เชียงใหม่วาง10แนวป้องกันน้ำท่วม | คมชัดลึก

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 55  นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ข้องออกตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมที่สร้างขึ้นทั้ง 10 จุดริมสองฝั่งแม่น้ำปิงในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วมหลังมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

          สำหรับการวางแนวป้องกันน้ำท่วมเทศบาลนครเชียงใหม่ได้จัดวางทั้งแนวกระสอบทราย แนวพนังคอนกรีต และพนังแนวคันดินในจุดพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ จำนวน 10 จุด ได้แก่ ด้านหลังกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ , คิวรถเชียงใหม่-ลำพูน , ด้านหลังศูนย์เด็กเล็ก เทศบาลนครเชียงใหม่ , ซอยลุงหมื่นย่านชุมชนมุสลิม , โรงงานทำสบู่ ย่านชุมชนมุสลิม , ฟอกแลนด์หลังโรง เรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย , ซอยโรงบำบัดนำเสีย , เชิงสะพานฟ้าฮ่าม และหน้าโรงนำแข็งวังสิงห์คำ โดยทุกจุด ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นพร้อมรับมือทวลน้ำในฤดูฝนแล้ว 

          นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ระบุว่า อุทกภัยปีที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงไหลผ่าน เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ถึง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่สภาพของแม่น้ำปิงรับได้ที่ 500 ลูกบาศก์ เมตรต่อวินาทีเท่านั้น หากจะทำให้รับได้ถึง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำปิงจะต้องกว้าง 90 เมตร ลึก 5 เมตร ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายจุดที่ทำไม่ได้เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างขวางไว้ ขณะเดียวกันในเขตเทศบาล นครเชียงใหม่ไม่มีพื้นที่ทำแก้มลิง ทำให้ต้องหาวิธีที่จะทำให้น้ำผ่านไปเร็วที่สุดรวมทั้งป้องกันการล้นตลิ่งเข้า ท่วมบ้านเรือนประชาชนและเขตเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทำขึ้นในจุดเสี่ยงทั้งหมดจะลดผล กระทบได้มากหากเกิดน้ำท่วมในปีนี้ 

          อย่างไรก็ตามจุดที่น่าเป็นห่วงคือย่านชุมชนป่าพร้าวนอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้ง ขณะที่ในปีนี้การก่อสร้างพนังคอนกรีตท้ายชุมชนยัง ต้องหยุดชะงักเนื่องจากติดปัญหาข้อกฏหมายจึงน่าห่วงว่าหากปริมาณน้ำมากอาจทำให้น้ำระบายผ่าน ชุมชนไม่ทันและยกตัวเข้าท่วมเขตชุมชนทำให้ในปีนี้เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เสริมแนวคันดินให้สูงขึ้น และเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ช่วยระบายน้ำหากน้ำมาเร็ว 

          ด้าน น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 จ.เชียงใหม่ ระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้ อนุมัติงบประมาณเร่งด่วน 20 ล้านบาท ให้กับเทศบาลนครเชียงใหม่แก้ไขปัญหาอุทกภัยในปีนี้ทั้งการจัด สร้างแนวป้องกันน้ำท่วม ซ่อมแซมสะพานจันทร์สมและขุดลอกคลองแม่ข่าเพื่อระบายน้ำในเขตตัวเมือง ขณะเดียวกันตนเองในฐานะ ส.ส.เขต 1 จะรวบรวมสภาพปัญหาและอุปสรรคโดยเฉพาะสถานีสูบน้ำที่ยังมี ไม่เพียงพอ รวมกับปัญหาในพื้นที่อื่น ๆ ทั้งจังหวัดที่จะรวบรวมจาก ส.ส.ทั้ง 10 เขต นำเสนอปัญหาต่อคณะ รัฐมนตรีเพื่อให้การช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป

 

ตาก อ่วม น้ำล้นสปิลเวย์อ่างเก็บน้ำแม่สอด ท่วมแล้วหลายจุด

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้มีน้ำล้นสปิลเวย์ (ช่องน้ำล้น) สูงประมาณ 15 เซนติเมตร ที่อ่างเก็บน้ำแม่สอด ตำบลพระธาตุผาแดง ส่งผลให้น้ำตามลำห้วยมีระดับสูงขึ้นมาก เช่นเดียวกับลำรางเทศบาลนครแม่สอด ที่ทำไว้เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำไหลท่วมใส่บ้านเรือนราษฎร และส่งผลให้มีน้ำท่วมหลายแห่งแล้ว ล่าสุดเทศบาลได้ประกาศฉุกเฉินในการเตือนภัยน้ำท่วมแล้ว ให้ประชาชนเก็บข้าวของไว้ในพื้นที่สูง และให้ระมัดระวัง อย่างไรก็ดี ประชาชนที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ได้เดินทางไปดูน้ำล้นสปิลเวย์ ที่อ่างเก็บน้ำแม่สอดจำนวนมาก

          ทั้งนี้ชาวตลาดริมเมยใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด ต่างขนของออกจากแผงลอยราว 300 แผง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเมยไหลทะลักเข้าตลาดริมเมย ท่วมสูง 40 - 50 ซม. โดยมีนายสำรวย วิริยะ นายกเทศมนตรีตำบลท่าสายลวด ประสานกับทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33 อ.แม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อยตชด.ที่ 346 อ.แม่สอด ตำรวจสภ.แม่สอด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ตลอดจนหน่วยกู้ภัยนับ 100 นาย เข้าไปช่วยพ่อค้า และแม่ค้า ขนสินค้าออกจากตลาด

          โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนราชการราษฎรดำริ 2 ต่างวิจารณ์ผู้บริหารเทศบาลนครแม่สอด ที่ไม่ยอมเปิดทางน้ำบริเวณหลังวัดแม่ซอดหน้าด่าน ทั้งที่ใช้งบประมาณไปนับร้อยล้านบาท ทำลำรางน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่เส้นทางกลับถูกปิดไว้ ทำให้เกิดน้ำท่วม ทั้งที่เคยร้องเรียนไปยังฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ในสมัยนายกิติศักดิ์ โตมรศักดิ์ เป็นนายอำเภอแล้ว โดยได้สั่งการให้เทศบาลดำเนินการ แต่เทศบาลไม่ยอมดำเนินการใดๆ จนขณะนี้นายกิติศักดิ์ ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว

          ขณะที่เทศบาลตำบลท่าสายลวด ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านในเมืองแม่สอด อ่างเก็บน้ำแม่สอด บ้านหัวฝาย ระดับน้ำยังล้นสปิลเวย์ หรือ ช่องน้ำล้น เข้าไปยังเมืองแม่สอด ทำบริเวณถนนราชการราษฎรดำริ 2 ถนนศรีพานิช น้ำท่วม เช่นเดียวกับบริเวณถนนรอบที่ว่าการอำเภอแม่สอด น้ำมีระดับสูงมากประมาณ 70 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าตำรวจต้องห้ามรถยนต์ไม่ให้ผ่านไปทางอำเภอ

          ด้านพิษณุ ชอบประดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำบริหาร และบำรุงรักษาน้ำ ที่ 3 ชลประทานจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างชลประทานหัวฝายเฉลี่ย 24 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจากการที่ฝนตกลงมาต่อเนื่องกว่า 20 วันในพื้นที่ โดยไม่หยุดทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างจนล้นที่ระดับช่องน้ำล้น หรือสปิลเวย์ ขณะเดียวกันทางอ่างเก็บน้ำได้ระบายน้ำลงไปช่องทางอื่น เพื่อเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าตัวเมืองแม่สอด อย่างไรก็ดีทางอ่างสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้

          ส่วนนายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในเขตเทศบาล ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ และธุรกิจการค้าสำคัญ ได้เฝ้าระวัง และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดรวมทั้งให้เก็บข้าวของเครื่องใช้ และสินค้าสำคัญไว้บนที่สูง ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ เตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์การช่วยเหลือ รวมทั้งถุงทรายไว้แจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อนำไปสร้างแนวป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมบ้านหรือร้านค้า

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเมียวดี ของพม่า ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด เกิดน้ำท่วมใหญ่หลังจากแม่น้ำเมยเอ่อท่วมขึ้นเข้าไปในตัวเมืองเมียวดี ทำให้น้ำท่วม 4 ชุมชน ทั้งชุนชนเมือง และชุมชนรอบนอก ชาวบ้านต้องเก็บข้าวของ และชาวบ้านนับ 1,000 คน ต้องหนีน้ำไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยล่าสุด นายมิตเต็ง นายอำเภอเมียวดี ได้นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว

 

ผอ.เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ยัน แผ่นดินไหวอุตรดิตถ์ไม่กระทบ

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนแผ่นดินไหวบริเวณอําเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อเวลา 08.01 น. ที่ผ่านมา ว่าเกิดแผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณอําเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ละติจูด 18.19 องศาเหนือ ลองจิจูด 101.00 องศาตะวันออก ขนาด 3.1 ตามมาตราริกเตอร์ ทำให้หลายฝ่ายจับตาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่อยู่ใกล้กับจุดแผ่นดินไหวดังกล่าว 

          นายสมหวัง ปารสุขสาร หัวหน้าฝ่ายบำรุงและรักษาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวที่เกิดบริเวณดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทางเขื่อนยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้อยู่ในแนวร่องของการไหว ทั้งนี้ทางเขื่อนมีจุดวัดแผ่นดินไหวบริเวณท้ายเขื่อนแควน้อย หากมีผลกระทบกับทางเขื่อน ก็จะมีการรายงานทันที อีกทั้งทางสำนักชลประทานที่ 3 ได้มีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าหากมีผลกระทบก็จะมีการรายงานมาทางเขื่อนอย่างแน่นอน

          อย่างไรก็ตามตนเองขอยืนยันว่า แผ่นดินไหวที่ จ.อุตรดิตถ์ ยังไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด และที่สำคัญเขื่อนแควน้อยมีลักษณะการก่อสร้างเป็นหินทิ้งก้อนใหญ่ หากมีแผ่นดินไหวที่เขื่อนจะได้รับผลกระทบก็จะต้องรุนแรงและใกล้กับเขื่อนแควน้อยมาก ซึ่งอย่างไรก็ตามทางเขื่อนก็ได้ติดตามแผ่นดินไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิด หากมีผลกระทบก็จะรายงานให้กับทางกรมชลประทานทราบทันที