โกวิท'ร่ำไห้!หวังพึ่งปาฏิหาริย์ลูกฟื้นแต่ไร้ผล | คมชัดลึก

              เมื่อเวลา 10.15 น.  วันที่  9 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังจากที่ น.ส.มาธวี  หรือน้องมายด์ วัฒนกุล อายุ 21 ปีบุตรสาวคนสุดท้อง ของนายโกวิท วัฒนกุล ดารานักแสดงรุ่นเก่า ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ เบนซ์ รุ่น 300 อี สีกรมท่า หมายเลขทะเบียน 1 อ-3331 กทม. ตกจากทางยกระดับสะพานข้ามแยกรัชวิภา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนนำตัวเข้ารักษาที่รพ.เปาโลฯ จากนั้นได้ถูกนำตัวส่งแผนกผู้ป่วยหนัก ชั้น 2 อาคาร 4 รพ.เปาโลฯ แพทย์ได้ทำการยื้อชีวิต แต่น้องมายด์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีครอบครัวประกอบด้วย นายโกวิท วัฒนกุล  บิดา นางวาสนา วัฒนกุล มารดา และ น.ส.มิณฑิตา วัฒนกุล หรือ มิ้นท์ เอเอฟ 3 พี่สาว เดินทางมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสวดมนต์ภาวนาหวังจะมีปาฏิหาริย์ให้น้องมายด์ฟื้น แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนต่างร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า กับการจากไปอย่างกะทันหัน

              จากนั้น เวลา 12.30 น.วันเดียวกัน  ทางรพ.เปาโล ฯนำโดย นายแพทย์ พิชัย แพร่ภัทร ผู้อำนวยการ  พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้รักษา นพ.ตุ๋ย รุ่งเจริญ แพทย์ประจำศูนย์โรคระบบประสาทและสมอง พร้อมด้วย ผช.ศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ ศัลยแพทย์ รพ.เปาโลฯ ร่วมด้วยนายโกวิท น.ส.มิณฑิตา ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเสียชีวิตของน้องมายด์ โดยทาง นพ.พิชัย กล่าวว่า ทางรพ.ได้รับคนไข้เมื่อเวลา 06.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวมาส่งที่แผนกฉุกเฉินของรพ. ตอนนั้นคนไข้มีอาการสาหัส ได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะอย่างหนัก จึงได้นำตัวสแกนสมอง ก่อนส่งเข้าที่ห้องไอซียู โดยทั่วไปอาการหนัก ผู้ป่วยไม่รู้ตัว จากการตรวจพบว่า  สมองบวม กะโหลกศีรษะร้าว ก้านสมองบวมมาก และถูกกดทับ ส่วนไหปลาร้าหัก และปอดขวาฉีกขาด ความดันของคนไข้ลดต่ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทางรพ.ได้ระดมทีมแพทย์เฉพาะทางเฉพาะด้านมาให้การช่วยเหลือ แต่อาการของผู้ป่วยไม่ดีขึ้น จากนั้นไม่นานชีพจรและหัวใจเริ่มหยุดเต้น ทางทีมแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต เลือดได้ไหลออกทางจมูกและปาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สมองและกะโหลกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นสัญญานชีพก็ไม่มี ก่อนที่คนไข้จะสิ้นลมไปอย่างสงบ สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจาก สมองถูกกระทบเทือนอย่างรุนแรง

             ด้าน นายโกวิท กล่าวทั้งน้ำตาว่า ชีวิตลูกผู้ชายอย่างตนตั้งแต่เกิดมาจนถึงขนาดนี้ ไม่มีครั้งไหนที่จะมีการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เหมือนครั้งนี้ ถือว่าครั้งนี้หนักสุด ๆ เพราะลูกสาวตนทุกคนคือ แก้วตาดวงใจ นาทีที่รู้ว่าลูกสาวตนเกิดอุบัติเหตุก็ได้แต่ภาวนาไม่ให้มีอะไรรุนแรง แต่พอทราบว่าอาการหนัก ส่งเข้าที่ รพ.เปาโลฯ ใจหนึ่งก็ยังเชื่อมั่นว่าถึงมือแพทย์ที่ รพ.เปาโลฯแล้ว โอกาสรอดยังมีสูง เนื่องจากทาง รพ.เปาโลฯขึ้นชื่อเรื่องการยื้อชีวิตอยู่แล้ว ระหว่างที่ทางทีมแพทย์ทำการรักษายื้อชีวิต ตนและครอบครัวก็ได้ภาวนาอธิษฐานผลบุญกุศลที่ทำมาทั้งชีวิต ทั้งผลบุญที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนนักแสดงร่วมวงการเดียวกัน เพื่อให้ผลบุญกุศลเหล่านั้น มาสร้างปาฏิหาริย์ช่วยให้ลูกสาวตนฟื้นคื้นมา แต่สุดท้ายปาฏิหารย์ก็ไม่เกิดขึ้น ลูกสาวได้จากตนไปก่อนวัยอันควร

            "ผมหวังพึ่งแต่เพียงปาฏิหาริย์ เพราะหลายครั้งหลายครอบครัวเคยมีเหตุการณ์เสี่ยงตายจากคนที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรงก็ได้รอดตายมาแล้ว แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับลูกสาวของผม สงสัยเบื้องบนคงเห็นว่าลูกสาวผมเป็นคนดี จึงต้องการเอาไปอยู่ด้วยเร็ว ๆ "นายโกวิท กล่าวทั้งน้ำตา

             นายโกวิท กล่าวต่อว่า ตนได้วางแผนชีวิตให้กับลูกสาวคนนี้ซึ่งลูกสาวใกล้จะเรียนจบปริญญาตรี เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ เอกการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ก็ยังได้พูดคุยทาบทามกับนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า เมื่อลูกสาวเรียนจบแล้วจะให้เข้าไปทำงานในกระทรวง เพราะตรงกับสายที่เรียนจบมา ขณะเดียวกันก็วางแผนกันไว้ว่า จะผลักดันลูกสาวเข้าวงการบันเทิงให้เหมือนกับพี่สาว โดยวางแผนจะให้แสดงภาพยนตร์ที่ตนวางบทแสดงไว้ให้แล้ว ชื่อเรื่อง "อารีดัง" ให้เล่นคู่กับมิ้นท์ พี่สาว เป็นนางเอกคู่กัน ส่วนอีกเรื่อง "หักงวงไอยรา" เป็นหนังที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย และเผยแพร่ทัศนียภาพแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆในประเทศไทย โดยจะให้ลูกสาวรับบทเป็นมัคคุเทศก์ ซึ่งจะมีการอธิบายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เนื่องจากน้องมายด์เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษ แต่สุดท้ายความหวังก็พังทลายหายไป ไม่รู้ว่าตนจะมีใจสร้างหนังทั้งสองเรื่องที่คาดหวังไว้หรือไม่

             "ที่ผ่านมาน้องมายด์ พยายามหางานพิเศษทำอยู่ตลอด ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก เคยรับงานเป็นทีมล่ามให้กับนักฟุตบอลระดับโลก หลุยส์ นานี่ นักฟุตบอลชื่อดัง โปรตุเกส และโรนันโด้ หารายได้พิเศษตลอด เขาไม่เคยต้องรบกวนครอบครัวเลย" นายโกวิท กล่าว

              นายโกวิท กล่าวต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาเที่ยงคืน ลูกสาวได้ออกจากบ้านโดยบอกว่า ได้นัดหมายกับกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกันจะไปติวหนังสือเพื่อที่จะทำการสอบในวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งจริงๆแล้ว ตอนแรกลูกสาวไม่ค่อยอยากจะออกไป เนื่องจากในช่วงบ่ายวันที่ 9 ส.ค.ลูกสาวได้รับงานอีเวนท์ไว้ แต่เนื่องจากกลุ่มเพื่อนได้รวมตัวกันและไปรอที่ติวหนังสือไว้แล้ว จึงขัดเพื่อนไม่ได้ ตนจึงอนุญาตให้ออกจาก และก็มีเหตุการณ์ที่เหมือนเป็นลางบอกเหตุ เนื่องจากตนผูกพันกับคนในครอบครัวอยู่แล้ว และจะหอมแก้มลูกสาวเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้หอมแก้มลูกสาวถี่และหลายครั้งเป็นพิเศษ เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะได้หอมลาเป็นครั้งสุดท้าย ตนก็ฝากไปถึง ทุกๆคน เกี่ยวกับเรื่องการใช้รถใช้ถนนให้มีความระมัดระวัง หรือใครที่จะเดินทางไปไหน ไม่ว่าจะไปเที่ยวหรือไปทำงาน ไปติวหนังสือ การติวหนังสือติวอยู่บ้านจะปลอดภัยที่สุด อยู่ในสายตาของพ่อแม่ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง หวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตนคงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายคน

              ด้าน น.ส.มิณฑิตา พี่สาว  กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกัเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องทำใจเพราะว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนเกิดมาก็ต้องมีเกิด แก่ เจ็บตาย  แต่น้องสาวของตนก็ได้ตายก่อนที่จะแก่ ถือว่าน้องสาวได้ไปสบาย เพราะว่าทางครอบครัวรวมถึงตนก็ไม่อยากให้น้องสาวทุกข์ทรมานและขอขอบคุณทีมแพทย์ที่พยายามช่วยชีวิตน้องสาวอย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อยื้อให้ถึงที่สุดแล้วก็ต้องปล่อยน้องให้หลับอย่างสบาย ถ้าเกิดยื้อกลับคืนมาแล้วน้องยังต้องทุกข์ทรมานก็ไม่สมควรที่จะยื้อ สมควรที่จะปล่อยให้น้องไปสบาย ขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวตนเป็นอุทาหรณ์กับทุกคนในการใช้ชีวิตให้มีสติ อย่าประมาท หรือแม้กระทั่งการขับรถก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้าง่วงก็ไม่ขับ รักษากฎจราจรเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจเหมือนกับน้องสาวตน ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็ควรที่จะมีสติทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้

               "รู้สึกเสียดายที่หนูกับน้องสาวไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำกิจกรรมร่วมกับเท่าไหร่นัก และก็เสียดายน้องสาวเพราะอนาคตน้องสาวค่อนข้างสดใส เรียนก็กำลังจะจบ เรื่องทางด้านบันเทิงทางพ่อก็ได้ตระเตรียมไว้ให้แล้ว  และน้องสาวชอบที่จะถือศีล บวชชีพราหมณ์ ซึ่งวันสองวันที่ผ่านมา น้องสาวเคยเอาชุด บวชชีพราหมณ์ นุ่งขาว ห่มขาว  มาเตรียมไว้ เพื่อที่จะไปบวชชีพราหมณ์ แต่เนื่องจากน้องสาวติดงาน ก็เลยต้องยกเลิกการบวชชีพราหมณ์ออกไปก่อน สุดท้ายน้องสาวก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ดังนั้นจึงคิดว่าจะนำชุดดังกล่าว ถวายอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้กับน้องสาว ตามที่ได้ตั้งใจไว้" น.ส.มิณฑิตา กล่าว

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีบรรดาเพื่อนนักศึกษาของน้องมายด์ เดินทางมาดูศพต่างพากันร้องไห้ เศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังมีบรรดาเพื่อนนักแสดงในวงการของนายโกวิท และเพื่อนร่วมวงการของ น.ส.มิณฑิตา เดินทางมาให้กำลังใจกับทางครอบครัว  ปลอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ทางโรงพยาบาลได้แจ้งกับทางพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อให้เดินทางมาทำบันทึกประจำวันเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่รพ. ก่อนที่จะนำศพส่งไปให้กับทางสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ  ก่อนที่จะส่งให้กับทางญาติ ไปบำเพ็ญส่วนกุศล โดยทางครอบครัวจะนำศพไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดชลประทานฯ จ.นนทบุรี 

 

''น้องมายด์''ลูก''โกวิท''เสียชีวิตแล้ว

           ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 ส.ค.2555 น.ส.มาธวี วัฒนกุล อายุ 21 ปี (น้องมายด์) ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายโกวิท วัฒนกุล ดารานักแสดงชื่อดัง ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล สะพานควาย เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการค่อนข้างสาหัส  และทีมแพทย์พยายามให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ทำให้ น.ส.มาธวี สิ้นใจในเวลาต่อมา

 

ลูกสาวโกวิท วัฒนกุล ซิ่งเบนซ์ตกต่างระดับรัชวิภา


          เมื่อเวลา 05.30 น.  พ.ต.ท.นรา พันธุ์ยิ่งยก พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งตกลงมาจากทางต่างระดับรัชวิภาฝั่งขาออก บริเวณทางแยกตัววายมุ่งหน้าไปถนนวิภาวดีกับแยกประชานุกูล แขวงและเขตจตุจักร กทม. ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
 
          ที่เกิดเหตุบริเวณด้านล่างทางต่างระดับหน้าที่ทำการหมวดพื้นที่ 2 กลุ่มงานบำรุงรักษาท่อ ฝ่ายบำรุงรักษากองระบบท่อระบายน้ำ สำนักการระบายน้ำ กทม. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น 300 อี สีกรมท่า หมายเลขทะเบียน 1 อ-3331 กทม. อยู่ในสภาพพลิกตะแคงขวา ตัวถังฝั่งขวาพังยุบ กระจกหน้า กระจกข้างประตูหน้ากับประตูหลังฝั่งขวา และกระจกหลัง แตกละเอียดทั้งหมด ส่วนยางล้อหน้า และยางล้อหลังขวาแตกทั้ง 3 เส้น ถังน้ำมันแตกจนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ
 
          จากการตรวจสอบภายในรถ พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย นอนหายใจรวยรินอยู่ที่เบาะคนขับ โดยมีร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายทับไว้ โดยศีรษะของทั้งสองคนโผล่ออกมานอกตัวถังรถ แต่ถูกหลังคาทับคอไว้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบช่วยกันพลิกรถให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ ก่อนนำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล สะพานควาย ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.มาธวี วัฒนกุล อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซอยทานสัมฤทธิ์ 32/3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีอาการสาหัส จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาคือนายจักรพงศ์ เจริญผล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/64 ซอยประชาชื่น 12 แยก 1-2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายพบว่าคอหัก ศีรษะแตก
 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า น.ส.มาธวี วัฒนกุล หรือน้องมายด์ อายุ 21 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ สาขาการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังเป็นลูกสาวของโกวิท วัฒนกุล ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ และยังเป็นน้องสาวของ มิณฑิตา วัฒนกุล หรือ "มิ้นท์ เอเอฟ 3" ดารานักร้องชื่อดัง
 
          จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ นามเขียนทอง อายุ 56 ปี ลูกจ้างของสำนักการระบายน้ำ กทม. ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังเข้าเวรอยู่บริเวณที่ทำการหมวดพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ใต้ทางแยกต่างระดับรัชวิภา ระหว่างนั้นตนได้ยินเสียงเศษชิ้นส่วนรถกระเด็นตกลงมา พร้อมกับเสียงดังเหมือนรถครูดกับขอบกั้นทางด้านบน ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบออกมาดูก็พบว่ารถเบนซ์คันดังกล่าว อยู่ในสภาพพลิกตะแคงขวา ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะรีบมาช่วยนำร่างคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล เมื่อตนออกไปตรวจสอบบริเวณใกล้ๆ ก็พบว่ามีเศษกระจก กับไฟท้ายร่วงลงมาด้านล่างด้วย จึงคาดว่ารถน่าจะเสียหลักครูดกับขอบทางมาก่อน จนทำให้เมื่อวิ่งมาถึงทางแยกก็ร่วงตกลงมาดังกล่าว
 
          ด้านนายสันติภาพ สาริกา อาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ช่วงที่เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ก็พบว่ารถเบนซ์อยู่ในสภาพตะแคงขวา โดยผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่บนเบาะคนขับ ขายังคาอยู่ที่คันเร่ง และยังมีลมหายใจอยู่ แต่ถูกร่างของผู้ชาย ซึ่งเสียชีวิตทับร่างเอาไว้ โดยศีรษะของทั้งสองคนนั้นโผล่ออกมาด้านนอกตัวถังรถ แต่ถูกขอบหลังคาทับไว้ จึงรีบช่วยกันพลิกรถให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ ก่อนจะนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที
 
          ขณะที่ พ.ต.ท.นรา กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้นเสียก่อน จึงจะเข้าไปสอบปากคำว่า ใครเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ และเพราะสาเหตุอะไรจึงทำให้เสียหลักตกลงมาจากทางต่างระดับ ซึ่งหากผู้ตายเป็นคนขับก็ถือว่าคดีจบไป แต่ถ้าหากผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ขับรถ ก็อาจจะต้องแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยขณะนี้ได้แจ้งให้นายโกวิท วัฒนกุล ผู้เป็นพ่อทราบเรื่องแล้ว และกำลังไปดูอาการลูกสาวที่โรงพยาบาล

 

ทีมงานคมชัดลึก ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว วัฒนกุล ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก