
จราจร...จัดเต็มรับวิกฤติ'ท้องถนน'
จราจร...จัดเต็ม รับวิกฤติ'ท้องถนน' : สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. โดยทัศชยันต์ วาหะรักษ์
"รถติด" ปัญหาโลกแตกทุกหัวเมืองใหญ่ๆ ของโลก โดยเฉพาะ "กรุงเทพมหานคร" มีปัญหารถติดมายาวนาน แม้ว่าจะมีระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดินผุดขึ้นหลายสาย เพื่อบรรเทาแก้ปัญหา แต่ทว่าปัญหารถติดก็ไม่ได้เบาบางลงไป บ้างก็วิพากษ์วิจารณ์ไปว่าสาเหตุที่ทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครเป็นอัมพาตในเวลานี้ เป็นเพราะปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล บ้างก็มองว่าเพราะมีการก่อสร้างที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง บ้างก็ว่าเพราะฝนตก แต่ปฏิเสธไม่ได้ นั่นคือ ความไร้วินัยของผู้ใช้รถใช้ถนนนั้นเอง
พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. มองเห็นปัญหาและทางออกในเรื่องเหล่านี้อย่างไร?!!
- รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯ ต้องเผชิญกับปัญหารถติดอย่างหนักในหลายพื้นที่ มองว่าน่าจะเกิดจากปัจจัยใด
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารถติดอย่างหนักในกรุงเทพมหานครในระยะนี้ เกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องปริมาณรถที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และรถยนต์ยังเป็นที่ต้องการของคนกรุงเทพฯ อย่างมาก ขณะที่ถนนหนทางมีอยู่เท่าเดิมจึงไม่สามารถรองรับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นได้ วันก่อนผมมีโอกาสสนทนากับผู้ว่าการทางพิเศษฯ มีการประเมินกันเล่นๆ ว่า ทุกวันนี้หากนำรถที่คนกรุงเทพฯ มีอยู่ในครอบครองมาจอดเรียงต่อๆ กัน น่าจะมีระยะทางยาวกว่าทางด่วนที่เรามีอยู่ในเวลานี้เป็นกิโลเมตร
ขณะที่การก่อสร้างโครงการระยะยาว ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดรถติด เพราะโครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับปริมณฑลแทบทั้งสิ้น เฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็มีอยู่ถึง 5 จุด คือ ถนนเพชรเกษม จรัญสนิทวงศ์ เจริญกรุง กรุงเทพฯ-นนทบุรี และรัตนาธิเบศร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นถนนสายหลักที่การจราจรคับคั่งอยู่แล้ว เมื่อต้องปิดช่องจราจรบางส่วนเพื่อทำการก่อสร้าง ทำให้ช่องทางจราจรน้อยลง ขณะที่ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ถนนเหล่านี้นับวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดพันกันไปหมด
-ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รถติดอย่างหนักหรือไม่
ผมไม่อยากจะโทษหรอกนะ แต่มันคือความจริง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นฝนตกหนักแทบทุกวัน และตกในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนด้วย ปกติหากฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่ทั้งหมด เราสามารถรับได้ ไม่กระทบการจราจรมากนัก แต่หลายวันที่ผ่านมาฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ถึงร้อยละ 80 ซึ่งเรารับมือไม่ไหว ทำให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก
คุณลองสังเกต 2-3 วันที่ผ่านมา รถบนทางด่วนติดอย่างหนักมันเป็นเพราะอะไรก็เพราะผู้ใช้รถใช้ถนนหนีน้ำจากพื้นราบไปวิ่งบนทางด่วนกัน อีกทั้งบนทางด่วนไม่มีสัญญาณไฟจราจรสามารถวิ่งได้เร็ว แต่มาติดอยู่ตรงทางลง เนื่องจากรถลงไปวิ่งบนพื้นราบได้ช้า ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาจากพื้นราบฝนตกถนนลื่นและบางจุดมีน้ำท่วมขัง
- มีแผนแก้ปัญหาจราจรในภาวะวิกฤติเช่นนี้อย่างไร
ขณะนี้ เราแก้ปัญหาได้เฉพาะหน้านะ ยังไม่สามารถทำได้เต็มระบบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทำโดยระดมกำลังตำรวจจราจรทั้งของ บก.จร. และตำรวจจราจรทุกโรงพัก ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 4,000 คน ช่วยกันอำนวยความสะดวกกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในวันที่ฝนตกชั่วโมงเร่งด่วนจราจรต้องประจำจุดที่มีปัญหาการจราจรทุกพื้นที่เพื่อเร่งระบายรถให้เคลื่อนตัวให้ได้เร็วที่สุด ผมขอยืนยันว่าทุกวันนี้ตำรวจจราจรทุกนายทำงานกันอย่างเต็มที่แทบจะไม่มีเวลาพักกันอยู่แล้ว
ส่วนในระยะยาวอยากให้ชาวกรุงเทพฯ อดทนไปอีกระยะ ให้รอไปจนกว่าระบบการขนส่งระบบราง นั่นคือรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างกันอยู่หลายเส้นทางแล้วเสร็จ มีการคืนพื้นที่จราจร เชื่อว่าสถานการณ์รถติดน่าจะทุเลาลง ที่สำคัญคือเมื่อรถไฟฟ้าเหล่านี้เปิดใช้ประชาชนน่าจะหันไปใช้กันมาก ซึ่งจะทำให้ปริมาณรถยนต์บนท้องถนนหายไปมาก
ลองดูพื้นที่รอบนอกหลังจากวงแหวนรอบนอกเปิดใช้เต็มรูปแบบตอนนี้การจราจรไหลลื่นมาก แต่มามีปัญหาในพื้นที่ชั้นใน เพราะรถนอกเมืองต่างวิ่งเข้าสู่เมืองซึ่งเป็นพื้นที่หนาแน่น ปัญหาจราจรทุกวันนี้กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ชั้นใน เมื่อระบบรถไฟฟ้าที่กำลังสร้างอยู่เปิดใช้รถจากชานเมืองเหล่านี้ก็จะถูกนำไปจอดตามจุดจอดรถชานเมือง โดยเจ้าของรถจะเปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าต่อเข้าเมือง ซึ่งประหยัดและรวดเร็วกว่า ปริมาณรถในพื้นที่ชั้นในจะน้อยลง ปัญหารถติดก็จะค่อยๆ คลี่คลายไป
- ปัญหาจราจรส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ใช้รถใช้ถนนไม่เคารพกฎ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้
แน่นอนครับปัญหาจราจรที่ติดขัดอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เลยเป็นเพราะผู้ใช้รถใช้ถนนไม่เคารพกฎจราจรกัน โดยเฉพาะการจอดรถบนพื้นผิวจราจร เพราะกีดขวางจราจรอย่างรุนแรง ถนนบางสายเมื่อมีการนำรถไปจอดขวางไว้ก็จะทำให้เกิดรถติดทันทีและจะลุกลามเป็นลูกโซ่ จึงอยากขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถใช้ถนนให้เคารพกฎจราจร อย่าเห็นแก่ความสะดวก เพราะหากท่านยิ่งฝ่าฝืนข้อห้ามมากเท่าไหร่ นอกจากท่านจะเสี่ยงได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุแล้ว ท่านจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เดือดร้อนเพราะปัญหาการจราจรด้วย
- นโยบายใบเตือนแทนใบสั่งหลังบังคับใช้ได้ผลมากน้อยแค่ไหน
เราเพิ่งนำมาปฏิบัติจะประเมินผลกันทันทีเมื่อครบระยะ 1 เดือน หลังจากนั้นจะพิจารณากันอีกทีว่าจะใช้ต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้การออกใบเตือนนั้นไม่ได้หมายความว่าทำผิดกฎจราจรในระยะนี้แล้วจะได้รับใบเตือนทั้งหมด เราจะเตือนเฉพาะการกระทำผิดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น ยกตัวอย่างคนจากต่างจังหวัดที่เพิ่งเข้ามากรุงเทพมหานคร อาจไม่คุ้นชินเส้นทางอาจเผลอฝ่าฝืนเครื่องหมายห้ามโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างนี้เข้าข่ายต้องตักเตือนกัน
ส่วนคนที่ใช้รถใช้ถนนอยู่เป็นประจำในกรุงเทพฯ ผมยืนยันได้ครับว่า หากท่านทำผิดกฎจราจรโดยรู้ทั้งรู้ว่าผิดท่านก็ทำอย่างนี้โดนแน่ ตำรวจจับท่านแน่ไม่มีการยกเว้น ออกใบสั่งทันทีโดยไม่ต้องออกใบเตือน การออกใบเตือนหรือใบสั่งเราจะดูเจตนาเป็นหลัก โดยไม่ได้พิจารณาว่าทำผิดข้อหาอะไรแล้วต้องได้ใบเตือนไม่ใช่ใบสั่ง ทางที่ดีที่สุดคือทุกท่านต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพราะนอกจากจะช่วยคลี่คลายปัญหารถติดแล้ว ยังช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินของท่านให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ด้วย
- กรณีแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ข้อหานี้เมื่อบังคับใช้แล้วได้ผลเป็นอย่างไร
หลังจากเป็นข่าวแล้วหลายคนเข้าใจผิดว่าตำรวจทำไมเน้นเอาผิดกับแท็กซี่ ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น แท็กซี่ปฏิเสธรับผู้โดยสารเป็นเพียง 1 ใน 13 ข้อหาการกระทำผิดที่มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ซึ่งเราเอาจริงเอาจังกับผู้กระทำความผิดเท่านั้น ข้อหาอื่นๆ ทั้งในส่วนของพระราชบัญญัติจราจร พระราชบัญญัติขนส่งทางบก กฎกระทรวง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวเนื่องหลายร้อยข้อหา ก็บังคับใช้เช่นเดิม ใครทำผิดก็ถูกจับกุมเหมือนกันไม่ได้ยกเว้น
กรณีแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร เป็นเหตุซึ่งหน้า ตำรวจจะใช้วิจารณญาณในการจับกุม ไม่ได้จับปรับกันแบบหว่านแห เพราะเชื่อว่าแท็กซี่เขาก็เป็นวิชาชีพ ไม่มีใครเขาอยากปฏิเสธผู้โดยสารเพราะมันคือรายได้ มันก็เหมือนกับอาชีพนักข่าวที่ต้องหาข่าวเพราะมันคืองาน
ดังนั้นผมให้ความมั่นใจได้ว่า ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมว่ากันไปตามข้อเท็จจริงสมเหตุสมผล ไม่ใช่ใครชี้ให้จับใคร หรือกล่าวหาใครแล้วเราจับทันที เราจะรับฟังเหตุผล อย่างเช่นผู้โดยสาร 6-7 คน จะยัดกันไป หรือจะบรรทุกของที่เกินน้ำหนักอย่างนี้ แท็กซี่ปฏิเสธจะไปเอาผิดเขาได้อย่างไร เพราะไปไม่ไหวจริงๆ เช่นเดียวกับพิจารณาแล้วว่าหากรับผู้โดยสารขึ้นรถแล้วอันตรายอย่างนี้เขาก็มีสิทธิปฏิเสธ
ผมเชื่อนะแท็กซี่เกินร้อยละ 90 ไม่มีใครอยากปฏิเสธผู้โดยสารหรอก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีพฤติการณ์ไม่พึงประสงค์ เพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย ผมอยากให้แท็กซี่ที่ไม่ต้องการรับผู้โดยสารก็ให้ปิดไฟสีแดงที่ระบุคำว่า "ว่าง" เสีย โดยอาจเขียนด้วยข้อความว่า "งดรับผู้โดยสาร" ให้เป็นจุดสังเกตเพิ่ม ผู้โดยสารจะได้รู้ เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย
........
(หมายเหตุ : จราจร...จัดเต็ม รับวิกฤติ'ท้องถนน' : สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. โดยทัศชยันต์ วาหะรักษ์)