ข่าว

ศาลแก้โทษคุก12ปี'ครูลอน'อนาจารเด็ก

ศาลแก้โทษคุก12ปี'ครูลอน'อนาจารเด็ก

07 ก.ย. 2555

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษ 'ครูลอน'อนาจาร นร.หญิงอายุไม่เกิน 15 ปี จาก 50 ปี เหลือ 12 ปี ชี้อุทธรณ์ฟังขึ้นบางข้อ ขณะที่ทนาย หวังฎีกาสู้ลดโทษอีก

           7 ก.ย.55 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.4054/2549 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9  เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายลอน โสรกนิษฐ์ อายุ 64 ปี อาจารย์ประจำชั้น ป.2 ระดับ 7 และนายพิมล ซุ่นศรี หรือซุ้นศรี อายุ 54 ปี อาจารย์ 2 ระดับ 7 ครูสอนพละ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสายไหม  เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร , กระทำอนาจารและพรากเด็กอายุยังไม่เกินิ15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร,กระทำชำเรา ฯ และ หน่วงเหนี่ยว กักขัง เพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91, 277, 279, 283 ทวิ , 284 , 309 , 310 ทวิ , 312 ทวิ , 317 และ พระราชบัญญัติมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ. 2540 มาตรา 5 ,7,12

          ทั้งนี้ โดยคดีนี้โจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.49 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.- 10 ส.ค.49 ต่อเนื่องกัน นายลอน จำเลยที่ 1 ได้พา ด.ญ.ปุ๊ก (นามสมมติ) อายุ 6 ปี ผู้เสียหาย โดยหลอกเข้าไปในห้องน้ำก่อนกระทำอนาจารผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยที่ 1 ยังได้พราก ด.ญ.ปุ๊กไปกักขัง เพื่อกระทำชำเรา และจำเลยที่ 1 ยังมีพฤติการณ์ พา ด.ญ.ปุ๊ก ไปชำเราและอนาจารอีกจำนวน 5 ครั้ง

         ขณะที่ นายพิมล จำเลยที่ 2 ได้ใช้กำลังประทุษร้าย ด.ญ.ปุ๊ก เพื่อกระทำอนาจารและกระทำชำเรา โดยที่ผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จำนวน 4 ครั้ง ต่อมาจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันพา ด.ญ.ปุ๊ก , ด.ญ.ปิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 8 ปี , ด.ญ.ปู (นามสมมติ) อายุ 8 ปี , ด.ญ.ปลา (นามสมมติ) อายุ 7 ปี และ ด.ญ.ป๋อม (นามสมมติ) อายุ 8 ปี โดยล่อลวงว่าจะพาไปซื้อขนม ก่อนจะกระทำอนาจารผู้เสียหายทั้ง 5 คน และพรากผู้เสียหายทั้ง 5 คน ไปจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขังกระทำการด้วยประการใดให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เพื่อยินยอมให้จำเลยทั้งสองกระทำชำเรา โดยจำเลยทั้งสองยังร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายแก่ผู้เสียหายทั้ง 5 และผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราผู้เสียหายทั้ง 5 อีกด้วย

           นอกจากนี้ นายลอน จำเลยที่ 1 ยังได้กระทำชำเรา ด.ญ.แป๋ม (นามสมมติ) อายุ 7 ปี และได้ข่มขืนใจ ด.ญ.ปุ้ม (นามสมมติ) อายุ 6 ปี น้องสาว ไม่ให้นำเรื่องไปบอกเล่ากับใคร เหตุเกิดที่แขวงและเขตสายไหม กทม.

          คดีนี้ศาลชั้นต้น มีพิพากษาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.50 ว่า จำเลยทั้งสอง มีความผิดตามมาตรา 283 ทวิ วรรคสอง ,309 วรรคแรก , 310 ทวิ , 312 ทวิ วรรคแรก , 317 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดให้จำคุกนายลอน จำเลยที่ 1 รวมทั้งสิ้น 68 ปี 3 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 51 ปี แต่เมื่อรวมโทษ ทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 50 ปี ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า  คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องความผิดของจำเลยทั้งสอง 31 ข้อ แต่ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้องข้อใดบ้างและพิพากษาจำเลยที่ 1 เกินไปจากคำฟ้อง อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางข้อ  ซึ่งยานหลักฐานของโจทก์ยังมีความสงสัยตามสมควรในบางข้อ ศาลอุทธรณ์จึงเห็นสมควรแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยมีคำพิพากษาในความผิดตามฟ้องทั้งหมดเสียใหม่ให้ชัดเจน และเพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปด้วยความถูกต้อง              

         อีกทั้ง จึงพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสอง 283 ทวิ วรรคสอง 309 วรรคแรก 310 ทวิ 312 ทวิ วรรคแรก และ 317 วรรคสาม การกระทำของจำเลยทั้งสองมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อกระทำนาจาร , ฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำกาใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกาย , ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน

          โดยการกระทำนั้นเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้จำคุกจำเลยที่ 1-2  ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี คนละ 7 ปี และฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อกระทำนาจารฯ จำคุกคนละ 5 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 12 ปี

          นายกิ่งแก้ว โยมเมือง ทนายความจำเลย กล่าวว่า จะเตรียมยื่นฎีกาเพื่อต่อสู้คดีต่อไปเพื่อจะให้ลดโทษหรืออาจจะยกฟ้องไปเลย เนื่องจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้มีการวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น จึงมีการลดโทษจาก 50 ปี เหลือ 12 ปี และหลังจากนี้จะไปดูรายละเอียดในเรื่องการยื่นขอประกันตัวด้วยซึ่ง นายลอนได้ติดคุกมาแล้วตั้งแต่ปี 2550