คุณค่า = มูลค่า

             เปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หาความหมายของคำว่า "คุณค่า" และ "มูลค่า" พบว่า พจนานุกรมบัญญัติศัพท์คำว่า "คุณค่า" ว่า หมายถึง สิ่งที่มีประโยชน์หรือมีมูลค่าสูง และ "มูลค่า" หมายถึง ค่าของสิ่งของ, ราคาของสิ่งของ

              ที่ต้องใช้เวลาค้นหาความหมายแบบไทย ก็เพราะก่อนหน้านี้ เปิดหาความหมายคำภาษาอังกฤษ "แวลู" (Value) แล้วพบว่า สามารถแปลเป็นไทยได้ทั้งคำว่า "คุณค่า" และ "มูลค่า" แต่เมื่อลองพิจารณาจากภาษาไทยจริงๆ อาจจะหมายความได้ว่า คำว่า "คุณค่า" หมายถึงสิ่งที่มีมูลค่าสูง ส่วนคำว่า "มูลค่า" หมายถึงเพียงค่าหรือราคาของสิ่งของ ซึ่งอาจจะสูงหรือไม่สูงก็เป็นได้ทั้งนั้น

               แต่เมื่อพิจารณาในมุมของการลงทุน คำว่า "คุณค่า" และ "มูลค่า" น่าจะมีความหมายใกล้เคียงกัน ด้วยเหตุที่คำว่า "มูลค่า" ในโลกของการลงทุน มีความหมายในตัวเองอยู่แล้วว่า เป็นของ "มีมูลค่า"

               เวลาที่คนพูดกันว่า ลงทุน "แวลู สต็อก" (Value Stock) หรือที่เรียกกันว่า หุ้นมูลค่า หรือหุ้นคุณค่า จึงมีความหมายเดียวกัน

                ถ้าใครยังไม่รู้จัก "แวลู สต็อก" หรือหุ้นมูลค่า หรือหุ้นคุณค่า ก็อธิบายได้ง่ายๆ ว่า เป็นหุ้น "ของดี ราคาถูก" เพราะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ขณะที่ราคาหุ้นต่ำกว่าราคาที่เหมาะสม โดยลักษณะเด่นอีกประการของ "แวลู สต็อก" คือ เป็นหุ้นที่เน้นอัตราปันผลสูง

               ฟังดูเหมือน "ขัดแย้ง" เพราะ "ถ้าเป็นของดี ราคาไม่น่าจะถูก"  หรือถ้าเป็นของถูก ก็ไม่น่าจะดี แต่กรณีของ "หุ้นมูลค่า" มีคำอธิบายว่า แม้จะเป็นหุ้นที่เน้นอัตราปันผลที่สูง แต่มักมีผลการดำเนินงานเติบโตไม่โดดเด่น ซึ่งอาจเป็นเพราะกิจการมีการเติบโตเต็มที่แล้ว ทำให้คนตีราคาของหุ้นต่ำมาก จนไม่สนใจซื้อขายกัน จึงทำให้ราคานั้นต่ำกว่าราคาที่เหมาะสม กลายเป็นของดี ราคาถูก ด้วยเหตุนี้

               ต้องยอมรับว่า กระแสของ "หุ้นมูลค่า" ได้รับการตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร อดีตผู้บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ที่ผันตัวเองมาเป็นนักลงทุนหุ้นมูลค่า หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540

              ทฤษฎีการลงทุนสไตล์ ดร.นิเวศน์ ก็ว่ากันว่าเป็นสไตล์เดียวกับนักลงทุนชั้นนำของโลกที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีของโลกอย่าง "วอร์เรน บัฟเฟตต์" ซึ่งไม่ใช่แค่สไตล์การลงทุน แต่ยังหมายรวมถึงสไตล์การใช้ชีวิตประจำวันที่ทั้งสองเลือกอยู่อย่างสมถะ เป็นความสมถะแบบมหาเศรษฐีที่สามารถฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ทั้งคู่กลับไม่ทำเยี่ยงนั้น

              เมื่อ "แวลู" หรือมูลค่าหุ้นที่ลงทุนเพิ่มพูนขึ้น ความมั่งคั่งก็ตามมา และความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นเป็นภาพสะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การลงทุนแบบนักลงทุนหุ้นมูลค่า

              ถามว่า แล้วหุ้นมูลค่าอยู่ตรงไหน หุ้นแบบไหนคือหุ้นมูลค่า คนที่ไม่รู้เรื่องหุ้น ไม่มีความเชี่ยวชาญ แต่ไม่อยากเสียโอกาสจากการลงทุนจะมีช่องทางไหนในการลงทุนได้บ้าง เพราะการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว แม้จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องทุกคนทำได้ เพราะต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์และความเข้าใจ แล้วที่สำคัญ นั่นคือ ซื้อหุ้นแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย

              แต่ถ้าเริ่มต้นลงทุนในหุ้นมูลค่าด้วยเงินเพียง 2,000 บาท แล้วไม่ต้องนั่งเลือกหุ้นเองให้ปวดหัว แต่มี "มืออาชีพ" มาบริหารจัดการให้เสร็จสรรพ เลือกหุ้นให้ หาจังหวะซื้อ และจังหวะขายให้ โอกาสในการเข้าถึง "แวลู สต็อก" หรือ "หุ้นมูลค่า" ก็มีมากขึ้น

              "กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อิควิตี้ ปันผล" ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งกำลังเสนอขายอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

              จุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) บอกว่า กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนกองทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลการดำเนินงานที่ดี มีกิจการมั่นคง มีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และมีรายได้ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงต้องมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในกลุ่มเดียวกัน

              "จุดเด่นของ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อิควิตี้ ปันผล อยู่ที่การเน้นลงทุนในหุ้นแวลู ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง โดยลักษณะสำคัญของหุ้นแวลู จะประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับที่สูง อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นอยู่ในระดับต่ำ และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้น การลงทุนในหุ้นแวลู จึงเป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว และมีความผันผวนต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นประเภทอื่น ซึ่งเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์การลงทุนในขณะนี้" ผู้บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี ระบุ

              นอกจากจุดเด่นของ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อิควิตี้ ปันผลจะอยู่ที่การคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง มีอัตราการจ่ายปันผลอยู่ในระดับสูงแล้ว กองทุนยังมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้งต่อปี ในอัตราไม่ต่ำกว่า 75% ของกำไรสุทธิแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีการจ่ายเงินปันผล

              ส่วนใครที่มีคำถามว่า กองทุนนี้จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จุมพล ยกตัวอย่างกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในลักษณะเดียวกัน อย่างเช่น กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 22.05% ขณะที่ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นดัชนีเปรียบเทียบให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.89% (ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2555) ดังนั้น จึงเชื่อว่าผลตอบแทนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อิควิตี้ ปันผล จึงน่าจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

               ชอบกองทุนก็ตรงที่เป็นลักษณะของ "ลงขัน" กัน คนละนิดคนละหน่อย เริ่มต้นแค่ 2,000 บาท รวมเป็นกอบเป็นกำแล้วนำไปเลือกช็อปปิ้งในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนให้แก่คนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย ที่สำคัญกว่านั้นคือ นโยบายการลงทุนหรือสินทรัพย์ปลายทางยังมีความหลากหลาย มีให้เลือกมากมาย

             เริ่มต้นลงทุนแค่ 2,000 บาท อาจไม่รวยเป็นอภิมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกอย่าง "วอร์เรน บัฟเฟตต์" แต่ก็ยังดีกว่าเสียโอกาสในการลงทุน เพราะข้อจำกัดเรื่อง "เงินน้อย" และยังดีกว่าเมื่อเทียบกับการที่โอกาสนั้นไม่เคยมาถึงเลย

..............................................
(คุณค่า = มูลค่า : คอลัมน์วันอาทิตย์คิดเรื่องเงิน : โดย...ขวัญชนก วุฒิกุล [email protected] )