'ดวง'เป็นตร.เต็มตัว-บรรจุลูก'ดาบยิ้ม' | คมชัดลึก

             ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 1 สิงหาคม  ว่าที่ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง บุตรชายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งถูกโอนย้ายจากการเป็นทหารมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ฝึกอบรม บช.น.เข้ารายงานตัวปฏิบัติหน้าที่ต่อพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. โดยว่าที่ร.ต.ท.ดวงแต่งกายในชุดเครื่องแบบนายตำรวจสัญญาบัตรยศร.ต.ท.เต็มยศ และมีนายตำรวจ อาทิ พล.ต.ต.สมชาย มุกสิกเจริญ ผบก.อก.บช.น. และพ.ต.อ. สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ศูนย์ฝึกอบรม บช.น. ให้การต้อนรับพร้อมกับพาแนะนำตัวกับรองผบช.น.ทุกนาย

              พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวกับว่าที่ร.ต.ท.ดวงว่ายินดีต้อนรับและขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ มีวินัย พร้อมกับจะมอบหมายให้ฝึกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลในเรื่องการใช้อาวุธปืน ยิงปืน ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกรูปแบบใหม่ที่ตำรวจทุกนายต้องได้รับการอบรม โดยจะให้ว่าที่ร.ต.ท.ดวง เป็นผู้กำกับดูแลการฝึก

              จากนั้นพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้สั่งการให้ว่าที่ร.ต.ท.ดวงไปแนะนำตัวกับรองผบช.น.ทุกนาย โดยว่าที่ร.ต.ท.ดวง ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ทั้งนี้ รองผบช.น.แต่ละนายก็ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมกับบอกให้ว่าที่ร.ต.ท.ดวง ตั้งใจทำงาน รักษาระเบียบวินัย และให้ศึกษาการทำงานของตำรวจให้ชัดเจน เพราะแตกต่างจากทหาร

มอบหมายงาน"หมวดดวง"ครูฝึกยิงปืน

              พ.ต.อ.สุพัชร กล่าวว่า เมื่อมารายงานตัวแล้วก็จะมีหนังสือจากทหารส่งมา โดยเมื่อมารายงานตัวตามลำดับชั้นเสร็จ ในส่วนที่มาอยู่ใน กก.ของตน ในหน้าที่ของ ศฝร.บช.น. มีหน้าที่รับและฝึกอบรมตำรวจอยู่แล้ว
 
              ที่ผ่านมาเห็นว่าว่าที่ ร.ต.ท.ดวง มีความสามารถด้านการใช้อาวุธปืน ก็มีนโยบายว่าหากมีความรู้ ความสามารถอย่างนี้ ต่อไปการฝึกอบรมตำรวจทั้งประทวน สัญญาบัตร ที่ต้องคลุกคลีและใช้อาวุธรวมถึงงานสายตรวจและฝ่ายสืบสวน เชื่อว่าหากมีความรู้ ความสามารถและนำมาช่วยงานตำรวจก็จะเป็นประโยชน์มาก ที่ผ่านมาตำรวจจะชำนาญเฉพาะอาวุธที่ตนเองใช้ แต่ชนิดอื่นก็ไม่ค่อยมี รวมถึงวิธีการยิง ตำรวจบ้านเราต่างกับตำรวจเมืองนอก เพราะเมืองนอกฝึกกันบ่อยครั้งและใช้งานได้จริงๆ แต่ส่วนของ บช.น.มีการฝึกค่อนข้างน้อยทั้งเรื่องการยิงปืน และยุทธวิธีตำรวจ หากมาก็อาจจะให้เป็นครูฝึกในด้านการยิงปืน

              พ.ต.อ.สุพัชร กล่าวอีกว่า เท่าที่สอบถามก็ทราบว่ามีความชำนาญเรื่องปืนสั้นเก่ง ส่วนที่ ศฝร.บช.น. จัดฝึกก็ต้องดูว่าจัดสถานที่ใด หากเป็นสาย ป. ก็ไปจัดที่โรงเรียนนายร้อย เพราะมีสนามยิงปืนด้วย โดยถือว่าดีเพราะจะถือเป็นครูฝึกวิทยากรประจำหน่วย ที่ผ่านมา ศฝร.บช.น. ไม่มีครูฝึก แต่จะจัดงานต่างๆเท่านั้น แต่บุคลากรชำนาญแต่ละเรื่องไม่มี หากจัดเรื่องใดก็ต้องหาวิทยากรมาอบรม เช่น เรื่องกฎหมาย ก็ต้องให้พนักงานสอบสวน หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย มาอบรม เป็นต้น ตอนนี้ ศฝร.บช.น. ยังไม่มีผู้ชำนาญงานประจำจริงๆมาทำหน้าที่ในหน่วย โดยว่าที่ ร.ต.ท.ดวง อาจเป็นคนแรกที่มาประจำการในหน่วยเลย เป็นผู้เชี่ยวชาญและครูฝึกด้านการใช้อาวุธปืน

บรรจุลูก'ดาบยิ้ม"คู่อริสังกัดรพ.ตร.

              พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช.แถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า สตช.ได้อนุมัติหลักการให้ดำเนินการบรรจุแต่งตั้งทายาทของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จำนวนทั้งสิ้น 101 ราย แบ่งออกเป็น ผู้มีวุฒิระดับปริญญาตรี จำนวน 81 ราย โดยบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการตำรวจเสร็จสิ้นแล้ว 46 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการ 35 ราย ผู้ที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน 20 ราย บรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจเสร็จสิ้นแล้ว 9 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 11 ราย  ซึ่งจำนวนนี้มีนายกิตติศักดิ์ รอดวิมุต ผู้มีคุณวุฒิวิทยาศาสตร์บัณฑิต (วิทยาศาสตร์สายตา) ทายาทของ ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต หรือดาบยิ้ม ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการพิจารณาบรรจุเข้ารับราชการตำรวจในสังกัด รพ.ตร.ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.2555

ตร.ป.โทยื่นหนังสือ"เฉลิม"ทวงถามเลื่อนตำแหน่งเป็น
 
              ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ด.ต.วัฒนา ปัดถาวะโร ผบ.หมู่งานป.สภ.หนองแสง จ.อุดรธานี ในฐานะประธานกลุ่มข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีคุณวุฒิปริญญาโท พร้อมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีคุณวุฒิปริญญาโทจำนวนกว่า200นาย เข้ายื่นหนังสือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินการแต่งตั้งเลื่อนข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีคุณวุฒิปริญญาโทเป็นตำรวจสัญญาบัตร หลังจากก่อนหน้่านี้ตร.ได้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ53ปี และกลุ่มที่จบปริญญาเอกขึ้นเป็นตำรวจสัญญาบัตรไปแล้ว 

              ด.ต.วัฒนา กล่าวว่า พวกตนเป็นตัวแทนกลุ่มข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่มีคุณวุฒิปริญญาโทที่มีอยู่กว่า 3,000 คนทั่วประเทศ มายื่นหนังสือเพื่อทวงถามความคืบหน้าของนโยบายดังกล่าว ซึ่งพวกตนไม่ได้ต้องการมากดดัน แต่ต้องการให้ตร.เห็นความสำคัญกับกลุ่มตำรวจชั้นประทวนที่มีคุณวุฒิปริญญาโท และพิจารณาเลื่อนขึ้นเป็นตำรวจสัญญาบัตร ตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม ได้รับปากแล้วว่าจะเร่งดำเนินการให้ พวกตนจึงรู้สึกพอใจ 

              ด้านร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาในรายละเอียด รวมทั้งหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว ที่จะเพิ่มโอกาสความก้่าวหน้าในอาชีพของตำรวจชั้นประทวน ซึ่งก่อนหน้าก็ได้ดำเนินการให้แล้วในกลุ่มของตำรวจชั้นประทวนที่มีอายุ 53 ปี และกลุ่มที่จบปริญญาเอก จึงขอให้ทุกคนอดใจรอ ยืนยันว่าจะดำเนินการให้อย่างแน่นอน