
'มทภ.4'ชี้ป่วนปักธงมาเลย์ไม่กระทบสัมพันธ์
แม่ทัพภาคที่ 4 เผยสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการใช้ธงชาติมาเลเซียนั้น ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย เสียหาย ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมหามาตรการป้องกันรักษาความปลอดภ
1 ก.ย. ที่ค่ายพญาอินทิรา บ้านห้วยน้ำเย็น ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีสมโภชบวงสรวงองค์พ่อจ่าดำ ซึ่งประดิษฐานที่ค่ายพญาอินทิรา โดยมีการประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวง และประกอบพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อกองกำลังทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และประชาชนทั่วไป
พล.ท อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุพยายามประกาศศักยภาพว่า ยังมีพลังอยู่ จึงต้องแก้ไขต่อไป แล้วกองกำลังก็มีไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการควบคุมตัวผู้กระทำความผิดด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อคนเก่าหมดไปก็พยายามสร้างคนใหม่เข้ามาทดแทนขึ้นมาใหม่ และสร้างศักยภาพที่จะพยามยามก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อความไม่สงบรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางบรรลุในยุทธศาสตร์ของเขา จึงพยายามทำทุกวิถีทางสร้างสถานการณ์เพื่อที่จะให้ได้เปรียบ
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศมาเลเซียหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า เรากับมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมายาวนาน ทางเราก็ไม่เข้าใจผิด แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างประเทศ จึงต้องอดทนและแก้ไขต่อไป
ปัตตานีประชุมหามาตรการป้องกันเมือง สกัดโจรใต้ป่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โดยทั่วไปในจังหวัดปัตตานี ว่า ขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่อย่างไรก็ตามที่ ห้องทำงานกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้เรียก รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ทั้ง 4 คน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพร มีสุข ผกก.สภ.เมืองปัตตานี และหัวหน้าตำรวจสายสืบในพื้นที่ มีการประชุมในการหามาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เพื่อสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ร้าย ในย่านชุมชน แหล่งธุรกิจ แหล่งบันเทิง ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่างๆ ให้เข้าไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ รปภ.สังเกตผู้ก่อเหตุ พร้อมดูแลความปลอดภัย และระมัดระวัง พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ เข้าไปแวะเวียนและเสริมกำลังดูแลความปลอดภัยด้วย
ขณะเดียวกันได้แบ่งการทำงานให้ รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี แต่ละคนดูแลคนละ 3 อำเภอ ซึ่งปัตตานีมีทั้งหมด 12 อำเภอ โดยเข้าสั่งการกำชับแต่ละพื้นที่ ให้มีการทำงานอย่างเข้มงวดกวดขัน พร้อมทั้งให้มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดอย่างต่อเนื่องโดยให้กำลังผลัดเปลี่ยนเพื่อไม่ให้อ่อนล้า ขณะเดียวกันให้มีการสนธิกำลังทั้งทหารและ ฝ่ายปกครอง เข้าไปติดตามความเคลื่อนของคนร้ายที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ เมื่อมีข่าวให้สนธิกำลังเข้าไปตรวจค้นกดดันทันท
ขณะรายงานข่าว แหล่งข่าวตำรวจในพื้นที่ แจ้งว่า มีรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ สี และทะเบียน จำนวน 3 คัน คนร้ายได้ทำการประกอบระเบิดและจะนำเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เขคเทศบาลเมืองปัตตานี จึงแจ้งให้ทุกหน่วยทราบ รวมทั้งภาคประชาชน ชุดตาสับปะรด แจ้งประกาศให้ช่วยสังเกตและติดตามรถจักรยานยนต์ที่ต้องสงสัย พบมีพิรุธให้แจ้งให้ทราบทันที โดยจะมีหน่วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของ นปพ.ปัตตานี เตรียมกำลังพร้อมในที่ตั้ง พร้อมที่จะทำงานได้ทันที นอกจากนั้นในสว่นของกลางคืน จะมีรถแสงสว่างเข้าไปช่วยให้ทำงานคล่องตัวมากขึ้น