ข่าว

ปฏิบัติการค้นหาคุณค่า'กุลสตรีไทย'

ปฏิบัติการค้นหาคุณค่า'กุลสตรีไทย'

29 ส.ค. 2555

ปฏิบัติการค้นหาคุณค่า 'กุลสตรีไทย'

                            ความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก พร้อมกับการเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติ อีกทั้งการสื่อสารไร้พรหมแดน ทำให้ทุกวันนี้ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของไทยกำลังถูกกลืนลงไปอย่างช้าๆ และหนึ่งในนั้นคือความเป็น "กุลสตรี" ของหญิงไทย จนเด็กรุ่นหลังแทบไม่รู้จักแล้วว่า กุลสตรีนั้นเป็นอย่างไร ชมรมกุลสตรีกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ 8 พันธมิตรมหาวิทยาลัย จึงตั้งโต๊ะแถลงข่าว "โครงการสรรหากุลสตรีไทย 2555" ครั้งที่ 2 เพื่อรณรงค์ให้หญิงไทยกลับมาเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยกริยามารยาท แต่งกายเหมาะสม และรักนวลสงวนตัว รวมทั้งส่งเสริมคุณค่าของตัวเอง โดยมี มานัส ทารัตน์ใจ ผอ.สำนักส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จิดาภา กรุงไกรจักร์ ประธานชมรมกุลสตรีไทย ร่วมให้ข้อมูลที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

                            มานัส ทารัตน์ใจ เผยว่า กุลสตรีไทยคือภาพสะท้อนความงดงามของสตรีไทยทั้งกายและใจ ซึ่งเดี๋ยวนี้หญิงไทยมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ถือเป็นการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะด้านการบริหาร เรามีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิง ขณะเดียวกันเอกลักษณ์ไทยก็ลืมไม่ได้ เพื่อคงอยู่ความเป็นไทย เช่น การไหว้ การอ่อนน้อมถ่อมตน กริยา มารยาท เป็นคุณค่าที่ดีของสตรีไทยที่ควรได้รับการส่งเสริม

                            "โครงการนี้จัดเพื่อกระตุ้นให้สตรีไทยในปัจจุบัน ได้ตระหนักถึงคุณค่าในตัวเอง เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของวัฒนธรรมไทย อันเป็นรากฐานของคนไทยที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ขึ้น เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า จึงหวังว่าจะเป็นแนวทางให้คนรุ่นใหม่ได้ดำเนินเป็นแบบอย่างต่อไป" ผอ.ส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมกล่าว

                            ด้าน "ฟาง" บงกช เจริญศิลป์ นักศึกษาปี 4 คณะพลศึกษา สาขาครูสุขศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ทรวิโรฒ ประสานมิตร หนึ่งในผู้เข้าประกวดกล่าวว่า สนใจมาสมัครด้วยตัวเอง และยังชักชวนเพื่อนร่วมสถาบันมาด้วยอีก 1 คน เพราะอยากเข้ามาอบรม จะได้ทราบว่าการเข้ามาป็นสตรีไทยอย่างแท้จริงเป็นอย่างไร หากพลาดตำแหน่งก็จะไม่เสียใจ เพราะความรู้ที่ได้น่าจะนำมาพัฒนาตัวเองในแบบอย่างสตรีไทยได้

                            "ปกติเป็นนักกีฬา เป็นคนกระโดกกระเดก จึงอยากปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะเห็นว่าเราก็เป็นหญิงไทยคนหนึ่งถึงแม้ไม่เพียบพร้อม สิ่งที่น่าจะได้รับอย่างแรกน่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ เพราะได้พบเพื่อนๆ ใหม่ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นกุลสตรี เพราะโครงการได้ฝึกสอนให้รำไทย ร้อยมาลัย ทำอาหาร กริยามารยาท นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก" นักกีฬาสาวกล่าว

                            ขณะที่ "อ้อ" อรพินธ์ มูลละออง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า กุลสตรีมีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน คือการวางตัวดี คิดดีทำดี ก่อนจะเข้าร่วมโครงการตัวเองไม่กล้าแสดงออก หลังจากได้รับการอบรมแล้ว ทำให้มีความกล้าทำสิ่งดีๆ มากขึ้น พร้อมกับส่งเสริมการมีบุคลิกภาพที่ดีด้วย

                            "ที่บ้านปลูกฝังการเป็นกุลสตรีอยู่บ้างอย่างกริยา มารยาท การแต่งกาย คิดว่าโลกสมัยนี้ก้าวไกลด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น นอกจากต้องก้าวให้ทันแล้ว ก็ต้องรู้รักศักดิ์ศรีสตรีไทยด้วย เท่าที่ทราบคือ เด็กยุคใหม่มีความมั่นใจและกล้าเกินไป ซึ่งอาจเพลี่ยงพลั้งได้ จึงต้องทบทวนกันว่ากุลสตรีนั้นเป็นอย่างไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าต้องมัวแต่นั่งพับเพียบ หรือเชื่องช้าทุกเรื่อง สำคัญต้องรู้จักกาลเทศะ เคารพผู้ใหญ่และทำตัวให้มีคุณค่า" สาวเกษตรกล่าว

                            โครงการนี้นำผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 50 คน จาก 8 สถาบันการศึกษาประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตรศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ม.ราชภัฏพระนคร ม.ราชภัฏสวนดุสิต และ ม.ราชภัฏสวนสุนันทา ทำกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และเรียนรู้วัฒนธรรมไทย อาทิ งานประดิษฐ์ต่างๆ อาหาร ขนมไทย มารยาทไทย นาฏศิลป์ไทย เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมกุลสตรีไทยน้ำใจงาม เพื่อเก็บคะแนนตลอดกิจกรรม และรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 6 กันยายนนี้ เวลา 18.00 น. ที่หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย