ข่าว

จำคุกหม่อมลูกปลา4ปีผิดฐานฆ่าท่านกบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก หม่อมลูกปลา ฆ่าท่านกบ 7 ปี พยานหลักฐานโจทก์มัดแน่นเจ้าตัวถึงกับร่ำไห้ตลอดเวลา ศาลปรานีลดโทษ 1 ใน 3 เหลือติด 4 ปี 8 เดือน ส่วนสุทัศน์ เงินหมื่น นายประกันเตรียมยื่นขออภัยโทษ 5 ธันวา

          วันที่ 17 ส.ค.55  ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิตคดีดำ 6680/2540  คดีแดง 485/2545 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางชลาศัย ยุคล หรือ หม่อมลูกปลา  อายุ 40 ปีเป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
 
          กรณีเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2538  นางชลาศัย จำเลยได้บังอาจฆ่า หม่อมเจ้าฐิติพันธ์ ยุคล หรือท่านกบ ด้วยการผสมยาพิษ ซึ่งเป็นยาแมลงกลุ่มคาร์บอเมท ในถ้วยกาแฟให้ดื่ม จนสิ้นชีพิตักษัยสมดังเจตนาของจำเลย เหตุเกิดที่แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต เขตพญาไท  กทม.เกี่ยวเนื่องกัน
 
          คดีนี้ศาลชั้นต้น เห็นว่า จำเลยกระทำผิด พิพากษาจำคุก 9 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี
 
          จำเลยยื่นอุทธรณ์ ต่อสู้คดีขอให้ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง  อย่างไรก็ตามศาลอุทธรณ์พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า  โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน ชี้ให้เห็นได้ว่า จำเลย เป็นผู้ใส่ยาพิษ ในถ้วยกาแฟ ของผู้ตาย ประกอบกับ พยานบุคคลของฝ่ายโจทก์ที่เข้าเบิกความ ล้วนแต่มีพิรุธ น่าสงสัยมีน้ำหนักน้อย ส่วนคำรับสารภาพของ จำเลยในชั้นสอบสวน เป็นคำรับสารภาพที่ให้การโดยไม่สมัครใจ รวมทั้งภาพบันทึกทำแผนที่ประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการตามความสมัครใจของจำเลย ล้วนแต่เป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้น ทั้งพยานทั้งหมด ล้วนเป็นคนใกล้ชิดของผู้ตาย มีส่วนได้เสีย กับทรัพย์สินในกองมรดก  อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น  พิพากษากลับ ยกฟ้อง
 
          อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกา พิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
          ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดเห็นว่า   พยานโจทก์มีทั้งผู้เชี่ยวชาญเครื่องจับเท็จมาเบิกความยืนยันถึงการตั้งคำถามตรวจสอบพบว่า  ผลจากเครื่องจับเท็จพบว่า ครั้งแรกจำเลยให้การเท็จ แต่ภายหลังก็ให้การรับสารภาพว่าใส่สารกำจัดแมลง ยี่ห้อไบกอน ซึ่งเป็นสารพิษกลุ่มคาร์บอเมท ซึ่งจำเลยหวังให้ผู้ตายทรงประชวรเข้าโรงพยาบาลต่อหน้าบุคคลอื่นที่ได้เป็นพยานในการขอยา เพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องถูกทำร้ายเมื่อขอหย่า ซึ่งคำเบิกความของพยานโจทก์ยังสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นชุดคณะสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้โจทก์ยังมีพยานที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จำเลยไปกราบขอโทษและยอมรับสารภาพผิด
 
          ศาลเห็นว่าพยานเหล่านี้ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จะให้การปรักปรำจำเลย รวมทั้งวิดีทัศน์ที่จำเลยนำชี้ที่เกิดเหตุวังอัศวินว่าจำเลยไม่เคยถูกบังคับ เป็นการรับสารภาพโดยสมัครใจ จึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใส่สารพิษลงในถ้วยกาแฟ  แต่ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าให้ถึงแก่ความตาย             
        
          พิพากษากลับให้จำคุกฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 290 ประมวลกฎหมายอาญา จำคุก 7 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก  4 ปี 8 เดือน
         
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาฎีกา  นางชลาศัย ได้ร้องไห้เช็ดน้ำตา ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ นางชลาศัยก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม พร้อมกอดบุตรชายทั้งสอง และถอดสร้อยคอทองคำ 1 เส้น ให้กับบุตรชายเก็บไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หญิงนำตัวไปควบคุมไว้ใต้ถุนศาลตัวโดยมีบุตรชาย 2 คน และนายทวีชัย น้อยประเสริฐ อายุ 39 ปี สามีใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้องควบคุม
          
          ด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายประกัน กล่าวว่า เตรียมจะยื่นฎีกาขอพระทานอภัยโทษให้จำเลย ให้ทันช่วงวันที่ 5 ธันวาคม  แต่หากไม่ทันก็จะยื่นอภัยโทษตามหลักปกติทั่วไปของกรมราชทัณฑ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ