
นาวิกฯอาลัยสดุดีจ่านักโดดร่ม
สดุดีจ่านักโดดร่ม "ดวงวิญญาณจงรับรู้ ขอเพื่อนผู้สุขสงบสบที่หวัง ฝากบรรเลงเพลงนอนเพื่อทรงฟัง แทนน้ำหลั่งระลึกคุณอดุลย์มาลย์ จงหลับเถิดเกิดมาสมค่าแล้ว กระซิบแผ่ววอนลมพรมสุสาน นักรบคนสู้ผู้เสร็จงาน สู่สุสานพิมานแมน ณ แดนไกล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 55 พล.ร.ท.พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาภายใน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน "คอหนังเกมส์ 2012" มีนักกีฬา ข้าราชการ พลทหาร และครอบครัว รวมกว่า 3,000 นาย เข้าร่วมในพิธีปิดอย่างยิ่งใหญ่ ณ สนามกีฬาราชนาวี กม.5 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
และที่เป็นไฮไลท์ของงาน คือ การโชว์กระโดดร่มแบบดิ่งพสุธา ของนักกีฬาโดดร่มในสังกัดหน่วยขึ้นตรงต่างๆ ของกองทัพเรือ จำนวน 32 ชีวิต นำทีมโดย นาวาโท นฤมิต ศุขสมิติ ผู้บังคับกองพันลาดตระเวน ซึ่งนับเป็นการโดดร่มครั้งสำคัญ ที่พวกนักโดดร่มได้พร้อมใจกันแสดง เพื่อเชิดชูเกียรติยศให้กับ จ่าเอก รัฐพล สีลาเกตุ นักกีฬาโดดร่มกองทัพเรือ วัย 35 ปี ประจำหน่วยรบพิเศษ กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่เสียชีวิตขณะทำการฝึกซ้อมกระโดดร่มลงจากเครื่องบินฟอกเกอร์ F - 27 บนความสูง 8,000 ฟิต และเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง ส่งผลให้ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตทันที เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งการฝึกครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อมในการโดดร่มโชว์ในพิธีปิดกีฬาวันนี้
ด้วยการจากไปอย่างไม่มีทางย้อนกลับของ จ่าเอก รัฐพล สีลาเกตุ นับเป็นการสูญเสียกำลังพลครั้งสำคัญของกองทัพเรือ ส่งผลให้ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการ ทหาร และครอบครัวอันเป็นที่รัก จึงได้ถือโอกาสอันทรงเกียรตินี้ กระทำพิธีไว้อาลัยต่อดวงวิญญาณเหล่าทหารกล้านักโดดร่มนาวิกโยธิน และร่วมกันกล่าวกลอนสดุดีเชิดชูเกียรติความว่า
"ดวงวิญญาณจงรับรู้ ขอเพื่อนผู้สุขสงบสบที่หวัง ฝากบรรเลงเพลงนอนเพื่อทรงฟัง แทนน้ำหลั่งระลึกคุณอดุลย์มาลย์ จงหลับเถิดเกิดมาสมค่าแล้ว กระซิบแผ่ววอนลมพรมสุสาน นักรบคนสู้ผู้เสร็จงาน สู่สุสานพิมานแมน ณ แดนไกล"
สำหรับประวัติ จ่าเอก รัฐพล สีลาเกตุ เกิดเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2520 มีภูมิลำเนาเลขที่ 101 ม.1 ต.เมืองเปลือย อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด เป็นบุตรคนโตของ นายอุดม สีลาเกตุ และนางดวงใจ สีลาเกตุ ศึกษาจบระดับชั้นมัธยมปลายจาก โรงเรียนเหล่าสอวิทยาคม ในปี 2539 และได้เข้าศึกษาเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ พรรคเหล่านาวิกโยธิน ในปีเดียวกัน ก่อนจบรับราชการในปี 2541 และได้สมรสกับ นางประภา สีลาเกตุ มีบุตรสาว 1 คน คือ ด.ญ.ศิโรรัตน์ สีลาเกตุ
ในตำแหน่งรับราชการ เป็นกำลังพลประจำกรมกำลังพลทหารเรือ ผบ.ชุดพลยิง ชุดปืนกล หมู่ปืนกล ตอนปืนกล ประจำหมวดอาวุธ ร้อย.ปืนเล็ก ที่ 4 พัน. ร.1 กรม ร.1 พล.นย. , ผู้บังคับการหมู่นักเรียนจ่า หมวดนักเรียนจ่า กองร้อยที่ 2 ประจำโรงเรียนทหารนาวิกโยธิน ศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน , พลลาดตระเวน ชุดลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และภารกิจสุดท้าย พลลาดตระเวน ชุดลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกที่ 3 ตอน-หมวด-กองร้อย/ลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกที่ 1 กองพันลาดตระเวน กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และเป็นนักกีฬากระโดดร่มให้กับกองทัพเรือ ประจำหน่วยรบพิเศษ กองพันลาดตระเวน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และได้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรพิเศษด้านการรบ 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรส่งทางอากาศยานนาวิกโยธิน รุ่นที่ 36/46 และหลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจมนาวิกโยธิน รุ่นที่ 35/47 ก่อนจะมาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 35 ปี โดยศพได้ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และจะทำการสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะทำการประชุมเพลิงในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 23 ส.ค. 55