ข่าว

'นกหวีด'เตือนภัยแจ้งเหตุร้ายเพื่อนข้างห้อง

'นกหวีด'เตือนภัยแจ้งเหตุร้ายเพื่อนข้างห้อง

08 ก.ย. 2555

'นกหวีด'เตือนภัย แจ้งเหตุร้าย..เพื่อนข้างห้อง : สารพันตำรวจ โดยทัศชยันต์ วาหะรักษ์

             "ปรี๊ด...ปรี๊ด...ปรี๊ด" เสียงนกหวีดดังถี่ๆ ถูกกำหนดให้เป็นสัญญาณบอกเหตุร้าย ซึ่งผู้พักอาศัยอยู่ในหอพักที่ร่วมโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" รับรู้โดยทั่วกัน และทันทีที่ได้ยินสัญญาณเตือนภัยนี้ ถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนในหอพักจะต้องช่วยกันเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ หรือไม่ก็ต้องรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้นำกำลังเข้าช่วยเหลือระงับเหตุโดยเร็วที่สุด
 
             "นกหวีด" ดังกล่าว กลายเป็นเครื่องมือหนึ่งของโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยรามคำแหงกับตำรวจ 2 โรงพัก คือ สน.หัวหมาก และ สน.อุดมสุข สำนักงานเขตอีก 2 เขต คือ บางกะปิ และประเวศ รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปแสวงหาความร่วมมือจากเจ้าของหอพักต่างๆ ที่รายล้อมอยู่ในละแวกมหาวิทยาลัยรามคำแหง 1 หัวหมาก และ รามคำแหง 2 วิทยาเขตบางนา เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดคดีอาชญากรรมที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินทุกรูปแบบกับนักศึกษาลูกพ่อขุน
 
             โครงการดังกล่าวทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันรวมเวลากว่า 4 ปีแล้ว ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถลดคดีอาชญากรรมที่นักศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหงตกเป็นเหยื่อลงได้ ชนิดที่เห็นกันทันตา
 
             "ที่ผ่านมา แม้หอพักและอพาร์ตเมนต์ต่างๆ จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม มีทั้ง รปภ.และกล้องวงจรปิด แต่คนร้ายก็ยังสามารถก่อเหตุได้ โดยทำทีเข้ามาหาเพื่อน หลังจากนั้นก็เข้าไปเดินตามชั้นต่างๆ ห้องไหนที่เผลอเปิดประตูทิ้งไว้ก็จะฉวยโอกาสเข้าไปลักทรัพย์สิน และหากผู้พักอาศัยเป็นหญิงสาวหน้าตาดีโชคร้ายอาจถูกข่มขืนเป็นของแถมด้วย" เจ้าของหอพักแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 49/1 ให้ข้อมูล
 
             เจ้าของหอพักรายเดิม บอกอีกว่า ก่อนที่จะมีโครงการ "เพื่อนข้างห้องเตือนภัย" ผู้พักอาศัยในหอพักแม้อยู่ห้องติดกันก็ไม่รู้จักกัน ใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ เมื่อเกิดเหตุร้ายก็ไม่สนใจที่จะช่วยเหลือกัน กลายเป็นช่องว่างอย่างหนึ่งที่ทำให้คนร้ายลงมือก่อเหตุได้ง่ายขึ้น แต่หลังจากตำรวจและมหาวิทยาลัยรามคำแหงเข้ามาทำโครงการ โดยเริ่มจากการให้คำแนะนำการจัดระบบรักษาความปลอดภัย นำสติกเกอร์บอกเบอร์โทรศัพท์โรงพักมาติดไว้ทั่วหอพัก และที่สำคัญคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้พักอาศัยในหอพักได้ทำความรู้จักกัน เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้กันและกัน ปรากฏว่า เหตุร้ายที่เคยเกิดไม่ขาดระยะก็ห่างหายไป
 
             พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า  โครงการเพื่อนข้างห้องเตือนภัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ "หอพักติดดาว" ทำต่อเนื่องมาจากโครงการ "เพื่อนบ้านเตือนภัย" ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล หลักการคือ ให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกัน และสร้างจิตสำนึกให้ผู้อาศัยในหอพัก มีความห่วงใยและดูแลช่วยเหลือกัน พร้อมกันนั้นยังให้แต่ละคนแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ เผื่อใช้โทรติดต่อขอความช่วยเหลือกันหากเกิดเหตุร้าย อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการให้ข้อมูลข่าวสารและเฝ้าระวังภัยในหอพัก เพื่อป้องกันปัญหาและภัยอันตรายต่างๆ
 
             "ปัจจุบันเรามีหอพักเข้าร่วมโครงการรวม 224 แห่ง อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.หัวหมาก 149 แห่ง ที่เหลือเป็นของ สน.อุดมสุข หอพักที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะมีคณะกรรมการตรวจสอบมาตรฐานหอพัก ประกอบด้วย ตำรวจ เจ้าหน้าที่เขต เจ้าหน้าที่ พม. และตัวแทนจาก ม.รามฯ เข้าไปตรวจเยี่ยม หากพบว่าหอพักไหนมีนักศึกษารามฯ พักอาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 4 ห้อง ก็จะชวนเจ้าของหอพักเข้าร่วมโครงการ" พ.ต.อ.สรรค์หกิจ ขยายความ
 
             ผกก.สน.หัวหมาก บอกด้วยว่า หลังจากร่วมโครงการแล้ว ตำรวจจะเข้าไปให้คำแนะนำในการจัดระบบรักษาความปลอดภัย นอกเหนือจากที่ทางหอพักมีอยู่แล้ว เช่น แนะนำให้จัดทำสมุดลงบันทึกรายชื่อบุคคลเข้า-ออกอาคาร โดยต้องสอบถามอย่างละเอียดว่า มาหาใคร ที่ห้องไหน และให้แลกบัตรประชาชนไว้ มีการกำหนดเวลาเข้า-ออกอาคารที่ชัดเจน มีการติดป้ายเตือนภัย หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน ที่สำคัญคือหมายเลขโทรศัพท์ของโรงพัก เพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจได้ทันที
 
             "นอกจากเจ้าของหอพักแล้ว เรายังจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้พักอาศัยในการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้พักอาศัยทำความรู้จักกันสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้เขาช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน มีการแจกจ่ายนกหวีดให้ผู้พักอาศัย เพื่อใช้เป่าเป็นสัญญาณในกรณีเกิดเหตุร้าย เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนข้างห้อง" ผกก.สน.หัวหมาก บอก
 
             โครงการดังกล่าวได้เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้พักอาศัยได้มาก เพราะมีทั้งเจ้าของหอพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคาร มีเพื่อนข้างห้องที่ช่วยกันสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้กันและกัน ที่สำคัญคือ มีตำรวจคอยสนับสนุนดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินทางไประงับเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที!!

.......

(หมายเหตุ : 'นกหวีด'เตือนภัย แจ้งเหตุร้าย..เพื่อนข้างห้อง  : สารพันตำรวจ โดยทัศชยันต์ วาหะรักษ์)