ป่วนใต้!บึ้มหลังรร.ซีเอสปัตตานี | คมชัดลึก

               เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 31 กรกฎาคม คนร้ายได้นำรถกระบะซึ่งบรรจุวัตถุระเบิดนำมาจอดที่บริเวณถนนกำแพงด้านหลังของโรงแรมซี.เอส. อ.เมือง ต.รูสะมีแล จ.ปัตตานี แล้วจุดชนวน โดยแรงระเบิดทำให้กำแพงและกระจกของโรงแรมได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เสียหาย 1 คัน หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิกู้ภัย เดินทางมาที่เกิดเหตุและช่วยอพยพแขกที่พักออกจากโรงแรมอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดเล็กน้อย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณที่เกิดเหตุแล้ว เพราะหวั่นเกรงว่าอาจจะมีระเบิดลูกที่ 2 ตามมา

               ตรวจสอบรถคันเกิดเหตุเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ธล 8099 กรุงเทพมหานคร ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงคนขับรถและคนในรถ ซึ่งเป็นคนงานส่งไก่จากสงขลาเสียชีวิตทั้ง 3 คน เหตุเกิดพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนนำมาใช้ทำคาร์บอมบ์ครั้งนี้
 
               นอกจากนี้ ยังมีเหตุระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้าบนถนนปากน้ำ เจ้าหน้าที่ระบุว่า คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปแขวนเอาไว้บนหม้อแปลงขนาดใหญ่ เมื่อเกิดระเบิดขึ้นจึงทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเขตเทศบาล

               จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบซากรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน สภาพถูกแรงระเบิดเหลือแต่ซาก แรงระเบิดยังทำให้เพลิงไหม้ตัวอาคารของโรงแรมเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะกระจกแตกละเอียดทั้งตึก โครงสร้างตัวอาคารบริเวณด้านหลังแตกร้าว เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณแก๊สหุงต้ม นอกจากนี้ยังมีพนักงานและลูกค้าที่พักได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เนื่องจากถูกเศษกระจกบาดตามลำตัว
 
               เวลาไล่เลี่ยกัน เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชาที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 4 คน

ผู้ว่าฯเผยซุกระเบิด50กก.-ไม่มีตาย
 
               นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ให้สัมภาษณ์ทางทีวีเนชั่นแชนแนล เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่หลังโรงแรมซี.เอส. ว่าจากการตรวจสอบทราบว่า คนร้ายขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนเดียว บรรทุกระเบิดประมาณ 50 กิโลกรัม มาจอดบริเวณนอกรั้วหลังโรงแรมซึ่งมีความสูง 8 ชั้น ใกล้กับเสาไฟฟ้าแล้วจุดชนวนทำให้ระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้หม้อแปลงที่เสาไฟฟ้าระเบิดทำให้ไฟฟ้าในโรงแรมดับด้วย นอกจากนี้ยังทำให้กระจกของโรงแรมด้านหลังแตกกระจายหลายบาน ขณะนี้ยังไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ช่วงที่คนร้ายขับรถมาจอด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณเสาไฟ
 
               นายธีระกล่าวอีกว่า สำหรับถนนหลังโรงแรมซี.เอส. จะป็นเส้นทางถนนสัญจรไปมาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ซึ่งมีไม่กี่หลัง และได้อพยพพนักงานของโรงแรมและแขกที่พักลงมาด้านล่างหมดแล้ว กำลังตรวจสอบความเสียหาย ขณะเดียวกับเจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบบริเวณโดยรอบโรงแรมและไม่พบวัตถุต้องสงสัยอีก สำหรับการป้องกันเหตุร้ายนั้นก็เพิ่งมีเรียกประชุมกันเพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุร้าย
 
               "เบื้องต้นยังไม่ได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมาก็สั่งการให้วางมาตรการเข้มบริเวณรอบเมือง แต่ไม่คาดคิดว่าคนร้ายจะนำรถบรรทุกระเบิดมาคาร์บอมบ์บริเวณหลังโรงแรมซี.เอส. ซึ่งบริเวณด้านหลังไม่มีเจ้าหน้าที่ รปภ.แต่อย่างใด จะมีแต่ด้านหน้าโรงแรมที่มีอยู่ 24 ชม. สำหรับเรื่องการข่าวก็มีแจ้งเข้ามาบ้างทั้ง 3 จังหวัดก็พยายามเน้นมาตรการในเขตเมืองเป็นสำคัญ" ผู้ว่าฯ ปัตตานี กล่าว 

               นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี เจ้าของโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี กล่าวว่า ทราบข่าวแล้วรู้สึกตกใจ และเป็นห่วงความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าที่เข้าพักแต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สำหรับสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โรงแรมเคยถูกวางระเบิดทำให้คนขับรถเสียชีวิต และ 4 ปีต่อมากลับมาเกิดอีกครั้ง จึงขอให้สังคมช่วยประณามกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งนี้ติดภารกิจที่กรุงเทพฯ จะเดินทางกลับในวันที่ 1 สิงหาคม
 
               รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุวางระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ในส่วนของพื้นที่ จ.ยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจป้องกันคนร้ายนำคาร์บอมบ์เข้ามาก่อเหตุ โดยเฉพาะสถานบันเทิง โรงแรม และย่านการค้า เนื่องจากหน่วยข่าวกรองแจ้งเตือนว่า คนร้ายอาจจะนำรถยนต์ 1 ใน 3 คันที่ใช้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ประกอบเป็นคาร์บอมบ์เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ได้

               ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นว่า ยืนยันว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเกิดด้านหลังโรงแรมซี.เอส.ปัตตานีเพียงจุดเดียว ไม่มีเหตุระเบิดจุดอื่น และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว ขอเวลาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน
 
               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากงานเลี้ยงสังสรรค์พรรคร่วมรัฐบาล โดยผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเหตุระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี นายกฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ได้รับรายงานแล้ว และขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมใดๆ

รร.เคยถูกวางบึ้มปี51-แม่ทัพ4ยันคุมได้
 
                สำหรับโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ถือเป็นโรงแรมอันดับ 1 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถือเป็นโรงแรมที่มีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะไม่เคยเกิดเหตุระเบิด และเหตุรุนแรงมาก่อน โดยเป็นกิจการของ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.สรรหา และเป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยว และผู้มาจัดกิจกรรมสัมมนา รวมทั้งผู้สื่อข่าวนิยมมาพัก เนื่องจากมีความมั่นใจในความปลอดภัย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2551 ได้เกิดเหตุคาร์บอมบ์ขึ้นบริเวณบันไดทางขึ้นหน้าโรงแรม และบริเวณห้องน้ำใกล้ล็อบบี้ของโรงแรม ส่งผลให้ รปภ.เสียชีวิตคาที่ 1 คน บาดเจ็บ 10 กว่าคน

.......................

(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก @SuwimonJinamoon และอาสาสมัครกู้ชีพสันติปัตตานี)