประชาชนว่า ตนติดตามสถานการณ์การทำงานตลอดเวลา และสั่งการมายัง จ.สุโขทัย ซึ่งนี้หากเป็นช่วงเหตุการณ์ปกติก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และไม่เกินประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพราะน้ำยังไม่ล้นตลิ่ง แต่เป็นเพราะน้ำลอดใต้พนังจนเกิดมวลน้ำขนาดใหญ่จึงทำให้เกิดเหตุขึ้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และใช้เวลาเพียง 3 วัน ซึ่งจากประสบการณ์คราวที่แล้ว และมีระบบซิงเกิ้ลคอมมานต์ที่ให้ทางจังหวัดเป็นศูนย์ส่วนหน้าที่มีผู้ว่าฯและนายอำเภอเป็นหัวหน้าศูนย์ ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนทางเทคนิคเราไม่สามารถฝืนมวลน้ำขนาดใหญ่ได้ เพราะจากการวางบิ๊กแบคก็ต้องเปลี่ยนเป็นหินแกรเบรียล ที่ทำให้การแก้ปัญหามาถูกทางและการดูแลเข้าถึงอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้นายกฯยังได้ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจสถานการณ์และทำงานร่วมกัน และเชื่อว่าขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว และคาดว่าน้ำจะไม่ไหลไปกระทบพื้นที่อื่น และไม่เกิน 2 วันน้ำจะลด จากนั้นนายกฯและคณะได้เดินลุยน้ำที่สูงเสมอเข่าในตลาดเทศบาลเข้าไปดูการซ่อมแนวพนังจุดที่รั่ว พร้อมกับมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน รวมทั้งได้ผัดกระเพราหมูให้กับผู้ประสบภัยได้รับประทาน
นายกฯให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ในส่วนของการเยียวยาจะทำได้รวดเร็วขึ้น และจะไม่รอน้ำลด โดยได้สั่งให้มีการตั้งทีมเพื่อสำรวจความเสียหาย เพื่อการเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
จนท.เร่งเตรียมสถานที่ต้อนรับ 'นายกฯ' ตรวจพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง
ที่บริเวณลานศูนย์อำนวยการควบคุมไฟป่าพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช หน้าศาลหลวงต้นไทร ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนได้เร่งรัดซ่อมแซมถนนเลียบคลองพระราชดำริชะอวด-แพรกเมือง ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่จะเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการดับไฟป่าพรุควนเคร็ง ขณะเดียวกันบริเวณที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เสือไฟจากทั่วประเทศที่ประจำการในพื้นที่ในการควบคุมไฟป่าตลอดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ถูกตกแต่งและติดตั้งเต๊นส์ จัดปะรำบริเวณอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งจัดเตรียมป้ายข้อมูลเกี่ยวกับการดับไฟป่าและพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันเพื่อรอการตรวจเยี่ยมของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.)
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งล่าสุดนั้นนายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่าไฟป่าได้ดับลงอย่างเด็ดขาดทุกจุดมาแล้วหลายวันเนื่องจากฝนได้ตกลงมาบ่อยครั้งหรือเกือบทุกวัน ผู้ที่พยายามลอบเผาไม่สามารถเผาได้อีก ส่วนการดูแลของเจ้าหน้าที่นั้นยังคงมีเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ประมาณ 900 นาย โดยมาจาก 16 สำนักบริหารจากทั่วประเทศแห่งละ 30 นายเว้นสำนัก 5 และ 6 จะมีหน่วยละ 100 นายเฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโงและพร้อมสำหรับข้อมูลที่จะรายงานนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
สำหรับสภาพในพื้นที่ป่าพรุขณะนี้ได้เริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องต้นเสม็ดเริ่มผลิยอดอ่อนออกมาแล้ว ส่วนพื้นที่ที่ไฟใต้ดินได้ไหม้จนต้นเสม็ดล้มนั้นจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าเนื่องจากต้องรอเม็ดของเสม็ดงอกแล้วเจริญเติบโตขึ้นอีกครั้ง ส่วนพืชพื้นล่างนั้นได้เริ่มฟื้นตัวตามลำดับ
อย่างไรก็ตามในการเดินทางมาตรวจพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้นั้นกำหนดการยังคงไม่มีความแน่นอนเนื่องจากข้อมูลทางการข่าวนั้นระบุว่าจะมีกลุ่มผู้เคลื่อนไหวหลายกลุ่มเข้ามาเคลื่อนไหวด้วยการยื่นหนังสือ ชูป้าย แสดงความต้องการของกลุ่มต่างๆ ทำให้ฝ่ายปกครองของจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องเร่งพยายามพูดคุยเพื่อไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันแสดงพลัง ขณะเดียวกันฝ่ายประเมินสถานการณ์นั้นระบุว่ากำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาว่านายกรัฐมนตรีจะรับฟังรายงานสถานณ์ที่ลุ่มน้ำปากพนังจุดหมายแรกแล้วหลังจากนั้นอาจจะใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจป่าพรุอย่างเดียวและไม่ลงจอด หรือลงจอดก็ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หลังจากนั้นจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดกระบี่เป็นเป้าหมายถัดไป